High-Watermark Auto-Redemption
....สมาคมบริษัทจัดการลงทุน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) สยาม ไนท์ฟันด์ แมเนจเม้นท์ มีความเชี่ยวชาญการลงทุนสำหรับกองทุนส่วนบุคคล และเป็น บลจ.ที่มีความเป็นอิสระทั้งโดยโครงสร้างบริหารและการถือหุ้น โดยความเชี่ยวชาญและความเป็นอิสระนั้น ทำให้ บลจ.มุ่งเน้นการเป็นมืออาชีพในการบริหารกองทุนส่วนบุคคล จุดเด่นของ บลจ. คือ ลูกค้าแต่ละรายสามารถเลือกลักษณะกำหนดกรอบของการลงทุนตามที่ตนเองสนใจ (หรือเรียกว่า TailorMade) และเหมาะสมกับข้อมูลความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละรายนั้น และด้วยลักษณะเฉพาะของ บลจ. ลูกค้าแต่ละท่านจะได้รับการดูแลจากผู้จัดการกองทุนรวมถึงทีมงานอย่างใกล้ชิด ลูกค้าสามารถติดต่อกับทางผู้จัดการกองทุนได้โดยตรง หากมีความต้องการเปลี่ยนแปลงกรอบการลงทุนหรือมีคำถามอื่นใดเป็นพิเศษ
นอกจากบริหารกองทุนส่วนบุคคลแล้ว บลจ.ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับกองทุนต่างประเทศหลายกองทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนในตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้ การเป็นที่ปรึกษานี้ทำให้ บลจ.มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสถาวะการลงทุนในภูมิภาคเป็นอย่างดี ผู้จัดการกองทุนสามารถให้มุมมองเชิงกว้างครอบคลุมตลาดในประเทศและตลาดในภูมิภาคไปควบคู่กัน
HighWatermark AutoRedemption
เนื่องจากสภาวะตลาดในปัจจุบันมีลักษณะที่ท้าทายสำหรับนักลงทุน ทั้งในส่วนของปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ และเมื่อพิจารณาในระยะยาว สภาวะของตลาดที่ผ่านมาที่มีความผันผวนไม่น้อย ทำให้นักลงทุนจำนวนหนึ่งต้องการที่จะปกป้องมูลค่าการลงทุนของตัวเอง หากปัจจัยด้านลบมากระทบกับภาพรวมของการลงทุน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการเสียโอกาสในการลงทุน บลจ.ขอนำเสนอการเสริมบริการการลงทุนรูปแบบ HighWatermark AutoRedemption ซึ่งมีแนวคิด คือ เป็นการลงทุนตามแผนงานที่ตกลงร่วมกันกับลูกค้า เสริมด้วยการทำการไถ่ถอนหน่วยลงทุนบางส่วนโดยอัตโนมัติเมื่อผลการดำเนินการของกองทุนขึ้นไปถึงระดับที่ได้ตกลงร่วมกัน ซึ่งการลงทุนดังกล่าวอยู่บนหลักการคืนส่วนกำไรและปันผลให้กับลูกค้า โดยที่ผู้จัดการกองทุนจะต้องรักษาระดับผลดำเนินการของกองทุน โดยมุ่งเน้นการบริหารมูลค่าของเงินลงทุนให้คงไว้ที่ระดับใกล้เคียงกับเงินเริ่มลงทุน ทั้งนี้เพื่อเป็นการประกันผลตอบแทนเบื้องต้นให้ลูกค้า เพื่อผลตอบแทนโดยรวมที่ดีขึ้นนั่นเอง
กระบวนการตัดสินใจลงทุนและมุ่งเน้น Value Investment
คณะกรรมการลงทุนจะใช้วิธีการพิจารณาหุ้นรายตัวในการตัดสินในการลงทุน (BottomUp Approach) โดยให้น้ำหนักมากกว่าการพิจารณาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจแบบเจาะจงหรือรายอุตสาหกรรม ซึ่งในการพิจารณาหุ้นรายตัวดังกล่าว คณะกรรมการจะต้องใช้การวิเคราะห์หุ้นโดยละเอียด ซึ่งไม่เพียงแต่การวิเคราะห์โดยใช้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น แต่คณะกรรมการหรือนักวิเคราะห์จะต้องเข้าเยี่ยมชมกิจการของหุ้นที่จะลงทุนและสอบถามข้อมูลเชิงลึกจากหลายแหล่งข้อมูลอีกด้วย
คณะกรรมการจะคัดเลือกหุ้นที่จะลงทุนโดยเปรียบเทียบจากอัตราส่วนต่างของราคาหุ้นในปัจจุบันกับมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งเมื่อคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าหุ้นดังกล่าวมีราคาต่ำกว่ามูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงคุณสมบัติอื่นที่จะทำให้ปัจจัยพื้นฐานมีมูลค่าสูงขึ้น คณะกรรมการจะอนุมัติหุ้นดังกล่าวให้อยู่ใน Approved List นอกจากนี้คณะกรรมการจะพิจารณาขายหุ้นเมื่อราคาหุ้นดังกล่าวอยู่ในระดับเดียวกับมูลค่าทางปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งหมายความว่า คณะกรรมการจะระบุหุ้นที่จะทำการลงทุน หรือทำการขายสำหรับหุ้นทุกตัวของกองทุนเป็นรายหุ้น คณะกรรมการยังมีหน้าที่ตรวจสอบการปรับมูลค่าหุ้นหรือปริมาณการถือครองหุ้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่จะลงทุน


