posttoday

ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ นักการเมืองพลังใหม่พรรคประชาธิปัตย์

28 ตุลาคม 2561

ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ อายุ 35 ปี เป็นบุตรชายคนโตในจำนวน 3 คน

โดย ศนภา มยุรภาส 

ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ อายุ 35 ปี เป็นบุตรชายคนโตในจำนวน 3 คน โดยมีน้องสาว 1 คน และน้องชายอีก 1 คนที่มีวัยไล่เลี่ยกัน เติบโตขึ้นอย่างอบอุ่นในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนที่ประกอบธุรกิจด้านชิ้นส่วนยานยนต์ตั้งแต่รุ่นคุณปู่ และขยายกิจการสืบทอดต่อเนื่องรุ่นต่อรุ่นไปพร้อมๆ กับการขยายขนาดของครอบครัวที่มีลูกและหลานแวดล้อม ความขยันหมั่นเพียรและการคาดการณ์ทางธุรกิจที่แม่นยำส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าของธุรกิจอย่างมั่นคงเสมอมา

ดร.อิสระ จบการศึกษาชั้นต้นที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยและชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยก่อนที่จะสอบผ่านเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ตลอดระยะเวลาระหว่างที่ศึกษาอยู่ เขาได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่นทุกปี ได้รางวัลชนะเลิศการประกวดแข่งขันทางวิชาการในระดับต่างๆ มากมายและสำเร็จการศึกษาด้วยคะแนนยอดเยี่ยม และได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าห้องในแต่ละชั้นทุกชั้นต่อเนื่องไปจนถึงการได้รับเลือกตั้งตำแหน่งประธานตึกที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

ในปี 2545 ดร.อิสระ ได้เลือกศึกษาต่อในคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาวิศวกรรมเคมี และจบการศึกษาในปี 2549 ขณะที่ศึกษาอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขามีความมุ่งมั่นตั้งใจและได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวให้ไปศึกษาต่อปริญญาเอกในสาขาวิศวกรรมเคมี

ในระหว่างศึกษาในสาขาวิศวกรรมเคมี เขาได้ทำการวิจัยและเขียนผลงานวิชาการด้านการสกัดสารอาหารจากรำข้าว ชื่อว่า Extraction of Protein and Amino Acids Form Deoiled Rice Bran by Subcritical Water Hydrolysis เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการสกัดโปรตีนและกรดอะมิโนที่เป็นประโยชน์จากรำข้าวที่เหลือจากการนำไปสกัดน้ำมัน ลงตีพิมพ์ใน Bioresource Technology ซึ่งนับเป็นวารสารวิชาการชั้นนำที่มีกระบวนการคัดเลือกอย่างเข้มข้น โดยมีระดับ Impact Factor อยู่ที่ 5.65 ถือได้ว่าอยู่ในลำดับต้นๆ TOP 5% ของวารสารวิชาการ ในปัจจุบัน บทความของเขาได้รับการอ้างอิงในผลงานวิชาการสูงมากถึงกว่า 250 ครั้ง และผลการวิจัยนี้ได้ถูกนำไปใช้ในทางปฏิบัติสำหรับสารอาหารจากน้ำมันรำข้าวอีกด้วย

ด้วยผลการเรียนและเกียรติประวัติด้านวิชาการดังกล่าว เขาได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกสาขาวิชาวิศวกรรมเคมี ที่ทั้งที่ University of Cambridge และ Imperial College London แต่อิสระตัดสินใจตอบรับเข้าเรียนที่ Imperial College เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยเห็นคุณลักษณะและความพร้อมของเขาจึงยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ คือ ไม่กำหนดให้เขาต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทเสียก่อน ดังนั้น ภายในเวลาเพียง 7 วันหลังจากที่สอบปลายภาคชั้นปีที่ 4 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ แล้ว เขาได้บินไปเข้าศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล ซึ่งมีวิทยาเขตของการศึกษาในสาขานี้ตั้งอยู่ในย่านเคนซิงตันของกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักรทันที

