เอ็นซีซียึดศูนย์สิริกิติ์50ปี

กรมธนารักษ์แก้สัญญาเช่าที่ศูนย์การประชุมสิริกิติ์ ให้กลุ่ม เอ็น.ซี.ซี. เช่าระยะยาว 50 ปี

นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า การที่กรมธนารักษ์ต่อสัญญาเช่าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ให้ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ (NCC) โดยไม่ต้องประมูล และแก้ไขสัญญาเช่าจาก 25 ปี เป็น 50 ปี  มีการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นว่า หากคู่สัญญาปฏิบัติผิดสัญญาก็สามารถยกเลิกสัญญาได้ แต่หากไม่มีเหตุเลิกสัญญาก็สามารถแก้ไขสัญญาได้ โดยทางราชการจะต้องได้รับประโยชน์และผลประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าหรือดีกว่าข้อกำหนดในสัญญาเดิม และจะต้องพิจารณาว่ามีกฎหมายที่รองรับให้แก้ไขได้หรือไม่

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้พิจารณาแล้วว่าคู่สัญญามิได้ปฏิบัติผิดสัญญา และไม่มีประเด็นที่เป็นเหตุให้บอกเลิกสัญญา แต่เนื่องจากข้อจำกัดทางด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นเหตุพ้นวิสัยที่ทำให้คู่สัญญาไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างตามเงื่อนไขสัญญาได้ และสัญญายังคงมีผลผูกพันต่อกัน

นอกจากนี้ หากบอกเลิกสัญญาอาจเกิดการฟ้องร้อง ไม่สามารถนำทรัพย์สินออกประมูลหรือบริหารจัดการได้ ทางเลือกในการแก้ไขสัญญาที่ทำให้ทางราชการได้ผลประโยชน์ไม่น้อยกว่าหรือดีกว่าเดิม จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อให้สัญญาเดินต่อไปได้ โดยใช้อำนาจในการแก้ไขสัญญาตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 มาตรา 43 คณะกรรมการกำกับดูแล ในการพิจารณาแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนตามหมวด 7 โดยได้พิจารณาทั้งเรื่องรูปแบบและผลประโยชน์ตอบแทนสูงสุดที่รัฐควรจะได้รับที่ไม่น้อยไปกว่าผลประโยชน์ตอบแทนตามสัญญาเดิม

สำหรับรูปแบบโครงการ คือการก่อสร้างศูนย์ประชุม รวมพื้นที่เชิงพาณิชย์และที่จอดรถไม่น้อยกว่า 1.8 แสน ตร.ม. มูลค่าก่อสร้างไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท

นายอำนวย กล่าวว่า กรณีการยึดพื้นที่ทำกินของประชาชน พื้นที่สาธารณะ และพื้นที่ป่าไม้ ไปให้แก่กลุ่มนายทุนเพื่อไปทำเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้นไม่เป็นความจริง การทำเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ รัฐบาลมีนโยบายในการดำเนินการพัฒนาประเทศ โดยการสร้างความเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ผลักดันให้เกิดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและกระจายความเจริญลงสู่ท้องถิ่น

ภาพจากเฟซบุ๊กQueen Sirikit National Convention Center