เดอะมอลล์ปรับทัพใหญ่ กรุยทางสู่บริษัทข้ามชาติ

โดย...วันเพ็ญ พุทธานนท์

หลังจากดำเนินธุรกิจมานานกว่า 38 ปี ถึงเวลาที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป ยกเครื่ององค์กรครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการถ่ายเลือดเสริมทีมบริหารใหม่เข้ามาร่วม ขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเฉพาะผู้บริหารต่างชาติ เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทข้ามชาติรองรับการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกที่ ดุเดือดเช่นปัจจุบัน

ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์ของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่มุ่งยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนและของโลก ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเดอะมอลล์ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าที่บริหารงานภายใต้บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้แก่ ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ทุกสาขา พารากอน เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และบลูพอร์ต หัวหิน โดยในแต่ละปีมีลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เข้ามาใช้บริการเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป มากถึง ปีละ 500 ล้านคน
 
สำหรับปี 2562-2566 เดอะมอลล์ กรุ๊ป วางเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นหนึ่งในวงการค้าปลีกไทย โดยนอกจากจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีการปรับตัวครั้งสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจรีเทลมีความท้าทายมากขึ้นจากเดิม เพราะการเข้ามาของอี-คอมเมิร์ซ หรือ ค้าปลีกออนไลน์ จึงจำเป็นต้องอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกต้องมีบิ๊กดาต้าที่ถูกต้องและแม่นยำ ที่สำคัญต้องเข้าถึงและสื่อสารกับลูกค้าผ่านทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์

ดังนั้น เดอะมอลล์ กรุ๊ป จึงปรับกลยุทธ์โดยการนำการค้าการขายแบบออฟไลน์มาหลอมรวมให้เป็นเนื้อเดียวกับการค้าการขายแบบออนไลน์ในรูปแบบที่ไร้รอยต่อ (SEAMLESS) ด้วยการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ใช้เทคโนโลยีแซพเข้ามาปรับระบบการทำงานใหม่ทั้งหมด

ที่สำคัญยังได้ปรับขบวนทัพใหม่ นำผู้บริหารระดับสูงที่มีความเชี่ยวชาญในวงการค้าปลีกจากทั้งในและต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ฝรั่งเศส ฯลฯ มาเสริมทัพ โดยมี โรเบิร์ต เจมส์ ซิสเซล เข้ามารับผิดชอบในตำแหน่ง ซีอีโอกลุ่มรีเทล เพื่อเป็นแม่ทัพกลุ่มธุรกิจรีเทล ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ทุกสาขา เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ พารากอน และบลูพอร์ต หัวหิน

นอกจากนี้ ยังมีผู้บริหารเข้ามารับผิดชอบในแต่ละกลุ่มธุรกิจ หลักๆ จะแบ่งเป็นกลุ่มรีเทล เทรดดิ้ง และเรียลเอสเตท โดย ศุภลักษณ์ จะดูแลงานด้านเรียลเอสเตททั้งหมด

การปรับทัพดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อกรุยทางบริษัทสู่การเป็นบริษัทข้ามชาติ จากเดิมที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป มีภาพลักษณ์เป็นบริษัทโลคัล สู่การเป็นบริษัทมัลติเนชั่นแนล เพื่อรองรับการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีก รวมถึงมองหาโอกาสในธุรกิจใหม่ เช่น มิกซ์ยูส โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่การเป็นเดอะมอลล์ ยุค 4.0 เพื่อยกระดับกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ให้มีความพร้อมในการก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่

ศุภลักษณ์ กล่าวปิดท้ายว่า ประเทศไทยต้องสร้างให้เป็นฮับด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ระดับโลกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยธุรกิจเกี่ยวเนื่องและภาพรวมเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ซึ่งเดอะมอลล์เองก็มีแผนจะรุกธุรกิจแอคแทรคชั่นเป็นแม่เหล็กดึงลูกค้าเช่นกัน