posttoday

คาถาหัวใจเศรษฐีของท่าน ว.วชิรเมธี กับธุรกิจครอบครัว

30 พฤศจิกายน 2553

....กิตติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์

ผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ เคล็ดลับหัวใจเศรษฐีซึ่งเขียนโดยท่าน ว.วชิรเมธี ปราชญ์ทางพุทธศาสนาคนสำคัญแห่งเมืองไทย ยั่งยืนควรได้อ่านหนังสือเล่มนี้ หลังจากได้อ่านรวดเดียวจบ ผมพบว่าสำหรับธุรกิจครอบครัวที่ต้องการรักษาความยั่งยืนควรได้อ่านหนังสือเล่มนี้

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ผมคิดว่าจะเป็นหนังสือที่เหมาะกับสมาชิกในครอบครัวที่ต้องการรักษาหรือสืบทอดธุรกิจอย่างยั่งยืนเพื่อเป็นเศรษฐี หนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Book Smile และ 7Eleven ราคา 59 บาท ผมขอเชียร์หนังสือเล่มนี้ครับ

การสืบทอดธุรกิจครอบครัวอย่างยั่งยืนอย่างเศรษฐีนั้น ถ้าตามความหมายทั่วไปก็คือ คำว่า เศรษฐีหลายคนคงเข้าใจผิดว่าแปลว่า ผู้มีทรัพย์มาก แต่ความจริงแล้ว เศรษฐีนั้น ท่าน ว.วชิรเมธี ให้หมายถึง คนใจบุญ คนมีคุณธรรมที่ประเสริฐเลิศล้ำส่วนคนที่มีทรัพย์มากนั้น เขาเรียกว่า มหาวาณิชความหมายของคำว่า เศรษฐีกับ คนรวยจึงต่างกัน คำว่า มหาวาณิชแต่พ่อค้าสามารถเป็นเศรษฐีได้ถ้ารู้จักเปลี่ยนทุนให้เป็นธรรม

ดังนั้น ธุรกิจครอบครัวที่จะยั่งยืนนั้น นอกจากจะทำให้ธุรกิจเจริญเติบโตมีความเป็นมหาวาณิชแล้ว มีความจำเป็นที่จะต้องเป็นเศรษฐีด้วย หนังสือเล่มนี้จะบอกวิธีง่ายๆ ของเคล็ดลับหัวใจเศรษฐี ท่าน ว.วชิรเมธี ได้กล่าวไว้อีกว่า ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสอน การรักษาความมั่งคั่ง การสอนลูกให้ร่ำรวยตามตำราฝรั่งและตำราไทยบางเล่มที่ชื่อ สอนลูกให้รวยเน้นในเรื่องของการทำให้มีเงิน แต่ว่ามุ่งผลเลิศไปถึงความมั่งคั่ง แต่ไม่คำนึงถึงว่าชอบธรรมหรือไม่ มุ่งเน้นความสำเร็จเฉพาะในแง่ธุรกิจ แต่ล้มเหลวในเชิงจริยธรรม

หนังสือเล่มนี้ของท่าน ว.วชิรเมธี ได้กล่าวไว้ว่าการเป็นเศรษฐีนั้น จะต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น เริ่มต้นที่ความขยันหมั่นเพียรให้เหมือนผึ้ง ทักษะของการค้าขาย หัวใจเศรษฐี เป็นทั้งคนดีและคนรวย โดยหนังสือแบ่งเป็น 5 บท หนาเพียง 133 หน้า

สิ่งที่ผมอยากจะนำมาเล่าให้ผู้อ่านฟังก็คือ หัวใจ ซึ่งในเรื่องทักษะของการค้าขายนั้น ท่าน ว.วชิรเมธี ได้บอกไว้ว่า องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ไว้แล้วว่า นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จนั้น จะต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 3 ประการคือ

1.ต้องมีวิสัยทัศน์ที่ดี (ภาษาบาลีใช้คำว่า จักษุมา”) (Vision) ในทางธุรกิจครอบครัวเปรียบเทียบแล้วก็คือว่า การมี Vision การรู้ว่าการทำธุรกิจครอบครัวนั้นจะดำเนินการไปเช่นไร มีความชัดเจนว่าธุรกิจที่เรากระทำของครอบครัวนั้น จะมีจังหวะและมีการดำเนินการอย่างไร

2.ต้องมีการบริหารจัดการที่ดี (ภาษาบาลีใช้คำว่า วิทูโร”) (Good Management หรือ Good Planning) เป็นเรื่องที่นักธุรกิจจะต้องทำอยู่แล้ว

3.ต้องมีเครือข่ายสัมพันธ์ที่ดี (ภาษาบาลีใช้คำว่า อุปนิสสัมปันโน”) (Good Connection) เพราะว่าการทำธุรกิจแต่ลำพังเพียงคนเดียวนั้นจะทำไม่สำเร็จ โดยท่านได้ให้คำว่า นายดึง ลูกน้องดัน คนเสมอกันช่วยหรือเครือข่ายที่ดี

ผู้มีธุรกิจครอบครัวก็จะต้องรู้จักเครือข่ายด้วย และทั้ง 3 สิ่งนี้จะต้องทำไปด้วยกัน ซึ่งเครือข่ายนี้จะต้องเป็นเครือข่ายที่อยู่บนพื้นฐานของความชอบธรรมถูกต้องตามกฎหมายและศีลธรรม ไม่ใช่ช่วยเหลือแต่พรรคพวกจนลืมความถูกต้อง (ส่วนนี้ผมเพิ่มเองครับ)

คาถาหัวใจเศรษฐี 4 คำ

เจ้าของธุรกิจครอบครัวที่มีทั้งการค้าขาย 3 ประการข้างต้น ก็ย่อมทำได้สำเร็จ แต่ที่สำคัญมากก็คือ เรื่องหัวใจเศรษฐีที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจครอบครัว ซึ่งท่าน ว.วชิรเมธี ได้ให้คาถาไว้ 4 คำคือ

อุมาจากคำว่า อุฏฐานสัมปทาแปลว่า ขยันหา

อามาจากคำว่า อารักขสัมปทาแปลว่า รักษาดี

กะมาจากคำว่า กัลยาณมิตตตาแปลว่า มีกัลยาณมิตร

สะมาจากคำว่า สมชีวิตาแปลว่า ใช้ชีวิตพอเพียง

ในหนังสือท่านก็ได้ขยายความว่า การขยันหานั้น จะต้องเดินไปข้างหน้า ขยันมากก็ได้มาก

ขยันหาต้องขยันตลอดเวลา

รักษาดีจะต้องเก็บรักษาทรัพย์สินที่หามาได้ โดยเก็บไว้โดยพระพุทธเจ้าได้สอนไว้ว่ามี 6 ข้อ คือ

(1) ต้องเก็บสำรองคงคลัง เก็บไว้เพื่อใช้จ่ายยามป่วยไข้

(2) แบ่งเงินมาใช้กินด้วย เงินเป็นสิ่งสมมติ

(3) นำเงินมาต่อเงิน ทำธุรกิจ การเอาเงินต่อเงินก็อย่าทำเกินกำลังก็คือ อย่างที่สุภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า ครอบครัวจะมั่นคงต้องมีก้อนเส้า 3 ขา ก็คือ หม้อแกงตั้งบนหิน ก็จะต้องมีเสา 3 เสามาค้ำยันเอาไว้ เปรียบเหมือนกับว่าครอบครัวจะต้องมั่นคงได้คือ จะต้องมีเสา 3 เสาค้ำยันอยู่ คล้ายๆ กับเปรียบเทียบกับ 3 วงกลมของ Professor Davis ที่มีความสำคัญต่อธุรกิจครอบครัวที่เคยได้เขียนมาแล้ว

ฉบับหน้าค่อยมาต่อรักษาดีข้อ 4 ถึง 6 กันนะครับ

ข่าวล่าสุด

วิกฤตชิปคัมแบ็ก! คาด 2026 ตลาดสมาร์ทโฟนจ่อหั่นสเปก ขึ้นราคายกแผง