ยังตรึงตราและประทับใจ 80 ปี The Wizard of Oz
ปลายเดือนนี้ The Wizard of Oz
โดย เพ็ญแข สร้อยทอง
ปลายเดือนนี้ The Wizard of Oz จะนำกลับมาฉายในโรงอีกครั้ง เนื่องในวาระครบรอบ 80 ปี ของหนังสุดคลาสสิก ซึ่งยังคงประทับใจ และตรึงตราในความทรงจำของผู้คนมากมาย
The Wizard of Oz หรือพ่อมดแห่งเมืองออซ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ ตามผลสำรวจยังบอกอีกว่า เป็นหนังที่มีอิทธิพลกับชีวิตของผู้ชมมากที่สุดเรื่องหนึ่ง
ผลงานของค่าย MGM แรกออกฉายในปี 1939 สร้างมาจากนวนิยายขายดี The Wonderful Wizard of Oz ของนักเขียนชาวอเมริกัน แอล แฟรงก์ บอม กำกับโดย วิคเตอร์ เฟลมิง นำแสดงโดย จูดี การ์แลนด์ (โดโรธี เกล) แฟรงก์ มอร์แกน (พ่อมดแห่งออซ) แจ็ค เฮลี่ย์ (หุ่นกระป๋อง-ทิน แมน) เรย์ โบเกอร์ (หุ่นไล่กา) เบิร์ต ลาร์ (สิงโต) ฯลฯ
เล่าเรื่องของโดโรธีและน้องหมาโตโต้ที่โดนพายุพัดไปจากแคนซัสไปอีกโลกหนึ่ง เพื่อที่จะหาทางกลับบ้าน เธอไปขอความช่วยเหลือจากพ่อมดแห่งออซ ระหว่างเดินทางตามถนนอิฐสีเหลือง สาวน้อยได้พบกับหุ่นไล่กาที่อยากมีสมอง หุ่นกระป๋องที่อยากมีหัวใจ และสิงโตที่ต้องการความกล้าหาญ ทั้งหมดไปหาพ่อมดแห่งออซเพื่อขอในสิ่งที่ต้องการ ระหว่างนั้นก็ได้เผชิญกับแม่มดร้ายที่ตามรังควาน โชคดีที่มีเทพธิดาคอยช่วยเหลือ แต่แล้วสิ่งที่พวกเขาคิดและคาดหวังเกี่ยวกับพ่อมดออซกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น สุดท้ายโดโรธีก็ค้นพบว่า ...ไม่มีที่ใดเหมือนบ้าน
เสน่ห์ของ The Wizard of Oz อยู่ตรงสีสันจัดจ้านของเทคนิคคัลเลอร์ รวมทั้งเรื่องราวอันสุดแสนแฟนตาซี ขณะที่ตัวละครมีสีสันไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะนางเอกคือ โดโรธี เกล เจ้าโตโต้สุนัขแสนรู้ รวมทั้งเพื่อนๆ ทั้งสามคือ หุ่นกระป๋อง สิงโต และหุ่นไล่กา
เมื่อหนังออกฉายได้รับคำชื่นชมจากเหล่านักวิจารณ์มากมาย แต่ไม่สร้างกำไร จนกระทั่ง 10 ปีต่อมาที่นำมาฉายใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ตัวเลขที่สูงนัก ในปี 1956 หนังถูกนำมาฉายทางโทรทัศน์ครั้งแรก ก่อนที่จะกลายเป็นหนังที่ถูกฉายทางโทรทัศน์มากที่สุดเรื่องหนึ่งของสหรัฐ ทำให้คนรุ่นต่อๆ มาคุ้นเคยกับ The Wizard of Oz อย่างดี
หนังเรื่องนี้สร้างชื่อให้ดาราสาววัย 16 ปี จูดี การ์แลนด์ อย่างมาก เช่นเดียวกันกับเพลง Over The Rainbow ซึ่งเธอขับร้องประกอบหนัง เพลงที่มีความหมายลึกซึ้ง มอบความหวังให้กับผู้คน ส่งเสริมไม่ท้อแท้และล้มเลิกความฝัน แม้ว่าหลังจากนั้นจะมีคนบันทึกเสียงเพลงนี้มากมายหลายเวอร์ชั่น แต่การขับขานของ จูดี ยังคงอยู่ในใจของผู้คน
The Wizard of Oz ถูกเสนอชิง 6 สาขา รางวัลออสการ์ รวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่ก็พ่ายต่อ Gone with the Wind (อีกผลงานกำกับของ วิคเตอร์เฟลมิง เช่นกัน) แต่ก็คว้าเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก Over the Rainbow และดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดย เฮอร์เบิร์ต สตอทฮาร์ต
ในเวลาต่อมาถูกนำไปสร้างเป็นละครเพลง โดยมี แอนดรูว์ ลอยด์ เวบเบอร์ และทิม ไรซ์ มาทำเพลง ในปี 1985 วอลต์ ดิสนีย์ สร้างหนัง Return to Oz โดยดัดแปลงจากหนังสือของ แอล แฟรงก์ บอม ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก และเมื่อปี 2013 ก็มี Oz the Great and Powerful ออกมาอีก หนังทำเงินไม่น้อย
หากอยากรู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับ The Wizard of Oz ควรอ่านหนังสือของ เจย์ สการ์โฟน และวิลเลียม สติลแมน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ เล่มล่าสุดที่พวกเขาเขียนคือ The Road to Oz ซึ่งรวมบทสัมภาษณ์คนทำงาน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนัง ทั้งยังมีข้อมูลแปลกใหม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อนรวมอยู่ด้วย
งานเขียนของ แอล แฟรงก์ บอม รวมทั้งหนังที่สร้างขึ้นมาจากหนังสือ ถูกยกย่องให้เป็น “เทพนิยาย” ของอเมริกันที่ยิ่งใหญ่และมีคนรักมากที่สุด The Wizard of Oz นับว่าเป็นประวัติศาสตร์ของฮอลลีวู้ด และส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอเมริกัน โรเบิร์ต อีเบิร์ต นักประวัติศาสตร์ นักเขียน และนักวิจารณ์ชื่อดัง เขาเลือกหนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในงานยิ่งใหญ่ตลอดกาล ด้วยความตลก ดนตรี เทคนิคพิเศษ และความตื่นเต้น หลายทศวรรษต่อมาเรายังดูหนังเรื่องนี้อยู่ “เพราะเรื่องราวที่แฝงอยู่ในหนัง ได้แทรกซึมตรงไปสู่ความรู้สึกไม่มั่นคง ซึ่งอยู่ลึกที่สุดของวัยเด็ก เข้าไปกระตุ้นและสร้างความมั่นใจให้กับพวกเขา”
นักเขียนอย่าง ซัลแมน รัชดี ก็ยกย่องให้หนังเรื่องนี้เป็น “อิทธิพลทางวรรณกรรม” สำหรับเขา “ตอนที่ผมดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรก มันได้สร้างความเป็นนักเขียนในตัวผม” และเรื่องสั้นเรื่องแรกในชีวิต ซึ่งเขาเขียนเมื่ออายุ 10 ขวบ มีชื่อว่า Over the Rainbow
ใครที่คิดถึงถนนอิฐสีเหลือง เมืองมรกต จูดี การ์แลนด์ เพลง Over the Rainbow ฯลฯ ก็ไปหา The Wizard of Oz มาดูกัน และไม่ว่าจะดูอีกสักกี่รอบ ความประทับใจยังเกิดขึ้นได้เสมอ


