posttoday

ว่าด้วยการจาริกและท่านเจี้ยนเจิน

02 ธันวาคม 2561

ตอนที่กำลังเดินทางตามรอยพระเจ้าเลียบโลกเมื่อเร็วๆ นี้

โดย กรกิจ ดิษฐาน 

ตอนที่กำลังเดินทางตามรอยพระเจ้าเลียบโลกเมื่อเร็วๆ นี้ ผมพบกับความสมหวังและผิดหวังระคนกัน

บางแห่งเดินทางไปถึง ได้กราบไหว้พระสมใจ

บางแห่งเดินเท้าไปไกล ทั้งร้อน ทั้งเหนื่อย ทั้งเสี่ยงกับหมาไล่ฟัด ต้องพบกับความผิดหวัง สถานที่ปิดไว้ไม่สามารถเข้าไปได้

ความเหนื่อยล้าทำให้นึกเสียใจอยู่แวบหนึ่ง แต่หวนนึกถึงพระเถระสมัยโบราณที่ท่านเสี่ยงชีวิตไปแสวงหาพระธรรม ประกาศพระวินัยแล้วความผิดหวังของผมมันไร้แก่นสารเสียเหลือเกิน

พระถังซำจั๋งท่านเสี่ยงชีวิตไปเชิญพระคัมภีร์ แทบไม่รอดกลางทะเลทราย ถูกทอดทิ้ง พบกับความผิดหวัง ทั้งโจรร้ายจะฆ่าท่านไม่รู้กี่หน ท่านไม่บ่นสักคำ สุดท้ายท่านเชิญคัมภีร์มาจีนสำเร็จ

พระฝาเสี่ยนแทบจะเอาชีวิตไปทิ้งกลางพายุทะเลใต้ และชาวเรือหวิดจะฆ่าท่านเพราะเห็นเป็นตัวซวย สุดท้ายท่านเอาความสงบสยบวิกฤต อัญเชิญพระวินัยกลับมาเมืองจีนได้สำเร็จ

ตัวเรานี้เพียงแค่เดินไปไหว้พระเอาบุญเข้าตัวเอง เทียบไม่ได้กับท่านเหล่านั้นที่เอาชีวิตเสี่ยงเพื่อประโยชน์ของมหาชน

มีพระสงฆ์ชาวจีนนับไม่ถ้วนที่เอาชีวิตไปทิ้งระหว่างการเดินทางไปชมพูทวีปและเดินทางผ่านทะเลใต้ บางคนไปถึงแล้วกลับบ้านเกิดเมืองนอนไม่ได้ตลอดกาล ท่านเหล่านี้มิได้ทำเพื่อตัวเอง แต่มุ่งหมายที่จะสร้างจีนให้เป็นแดนพุทธธรรม

ในยุคของท่านฝาเสี่ยน พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองในจีนมาระยะหนึ่ง แต่พระสงฆ์ล้วนแต่เป็นพวกปัญญาชน สนใจพุทธศาสนาในเชิงปรัชญา เก่งในการนำหลักมาโต้เถียง แต่ไม่รู้จักวินัย จึงเป็นเพียงบัณฑิตที่สวมจีวร พฤติกรรมนอกรีตนอกรอย เป็นที่น่าสลดสังเวช

พุทธศาสนาจะมั่นคงได้ไม่ใช่เพราะมีผู้รู้ตำรามาก แต่มีผู้ปฏิบัติไตรสิกขามากๆ ต่างหาก คือการรักษาศีล/วินัย เพื่อมัดและกระหน่ำตีจิตไม่ให้เป็นลิงโลดโผน เมื่อจิตสงบแล้วเพราะมีวินัย สมาธิจึงเกิด เมื่อสมาธิตั้งมั่นจึงเดินปัญญาได้

เมื่อท่านฝาเสี่ยนเสี่ยงตายนำวินัยมาถึงจีน อัจฉริยบุคคลทางธรรมจึงเกิดขึ้นคนแล้วคนเล่า เพราะศาสนามีองค์ประกอบสำหรับการปฏิบัติครบถ้วนแล้ว

ครั้นถึงสมัยราชวงศ์ถัง พุทธศาสนาแพร่ไปถึงญี่ปุ่น หากญี่ปุ่นประสบสถานการณ์เดียวกับจีนในยุคหนานเป่ย คือเต็มไปด้วยผู้รู้ตำรา แต่ขาดวินัย ปัญญาจึงสุกๆ ดิบๆ ผู้รู้ชาวญี่ปุ่นตระหนักถึงข้อบกพร่องนี้ จึงเชิญพระเถระจีนไปเป็นอุปัชฌาย์ ตั้งสีมาบวชกุลบุตรให้เป็นพระแท้

พระเถระจีนที่ถูกนิมนต์คือท่านเจี้ยนเจิน

ตอนนั้นท่านอายุได้ 54 ปีแล้ว ถือว่าอายุมากพอสมควรในยุคโบราณ เมื่อชาวญี่ปุ่นอาราธนาท่าน พวกศิษย์จึงทักท้วง แต่ท่านหมายจะปักธวัชแห่งพระวินัยให้โบกสะบัดในแดนตะวันออก ท่านจึงรับนิมนต์