ภายหลังจากที่ได้เข้าศึกษาในหลักสูตรปริญญาเอกได้ 6 เดือน เขาตัดสินใจสมัครและผ่านการพิจารณาให้เข้าทำงานกับสหภาพยุโรป (European Union หรือ EU) โดยได้รับค่าตอบแทนรายเดือน และหากมีความประสงค์จะศึกษาระดับปริญญาเอก ทางสหภาพยุโรปก็ยินดีเป็นผู้รับผิดชอบค่าเล่าเรียนเพื่อให้ศึกษาต่อเนื่องที่ Imperial College London โดยทาง EU และมหาวิทยาลัยมีข้อตกลงร่วมกัน และได้กำหนดเงื่อนไขในกรณีของเขาว่า ให้เขาสามารถใช้เวลานอกเวลาทำงานในการศึกษา (เวลาทำงาน) และอนุญาตให้นำผลงานบางส่วนจากการทำงานมาเป็นส่วนหนึ่งในการเขียนดุษฎีนิพนธ์ได้โดยหัวข้อของการวิจัยดังกล่าวของเขาได้รับการยอมรับจากสถาบันทั้ง 2 แห่งร่วมกัน

ความสนใจที่หลากหลายทำให้เขากลายเป็นคนรู้กว้าง นอกจากความเชี่ยวชาญทางธุรกิจ องค์ความรู้ด้านชิ้นส่วนยานยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจที่เขาเติบโตมาด้วยตลอด และการศึกษาและการวิจัยด้านวิศวกรรมเคมี ตลอดจนความคล่องในภาษาทั้งไทย อังกฤษ และจีน เรื่อง การเมืองการปกครองเป็นสิ่งหนึ่งที่เขาทุ่มเทเวลาในการติดตาม จนกระทั่งตัดสินใจที่จะสมัครเรียนระดับปริญญาโทในคณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในขณะที่เพิ่งจะเริ่มต้นการศึกษาปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยอิมพีเรียล โดยทำการสอบนอกสถานที่ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย กรุงลอนดอน และแม้ต้องพากเพียรในการเรียนและทำวิจัยในการศึกษาปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมเคมีควบคู่ไปกับการทำงานให้กับ EU ด้วย เขาก็ยังสามารถสอบผ่านทุกวิชาตามหลักสูตรจนสำเร็จการศึกษาด้วยคะแนนเฉลี่ยสูงสุดของชั้นปี (เกรดเฉลี่ย 3.94) ได้รับวุฒิปริญญาโทในสาขาบริหารรัฐกิจในประเทศอังกฤษด้วย

ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ นักการเมืองพลังใหม่พรรคประชาธิปัตย์

ดร.อิสระ ตัดสินใจเดินทางกลับมายังประเทศไทยหลังเร่งทำวิจัยจนสำเร็จการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิตในปี 2552 เพื่อดูแลและรับช่วงธุรกิจต่อจากบิดาที่กำลังป่วย และสุดท้ายก็จากไปในเวลาไม่นานนัก แม้จะยังไม่เคยเข้ามาทำธุรกิจนี้อย่างเต็มตัว แต่ก็ได้อาศัยการจดจำ การสังเกต ก่อนที่จะทุ่มเทและคิดค้นวิธีการต่างๆ ที่จะสานต่อและขยายธุรกิจจากเดิมในวันแรกที่เขาก้าวเข้ามาด้วยพนักงานเพียง 32 คนจนถึงปัจจุบันมีพนักงาน 400 คน ผลที่ได้ คือ ความสำเร็จและความมั่นคงของกิจการ จากธุรกิจขนาดกลางกลายเป็นขนาดใหญ่ และจากธุรกิจของครอบครัวกลายเป็นธุรกิจระหว่างประเทศเมื่อเขาตัดสินใจเข้าลงทุนซื้อกิจการชิ้นส่วนรถยนต์ชั้นนำในประเทศอิตาลีที่กำลังจะประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง และเขาได้ย้ายฐานการผลิตจากประเทศอิตาลีและประเทศโรมาเนียมายังประเทศไทย

