posttoday

พาเที่ยวยุทธภพ วัดเส้าหลิน

30 ธันวาคม 2561

ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

โดย ภากร กัทชลี เจ้าของเพจอ้ายจง นักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยซีเตี้ยน เมืองซีอาน มณฑลส่านซี 

ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ อ้ายจงขอเล่าประวัติของสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจีนที่คนไทยรวมถึงชาวต่างชาติประเทศอื่นๆ หรือแม้แต่คนจีนเองนิยมไปยังสถานที่แห่งนี้จำนวนมาก โดยเฉพาะการเดินทางท่องเที่ยวตามเทศกาล ไม่ว่าจะหยุดปีใหม่สากล หรือปีใหม่จีน-เทศกาลตรุษจีน

สถานที่แห่งนั้นคือวัดเส้าหลิน

วัดเส้าหลิน หรือชื่อเรียกในจีนกลาง“เส้าหลินซื่อ” แปลว่า วัดป่าบนเขาเส้าซื่อ เป็นวัดทางพระพุทธศาสนานิกายมหายาน ตั้งอยู่บนยอดเขาเส้าซื่อทางทิศตะวันตกของเขาซงซาน ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของจีน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัดแห่งนี้

วัดเส้าหลินเป็นวัดจีนที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,500 ปี สร้างขึ้นในปี 1038 ในสมัยของพระเจ้าไท่เหอ แห่งวุ่ยเหนือ ในช่วงแรกของการถือกำเนิดของวัดเส้าหลิน ยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนวิทยายุทธ์อันเลื่องลือ ช่วงนั้นเป็นเพียงวัดทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น แต่เมื่อ “ตั๊กม้อ” พระภิกษุจากประเทศอินเดีย ได้เดินทางมาจำวัดที่เส้าหลิน พร้อมทั้งเผยแพร่พระพุทธศาสนานิกายเซน ซึ่งว่าด้วยการฝึกสมาธิและเจริญกรรมฐาน เพื่อให้ถึงฌาน อันเป็นหัวใจหลักของเซน

นอกจากการสอนให้พระภิกษุในวัดเส้าหลิน รู้จักการฝึกธรรมะตามแบบเซนตั๊กม้อยังสอนวิชากังฟู ซึ่งเน้นท่าที่ช่วยให้กล้ามเนื้อและข้อต่อตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เกิดความแข็งแรง เพื่อให้สามารถฝึกสมาธิและเจริญกรรมฐานได้เป็นเวลานานได้

ตั้งแต่นั้นมาวัดเส้าหลินจึงขึ้นชื่อเรื่องวรยุทธ์ และวิชากังฟู ซึ่งมีการพัฒนาเป็นกระบวนท่าเฉพาะของเส้าหลิน เช่น วิชาหมัดเส้าหลิน 72 กระบวนท่า เป็นต้น

จากการนำลัทธิเซนมาเผยแพร่ที่วัดเส้าหลิน พร้อมทั้งกระบวนท่าวิชากังฟู ทำให้วัดเส้าหลิน ถือเป็นวัดเซนแห่งแรกของจีนโดยมีตั๊กม้อเป็นเจ้าอาวาสของวัดเส้าหลิน

ตามหลักฐานที่กล่าวถึงวิทยายุทธ์ของวัดเส้าหลิน กล่าวว่า เพลงมวยของวัดเส้าหลินเป็นที่เลื่องลือ และมีความสามารถในการกำจัดคู่ต่อสู้เป็นอย่างมาก ซึ่งมีมากถึง 72 กระบวนท่า ที่พวกเรารู้จักกันดีตามที่เคยดูภาพยนตร์จีนเรื่องต่างๆ เช่น เพลงหมัดยาวเส้าหลิน เพลงหมัดอรหันต์ ที่มักได้ยินบ่อยๆ ว่า 18 อรหันต์ เพลงหมัดพลังกรงเล็บมังกร เพลงมวยหมัดเมา

โดยเฉพาะเพลงมวยหมัดเมา ถือเป็นท่าเพลงมวยของเส้าหลินที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างมาก อย่างที่เราเห็นในหนังจีนเรื่อง ไอ้หนุ่มหมัดเมา

วิทยายุทธ์ของเส้าหลินที่มีมาแต่โบราณ ไม่ได้มีเพียงแค่วิชาหมัด หรือเพลงมวยของเส้าหลิน 72 กระบวนท่าเท่านั้น หากแต่ยังมีกระบวนท่าอื่นๆ ที่ใช้อวัยวะทุกส่วนในร่างกายเป็นอาวุธทั้งป้องกันและรุกคู่ต่อสู้ โดยมุ่งเน้นให้กล้ามเนื้อและร่างกายของผู้ฝึกให้มีความแข็งแรงขึ้น

กระบวนท่าของเส้าหลินที่น่าสนใจ เช่น กระบวนท่าการจี้สกัดจุด กระบวนท่าวิชาตัวเบา กระบวนท่านิ้วดัชนี กระบวนท่ามือตะขอ

นับตั้งแต่เริ่มต้นการฝึกฝนวิชากังฟูจนพัฒนามาเป็นวิทยายุทธ์เส้าหลินโดยตั๊กม้อ วัดเส้าหลินและกระบวนท่าวิทยายุทธ์ของเส้าหลินเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ถึงขนาดที่หลวงจีนของวัดเส้าหลินมีส่วนร่วมในการรบทัพจับศึก อย่างเช่น สมัยจักรพรรดิถังไท่จง แห่งราชวงศ์ถัง ได้ปรากฏหลักฐานว่ามีหลวงจีนจากวัด
เส้าหลินช่วยเหลือจักรพรรดิให้พ้นจากอันตรายระหว่างสู้กับทหารของราชวงศ์สุย

แต่ในสมัยของจักรพรรดิหย่งเจิ้ง แห่งราชวงศ์ชิง เมื่อการเมืองเข้ามามีบทบาททำให้วัดเส้าหลินถูกลดบทบาท กล่าวคือ ห้ามมีการฝึกวิชากังฟูหรือวิทยายุทธ์เส้าหลิน ซึ่งร้ายแรงที่สุดถึงขั้นวัดเส้าหลินถูกเผาทำลายจากจักรพรรดิพระองค์นี้ แต่ได้มีการสร้างวัดเส้าหลินขึ้นมาใหม่ในสถานที่เดิม และในปัจจุบันมีการขยายสาขาของวัดเส้าหลินในจีน ซึ่งดำเนินการในรูปแบบของพุทธพาณิชย์ เปิดสอนวิชากังฟู แต่ต้องเสียเงิน เป็นค่าเล่าเรียนคัมภีร์ตั๊กม้อ ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่ตั๊กม้อใช้สอนพระวัดเส้าหลิน

ตั้งแต่สมัยแรกเริ่มฝึกวิชากังฟู เรียกว่า คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย และถูกเขียนด้วยภาษาบาลี ซึ่งตั๊กม้อเป็นพระภิกษุจากประเทศอินเดีย จึงนำคัมภีร์นี้มาใช้สอนและเผยแพร่ในวัดเส้าหลิน ดังนั้นคัมภีร์นี้จึงไม่ใช่ของเส้าหลิน แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้เขียนขึ้น รู้เพียงว่ามีต้นกำเนิดมาจากอินเดียเท่านั้น

คัมภีร์ของตั๊กม้อที่นำมาใช้สอนพระในวัดเส้าหลินหรือคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นนั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่คัมภีร์ที่ใช้เปลี่ยนเส้นเอ็นจากร่างกายของเรา แต่เป็นการใช้ท่าของกังฟูทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นมีความยืดหยุ่นและผ่อนคลาย ซึ่งเป็นการปรับสภาพเส้นเอ็นในร่างกาย ประกอบกับการฝึกลมปราณ ด้วยการใช้จิตฝึกสมาธิ ควบคุมร่างกาย เพื่อให้พลังลมปราณในร่างกาย ช่วยให้เลือดในร่างกายไหลเวียนได้ดี ทำให้ให้ร่างกายมีสภาพสมบูรณ์และแข็งแรงยิ่งขึ้น

หากใครที่มีความสนใจที่จะไปเยี่ยมเยียนวัดเส้าหลิน สามารถบินตรงไปยังเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน และเดินทางต่อไปยังวัดเส้าหลินได้ ซึ่งในปัจจุบันที่วัดเส้าหลินมีเปิดคอร์สอบรมวิทยายุทธ์วัดเส้าหลินสำหรับผู้ที่สนใจอีกด้วย อันเป็นหนึ่งในความพยายามที่จะรักษาวัฒนธรรมและศิลปะการต่อสู้ของจีนที่มีมาแต่สมัยโบราณให้คงอยู่ตลอดไป

ข่าวล่าสุด

เส้นทาง “เถ้าแก่ส้ม” ร้อยล้าน ปั้นโชกุนเบตง–สายน้ำผึ้งฝางดังทั่วประเทศ