การเดินทางจากจีนไปญี่ปุ่นจะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย เพียงแต่หลบฤดูมรสุมให้ถูก ก็จะเดินทางถึงได้ในเวลาแค่ 10 วัน (จากการเดินทางของทูตโอโตะโมะ โนะ สุกุเนะ ปี 777)

แต่ท่านเจี้ยนเจินพยายามเดินทางไปญี่ปุ่นถึง 6 ครั้งยังไม่สำเร็จ เพราะออกเรือทีไร ถ้าไม่พบกับมรสุม ก็ถูกรัฐบาลสั่งห้าม ครั้งเกือบสุดท้าย ออกจากท่าเรือเจ้อเจียง ที่ใกล้ญี่ปุ่นมาก (10 วันก็ถึง) แต่เรือกลับถูกพัดลงใต้ไปถึงไหหลำ (ใกล้เวียดนาม) ท่านต้องเสียเวลาอีก 3 ปี ดั้นด้นเดินเท้ากลับมาตั้งหลักใหม่

เคราะห์ร้ายที่ดวงตาของท่านทั้งสองข้างบอดลงเพราะติดเชื้อ ตอนนี้รวมแล้วท่านล้มเหลวมา 5 ครั้ง กินเวลาถึง 11 ปี ทั้งๆ ที่เดินทางแค่ 10 วันก็ถึงถ้าลมฟ้าอำนวย

ความล้มเหลวของท่านเจี้ยนเจินที่จะไปประกาศพระวินัยยังญี่ปุ่น เป็นความล้มเหลวที่ประหลาดที่สุด เพราะมันใกล้กันแค่นั้น ท่านยังถูกพัดลอยไปไหนต่อไหนอยู่เรื่อย จนคิดไปแล้วก็เหมือนมีมารมาขัดขวาง

แม้จะตาบอดแล้ว และอายุมากถึง 60 กว่าปี ท่านยังมุ่งมั่นที่จะไปทำให้ชาวญี่ปุ่นมีดวงตาเห็นธรรม สุดท้ายพอจะได้ไปถึงก็ถึงง่าย ในปี 753 ท่านไปพร้อมกับคณะทูตญี่ปุ่น ออกเดินเรือเดือน 11 วันที่ 16 ถึงเดือน 12 วันที่ 21 รวมแล้วแค่ 35 วัน

ถ้าเป็นเราๆ (รวมถึงผม) พลาดแค่ครั้งที่ 2 ก็คงเปลี่ยนใจแล้ว ต่อให้คนใจแข็งปานเหล็ก พลาดครั้งที่ 5 จนต้องเสียเวลาเดินเท้ากลับบ้านอีก 3 ปีแถมยังต้องตาบอด ตอนนี้ก็ยังอาจต้องร่ำไห้เพราะความผิดหวังว่าฟ้ากลั่นแกล้ง

ท่านเจี้ยนเจินถึงญี่ปุ่น จึงตั้งสีมา ตั้งสำนักสอนพระวินัย ถือเป็นบูรพาจารย์คนแรกแห่งนิกายวินัย (ลวื้อจ้ง/ริตสึ) ในญี่ปุ่น นับแต่นั้นไตรสิกขาจึงครบถ้วนในแดนตะวันออก

คนญี่ปุ่นยุคนาระนับถือท่านมาก จึงสร้างรูปเหมือนของท่านขึ้นหลังจากท่านมรณภาพแล้ว โดยเป็นศิลปะยุคร่วมสมัยกับท่าน และเป็นสมบัติของชาติญี่ปุ่น เป็นประติมากรรมชิ้นเอกของโลกอายุกว่า 1,200 ปี ปัจจุบันอยู่ที่วัดโทโชไดจิ (ถังจตุรเทศาอาราม) เมืองนาระ ที่ท่านสถาปนาขึ้น พร้อมกับสีมาอุปสมบท

กระนั้น คนญี่ปุ่นรุ่นหลังกลับไม่รักษาวินัย พอถึงยุคต่อมาไม่นานนัก ก็หันมาบวชแบบใช้ศีลโพธิสัตว์เท่านั้น ไม่รักษาสิกขาบทเคร่งครัด ทำให้การปฏิบัติหย่อนยานมานับพันปี จนกระทั่งยุคเมจิสถานการณ์เลวร้ายลงอีก ทางการมีคำสั่งห้ามพระสงฆ์ถือพระวินัย ทำให้ญี่ปุ่นแทบจะไร้พระสงฆ์ มีเพียงฆราวาสที่ทำหน้าที่ดั่งสงฆ์ และสวมจีวรเป็นดั่งยูนิฟอร์มคนทำอาชีพแทนพระ

นี่คือเรื่องที่น่าผิดหวังแทนพระเถระเจี้ยนเจิน ซึ่งเสี่ยงตายเพื่อมอบพระวินัยให้ญี่ปุ่น

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี