PTT Group SPIRIT-D Days 2018 ร่วมขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์

ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวและตลาดน้ำมันอยู่ในภาวะสมดุลมากขึ้น อุตสาหกรรมปิโตรเลียมทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2561 มีปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลเพิ่มขึ้น 3.1% และ 1.7% ตามลำดับ ปริมาณการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสนับสนุนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นดัชนีด้านบวกที่ชี้ให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทยในการขับเคลื่อนเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 อย่างแท้จริง

PTT Group คือหนึ่งในองค์กรน้ำมันระดับชาติที่มุ่งส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมด้วยการนำนวัตกรรมมาพัฒนาโรงกลั่นและกระบวนการผลิตน้ำมันในทุกขั้นตอน รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่างก๊าซธรรมชาติ และพลาสติกชีวภาพ ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับไป ได้มีการริเริ่มพัฒนานวัตกรรมมานานกว่าทศวรรษ

เพื่อเป็นการสร้างวัฒนธรรม ปลูกฝัง DNA ให้กับองค์กรฯ ในการนำความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนาเป็นนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมของของ PTT Group กิจกรรม "PTT Group SPIRIT-D Days" จึงได้ถูกจัดขึ้นอีกครั้งเมื่อวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2561 ณ ห้องประชุมใหญ่ Auditorium ชั้น 2 สำนักงานใหญ่ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พนักงานในบริษัทเรือธงของ กลุ่ม ปตท. ได้แก่  PTTEP, GC, PTTOR, Thaioil, IRPC และ GPSC ร่วมกันส่งผลงานด้านนวัตกรรม ที่สำคัญคือ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน

"การจัดกิจกรรม PTT Group SPIRIT-D Days เป็นการสนับสนุนให้นำสิ่งเดิมๆ มาปรับปรุงในวิธีการใหม่ๆ ซึ่งเทคโนโลยีด้านดิจิทัลเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นการนำ IoT (Internet of Things) มาใช้ในการสำรวจท่อก๊าซ หรือการใช้โดรนเพื่อสำรวจพื้นที่ขุดเจาะน้ำมันที่เข้าถึงยาก" นายชาญศิลป์  ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าว

งาน PTT Group SPIRIT-D Days เป็นการจัดงานเพื่อสรุปผลงานที่ทำมาตลอดปี 2561 โดยนำผลงานนวัตกรรมที่โดดเด่นของแต่ละบริษัทมาแบ่งปันองค์ความรู้ ส่วนในปีที่แล้วได้มีการจัด Innovation Expo รวบรวมและจัดแสดงผลงานนวัตกรรมกว่า 30 ผลงานของกลุ่ม ปตท. เพื่อให้องค์ความรู้แก่พนักงานและบุคคลภายนอก ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทีมนวัตกรรมต่างๆ ของกลุ่มปตท. ในการนำเสนอผลงานร่วมกัน และคาดว่าจะสามารถนำมาใช้เป็นข้อมูล สร้างความร่วมมือในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และต่อยอดผลงานนวัตกรรมใหม่ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า

"ปตท. ประยุกต์ วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยี โดยร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เช่น บริษัทในกลุ่ม ปตท. หน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา กระทรวงการคลัง ผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วยความมุ่งหวังที่จะให้องค์กรฯ สามารถสร้างนวัตกรรมได้ด้วยตนเอง  จนมีนวัตกรรมเกิดขึ้นมากมาย อาทิ digitalization หรือระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ ซึ่ง ปตท. ได้นำมามีใช้ในกระบวนการผลิตและการบริการมานานกว่า 10 ปีแล้ว ดังนั้น หากเรายังย่ำอยู่ในกรอบการผลิตแบบเดิมๆ เราจะไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้ในวันข้างหน้า" นายชาญศิลป์  ตรีนุชกร กล่าวเสริม

ในปี 2561 ปตท. ได้รับรางวัล "องค์กรนวัตกรรมยอดเยี่ยม" และรางวัล "นวัตกรรมแห่งชาติ ระดับรองชนะเลิศอันดับ 2 ด้านเศรษฐกิจ" จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ โดยมีผลงานด้านวัตกรรมต่างๆ อาทิ การนำ AI มาใช้ในโรงงานแยกก๊าซ การใช้ model tank เพื่อลดความผิดพลาดในการปฏิบัติงานและฝึกอบรมพนักงาน มีการนำพลังงานรูปแบบใหม่ๆ หรือดิจิทัล มาสำรวจแนวท่อ

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของพนักงานกลุ่ม ปตท. ที่จะก่อให้เกิดความริเริ่มสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าแสดงออก แบ่งปันองค์ความรู้เพื่อต่อยอดให้เกิดนวัตกรรมใหม่ภายในองค์กร ทั้งยังส่งเสริมให้พนักงานเกิดความตระหนักในการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อนำพาองค์กรขับเคลื่อนประเทศชาติสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง