posttoday

อสค.กางแผน 5 ปี วาดปี'64คว้า 1.2 หมื่นล.

21 ธันวาคม 2561

กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่ อ.ส.ค.ยึดปฏิบัติ เพื่อไปสู่เป้าหมายในปี 2564 คือ เดินหน้าพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โดย...จะเรียม สำรวจ

ผ่านไปแล้ว 2 ปี สำหรับยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนธุรกิจขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) หรือที่รู้จักกันดีในนามของผู้ดำเนินธุรกิจนมไทย-เดนมาร์ค หลังจากออกมาประกาศกลยุทธ์ในการพัฒนาและวาง แผนวิสาหกิจ 5 ปี (2560-2564) เพื่อผลักดันธุรกิจก้าวไปสู่เป้าหมายรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท ในปี 2564 จากปี 2561 มีรายได้ 9,500 ล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจที่ อ.ส.ค.จะยึดปฏิบัติ เพื่อไปสู่เป้าหมายในปี 2564 คือ การเดินหน้าพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในส่วนของตลาดในประเทศนอกจากจะเน้นจำหน่ายนมในรูปแบบของนมพาสเจอไรซ์และ ยูเอชทีแล้ว ยังมีแผนที่จะเดินหน้าขยายฐานลูกค้าผ่านร้านค้าปลีกอย่างร้านมิลค์แลนด์และมิลค์ช็อปควบคู่กันไป

ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการ อ.ส.ค. กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในรอบบัญชีปี 2562 (ต.ค. 2561-ก.ย. 2562) ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปแล้วประมาณ 3 เดือน จะยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดตัวนมพร้อมดื่มยูเอชที ไทย-เดนมาร์ค ปราศจากน้ำตาลแล็กโทสเข้ามาทำตลาด เพื่อ เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค

นอกจากนี้ ยังมีแผนจะเดินหน้าขยายร้านไทย-เดนมาร์ค มิลค์แลนด์ ผ่านห้างค้าปลีกเพิ่มขึ้นอีก 40-50 สาขา จากปัจจุบันมี 5 สาขา เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้า

ขณะเดียวกัน ก็จะขยายร้านไทยเดนมาร์ค มิลค์ช็อป เข้าไปในสถาบันการศึกษา เช่น โรงเรียน และมหาวิทยาลัย โดยในปี 2562 มีแผนที่จะขยายเพิ่มอีกประมาณ 40-50 สาขาเท่ากับร้านไทยเดนมาร์ค มิลค์แลนด์ จากปัจจุบันมี ร้านไทย-เดนมาร์ค มิลค์ช็อป เปิดให้บริการอยู่ที่ประมาณ 13-14 สาขา

ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วน ของตลาดต่างประเทศ อ.ส.ค.ก็มีแผนจะขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งเบื้องต้นจะเน้นไปที่ตลาดเดิมที่มีอยู่ คือ กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา เนื่องจากทั้ง 3 ประเทศยังมีโอกาสให้ส่งออกสินค้าเข้าไปทำตลาดได้อีกมาก

อย่างไรก็ดี เพื่อให้สัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 20% ในปี 2564 อ.ส.ค.จึงวางเป้าหมายส่งสินค้าเข้าไปทำตลาดในประเทศมาเลเซียและจีน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาด และเตรียมเอกสารการขออนุญาตนำผลิตภัณฑ์นมเข้าไปทำตลาดในประเทศดังกล่าว

จากแผนการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้ อ.ส.ค.ต้องหันมาเตรียมความพร้อมในด้านของกำลังการผลิต ด้วยการเตรียมที่ดินจำนวน 100 ไร่ ใน จ.ลำปาง พร้อมกับงบประมาณ 800 ล้านบาท ใช้ลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ เพื่อรองรับความต้องการของตลาด ในประเทศและต่างประเทศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยในส่วนของโรงงานแห่งดังกล่าวจะทำหน้าที่ผลิตนมยูเอชที และนมพาสเจอไรซ์ คาดว่าอีก 2-3 ปี โรงงานดังกล่าวจะแล้วเสร็จและเริ่มทำ การผลิตสินค้าได้

อีกหนึ่งโรงงานที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงกระบวนการผลิตคือ โรงงานผลิตนมพาสเจอไรซ์ใน จ.เชียงใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเริ่มทำการ ผลิตสินค้าภายในปี 2562

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด การท่าเรือ พบ ทรู แบงค็อก ช้าง เอฟเอ คัพ วันนี้ 21 ธ.ค.68