เอไอเอ บริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่ง เดินหน้ายืนหนึ่งด้วยกลยุทธ์เชิงรุก
เปิดกลยุทธ์ “เอไอเอ” ที่เป็นมากกว่าบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่ง เน้นการตลาดเชิงรุก สร้างความสัมพันธ์ที่มากกว่าการขายประกันชีวิต แต่จะอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้า
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย ซึ่งเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งนี้ในรอบ 83 ปีที่บริษัทเอไอเอดำเนินธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย กล่าวว่า แม้เอไอเอ จะประสบความสำเร็จในการเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีความมั่นคงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ โดยอยู่มายาวนานถึง 83 ปีก็ตาม แต่เอไอเอ ยังคงไม่หยุดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าส่งมอบความคุ้มครองระยะยาวให้แก่คนไทย ซึ่งความสำเร็จที่เราต้องการเห็นนั้น คือเห็นคนไทยมีความคุ้มครองทั้งด้านชีวิตและสุขภาพที่เพียงพอ พร้อมทั้งมีความมั่นคงและมั่งคั่งในระยะยาวที่ยั่งยืน โดยยึดกลยุทธ์ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในเชิงสร้างสรรค์ ปรับ Conversation ในการคุยกับลูกค้า พยายามนำตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้ามากขึ้น และสุดท้ายคือการมองลูกค้าเป็นคู่ชีวิต หรือ Partner ในทุกๆ วัน
“ความรู้สึกเดิมๆ ของลูกค้าประกันชีวิต คือ การที่ลูกค้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้จ่ายเบี้ยประกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องมีการเคลมประกัน บริษัทก็ทำหน้าที่จ่ายประกันให้ตามเงื่อนไข ซึ่งเป็นความสัมพันธ์แบบ เจอ-จ่าย-จบ ดังนั้น ทุกวันนี้ต้องถูกปรับเปลี่ยนไปสู่บริบทของการมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันของลูกค้า นั่นคือ ลูกค้าไม่ใช่เป็นเพียงผู้จ่ายเบี้ยประกัน หรือ Payor แต่เอไอเอ มองลูกค้าเป็น Partner ของเรา ซึ่งเราจะสามารถเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้าเพื่อสนับสนุนในด้านการดูแลสุขภาพ และชีวิตให้ดีขึ้น ภายใต้คำมั่นสัญญาของเอไอเอ ‘Healthier, Longer, Better Lives - เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ –โดยจากแนวความคิดนี้ เอไอเอต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงภาพลักษณ์ขององค์กร ที่จากเดิม คนส่วนใหญ่มองว่าเอไอเอ เป็นประกันของคนมีอายุและมีฐานะแล้วเท่านั้น ไปสู่ภาพลักษณ์ใหม่ ที่ดูเข้าถึงได้ รวดเร็ว ฉับไว และทันสมัยยิ่งขึ้น นับจากนี้ เมื่อลูกค้าและคนไทยทุกคนนึกถึงสุขภาพที่ดี และการมีชีวิตที่ยืนยาว ต้องคิดถึงเอไอเอก่อนใคร”
นายกฤษณ์ กล่าวต่อไปว่า เป้าหมายของเอไอเอต่อจากนี้ เอไอเอต้องทำอะไรที่นอกเหนือจากธุรกิจประกันชีวิต เพื่อให้ลูกค้าและคนทั่วไปที่ถึงแม้ยังไม่ได้เป็นลูกค้าของเรา สามารถสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของเอไอเอ ที่ไม่ได้มุ่งแต่การขายประกันชีวิต เป็นการสร้างการรับรู้ในระยะยาวว่า เอไอเออยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้าในทุกๆ ช่วงเวลาจากนี้และตลอดไป ทั้งนี้ การที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายดังกล่าว เอไอเอกำลังปรับขั้นตอนการทำงานในทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขาย ฝ่ายบริการ และฝ่ายบริการหลังการขาย ให้เป็น Digitize Process สอดคล้องกันในทุกๆ Touchpoint เพื่อเชื่อมโยงข้อมูล และวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าอย่างถูกต้องแม่นยำ รวมทั้งสามารถนำเสนอบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างถูกที่ ถูกเวลา และถูกใจ
“ปัจจุบันเรามี แอปพลิเคชันที่เป็นเครื่องมือในการสนับสนุนการทำงานของตัวแทน และอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าอยู่แล้วถึง 6 แอปพลิเคชัน แต่เรากำลังอยากรวมให้เหลือเพียงแอปเดียวเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ทั้งลูกค้าและตัวแทนให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างครบวงจร”
ขณะเดียวกัน เอไอเอ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและอบรมบุคลากร ทั้งตัวแทน ฝ่ายขาย รวมไปถึงพนักงานทุกภาคส่วนให้มีความรู้ และมีข้อมูลที่ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อช่วยเสริมศักยภาพและความสามารถของบุคลากร เพราะทุกคนถือเป็นฟันเฟืองที่คอยขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้า สำหรับตัวแทนประกันชีวิต เรามีความตั้งใจให้ตัวแทนเราขยับขึ้นไปเป็นที่ปรึกษาด้านประกันชีวิตและการลงทุนให้แก่ลูกค้าได้ในระยะยาว ภายใต้แบรนเอไอเอที่เข้มแข็ง และเทคโนโลยีที่ทันสมัยของเอไอเอ ผสมผสานกับความรู้ความสามารถของตัวแทนเอไอเอ และกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก จะทำให้เอไอเอพิชิตเป้าหมายความสำเร็จที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน


