กลุ่มทีปพิพัฒน์แตกไลน์รุกธุรกิจโรงแรม
กลุ่มทีปพิพัฒน์ ยักษ์ธุรกิจโลจิสติกส์ แตกไลน์อสังหาฯ ทุ่ม 600 ล้านพัฒนาโรงแรม ศิริปันนา จ.เชียงใหม่ เล็งอีก 3-5 ปีข้างหน้า ลุยต่อโรงแรมในภาคใต้
กลุ่มทีปพิพัฒน์ ยักษ์ธุรกิจโลจิสติกส์ แตกไลน์อสังหาฯ ทุ่ม 600 ล้านพัฒนาโรงแรม ศิริปันนา จ.เชียงใหม่ เล็งอีก 3-5 ปีข้างหน้า ลุยต่อโรงแรมในภาคใต้
นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีปพิพัฒน์ ดีเวลลอปเมนท์ เปิดเผยว่าได้ขยายธุรกิจจากที่ทำโลจิสติกส์มายังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และโรงแรม โดยได้ดำเนินโครงการแรกภายใต้ชื่อโครงการศิริปันนาธานี ประกอบไปด้วยโรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา ,เฮือนศิลป์สล่า,ล้านนาฟีลด์ และศิริปันนาแกลเลอรี่ บนเนื้อที่ 13 ไร่ ถ.ราษฎร์อุทิศ จ.เชียงใหม่ โดยใช้งบประมาณซึ่งรวมค่าที่ดิน 600 ล้านบาท ซึ่งเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เม.ย.ปี 2551 และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นปี 2554
ทั้งนี้โรงแรม จะให้บริการในรูปแบบล้านนา ลักชัวรี่ เซอร์วิส ซึ่งการให้บริการจะเป็นกลิ่นอายศิลปวัฒนธรรมล้านนา ประกอบด้วยห้องพัก 74 ห้อง ขนาดตั้งแต่ 51-254 ตารางเมตร อัตราค่าพัก 7,500- 2.5 หมื่นบาทต่อคืน และภายในบริเวณโรงแรมยังจัดเรือนแสดงนิทรรศการแสดงถึงวิถีความเป็นอยู่ของชาวล้านนา และแปลงพืชผักสวนครัว ผักปลอดสารพิษมให้แขกได้เยี่ยมชมและนำมาประกอบอาหาร ส่วนของห้องประชุม และโซนพื้นที่กิจกรรมภายนอกที่รองรับคนได้ 700 คน และยังให้บริการด้านสปา โดยคาดว่าโครงการนี้จะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 10 ปี
“ปัจจุบันโรงแรม ได้เปิดให้บริการในส่วนของโรงแรมตั้งแต่เมื่อต้นปี มีอัตราการเข้าพักของลูกค้าประมาณ 20% และคาดว่าหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้า อัตราการเข้าพักของลูกค้าจะเพิ่มเป็น 40% ซึ่งจะแบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย 50% และต่างชาติ 50% โดยจะเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กร ที่มาจัดประชุม รวมไปลูกค้าใน เอเชีย สหรัฐอเมริกาและยุโรป ที่เป็นลูกค้าระดับบน”นายศุภมิตร กล่าว
สำหรับกลยุทธ์การตลาดจะเน้นที่การทำตลาดผ่านสื่อออนไลน์ ผ่านเอเย่นต์ฯ การทำไดเร็ค มาร์เก็ตติ้งผ่านงานแสดงสินค้าและบริการต่างๆทั้งในและต่างประเทศ และการ ทำโปรโมชั่นร่วมกับพันธมิตรบัตรเครดิต
“ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวในจ.เชียงใหม่นั้น เดินค่อนข้างช้า แม้ว่าจะเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง แต่ยังไม่มีการนำเสนอการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ ในรูปแบบอันซีน อย่างเช่นในโรงแรมยังมีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดั้งเดิม เช่น บ่อน้ำโบราณอายุกว่า 100 ปี ต้นโพธิ์ยักษ์ รอยพระพุทธบาท และเน้นอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดั้งเดิม” นายศุภมิตร กล่าว
อย่างไรก็ตามในอีก 3-5 ปี บริษัทฯมีแผนจะทำธุรกิจโรงแรมประเภทบูทีค ในภาคใต้ เน้นเป็นโรงแรมขนาดเล็กเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องสถานที่
ปัจจุบันกลุ่มทีปพิพัฒน์ ทำธุรกิจโลจิสติกส์ มานานกว่า 40 ปี โดยขนส่งสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้างเป็นหลักให้กับเครือซิเมนต์ไทย(เอสซีจี) และทำรถโม้ปูนซีเมนต์ ในชื่อ เอกรัตน์ โปรดักส์ ขนส่งสินค้าให้กับ โออิชิ กรุ๊ป และเอสแอนด์พี โดยมีรถขนส่ง จำนวน1,600 คัน ซึ่งธุรกิจนี้สร้างรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทฯปีละ 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ทางกลุ่มยังดำเนินธุรกิจปั๊มน้ำมัน 6 แห่ง ให้กับเชลล์และคาร์เท็กซ์ มานาน 30 กว่าปี และยังเริ่มพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับราคา 1 ล้านกว่าบาทใน ซ. โชคชัยร่วมมิตร ถ.วิภาวดีรังสิต ด้วย