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโรมาเนียกับประเทศมอลโดวาเสมือนบ้านพี่เมืองน้องนั้นเป็นที่ทราบกันทั่วโลกเป็นอย่างดี และความเชื่อมโยงดังกล่าวประกอบกับความสามารถด้านการค้าและการผสานความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ ตลอดจนคุณสมบัติที่พร้อมในทุกด้านของ ดร.อิสระส่งผลให้ประเทศมอลโดวาที่กำลังสนใจในการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศไทยได้เสนอแต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์และหัวหน้าคณะผู้แทนทางการกงสุลของสาธารณรัฐมอลโดวาประจำประเทศไทยเป็นคนแรก วันที่ 15 ส.ค. 2559 และแม้จะยังอายุน้อย แต่ในปี 2561 นี้ เขาก็ได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งประธานด้านกิจกรรมพิเศษในคณะกรรมการบริหารของสมาคมคณะกงสุลกิตติมศักดิ์ (ประเทศไทย) อีกด้วย

แม้ภารกิจหลากหลายทั้งในด้านธุรกิจและจากตำแหน่งสำคัญต่างๆ แต่เขายังคงจัดการให้มีเวลาสำหรับงานวิชาการ ทั้งในด้านการบริหารสถาบันการศึกษา และการสอน ด้วยการรับเป็นอาจารย์พิเศษและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสำหรับมหาวิทยาลัยของทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย

สำหรับด้านการวิจัย เขาได้ผลิตผลงานการวิจัยออกมาอย่างสม่ำเสมอและทำได้ดีมาก ซึ่งเห็นได้จากการแต่งตำราเรียนวิชาสถิติและการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และได้รับคัดเลือกให้ตีพิมพ์ผลงานการวิจัยด้านวิศวกรรมวัสดุศาสตร์ โยธา และสิ่งแวดล้อม ฯลฯ อย่างต่อเนื่องในวารสารวิชาการระดับนานาชาติชั้นนำต่างๆ ได้แก่ Journal of Engineering Science and Technology Review, Frontiers of Structural and Civil Engineering, Chemical Engineering Communications, Journal of Food Engineering, American Institute of Chemical Engineers Journal, Organic Process Research & Development, Journal of Membrane Science, Marcomolecular Symposia และยังรับหน้าที่ประจำเป็นกองบรรณาธิการบริหารการประชุมวิชาการนานาชาติทุกปี เช่น The International Conference on Sustainable Energy and Green Architecture เป็นต้น

เมื่อธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยดี และภารกิจความรับผิดชอบที่ผ่านมาได้เตรียมให้เขามีความพร้อมที่จะก้าวสู่อีกจังหวะของชีวิต ที่เขาตระหนักมานานถึงความมุ่งมั่นของตนเองที่จะทำประโยชน์ต่อแผ่นดินและสังคม และได้พยายามสั่งสมข้อมูลและประสบการณ์เพื่อที่จะใช้กำลังสติปัญญาในการพัฒนาให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้น และเมื่อมีโอกาส ดร.อิสระ ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่เหมาะสมตามที่มีความสนใจและตั้งใจ เช่น ผู้พิพากษาสมทบในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง และด้วยความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับและเป็นคนรุ่นใหม่ จึงได้รับการเชิญให้ร่วมงานเป็นที่ปรึกษาและอนุกรรมาธิการในวงงานนิติบัญญัติหลายคณะ ได้แก่ คณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรมและแรงงาน คณะกรรมาธิการการพลังงาน คณะกรรมาธิการต่างประเทศ คณะอนุกรรมาธิการกิจการตำรวจในคณะกรรมาธิการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ และเคยดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิประเมินโครงการของอุทยานวิทยาศาสตร์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น

ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์แก่บ้านเมืองข้างต้นนั้น บางสาขาต้องอาศัยความรู้ความชำนาญเฉพาะด้าน เขาก็กระตือรือร้นในการค้นคว้าในสาขานั้นๆ หรือสมัครเข้ารับการอบรมเพิ่มเติมจากสถาบันต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด ตัวอย่างสถาบันต่างๆ ที่เข้าอบรม ได้แก่ United Nations - WIPO Academy, Harvard Law School, University of Pennsylvania, British Standard Institute - London, สถาบันพระปกเกล้า, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เป็นต้น

โดยหมายสำคัญต่อไปของเขา คือ การเข้าสู่สนามการเมือง ด้วยแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาทั้งของไทยและต่างประเทศ ทำให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะตั้งใจเป็นส่วนหนึ่งของพลังที่ช่วยทำให้สังคมไทยมีความเป็นอยู่ที่ดี และมีความมั่นคงทั้งทางเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์อันดีกับนานาประเทศ

จึงได้ตัดสินใจให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นเส้นทางเดินของเขา เพราะเป็นพรรคที่ยึดมั่นในอุดมการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับอุดมการณ์ทางการเมืองของเขา แม้พรรคจะต้องเจอกับมรสุมทางการเมืองนับครั้งไม่ถ้วน แต่ด้วยนโยบายที่ยึดหลักประชาธิปไตย เห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และความสามารถของบุคลากรในพรรคทำให้พรรคยืนหยัดมาจนถึงวันนี้ได้ ซึ่งเป็นแบบอย่างสำคัญที่เขามีความประทับใจ

ช่วงปีที่ผ่านมา เขาได้มีโอกาสเข้ามาทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยได้รับการชักชวนจากผู้อาวุโสในพรรคให้เข้ามาเรียนรู้งานและกิจการของพรรคให้มากขึ้น ได้เรียนรู้ทั้งแนวคิดและวิธีทำงานของผู้บริหารของพรรค ซึ่งผลจากการทำงานนั้นนับเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของเขาที่มีต่อพรรค ในช่วงเวลาระหว่างที่เขาทำงานร่วมกับพรรคอยู่นั้น มีประโยคหนึ่งที่ทำให้เขาประทับใจและรู้ว่าการร่วมงานกับพรรคนี้จะสามารถตอบเจตจำนงทางการเมืองของเขาได้อย่างแน่นอน คือ คำพูดของท่านอดีตนายกฯ ชวน หลีกภัย ที่กล่าวว่า “หากมีใครถามว่าพรรคประชาธิปัตย์มีเจ้าของหรือไม่ ก็ขอตอบว่า สมาชิกพรรคทุกคนคือเจ้าของพรรค” นั่นคือการสะท้อนความเชื่อในพลังของการมีส่วนร่วมของทุกๆ คน และแม้ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีการออกกฎกติกาใหม่ๆ และกระแสการเมืองที่เป็นความท้าทายที่ต้องเผชิญ แต่เขายังมองเห็นโอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้พรรคก้าวไปข้างหน้าสู่สิ่งที่ดีกว่าได้ การร่วมงานทางการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของท่านอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน จึงเป็นคำตอบแรกสำหรับเขา

ในความคิดของ ดร.อิสระ นั้น พรรคประชาธิปัตย์เปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่ที่เติบโตมาคู่กันกับระบอบประชาธิปไตยไทยอย่างยาวนาน มีอายุอ่อนกว่าระบอบประชาธิปไตยไม่มาก เพราะก่อตั้งมาแล้วกว่า 72 ปี ถือเป็นพรรคการเมืองจดทะเบียนเก่าแก่ที่สุดของไทยที่ยังดำเนินการอยู่ การเลือกที่จะลงสู่สนามการเมืองระดับชาติอย่างจริงจังถือเป็นการเข้าสู่สายการเมืองอย่างเต็มตัวครั้งแรกของเขานับเป็นความท้าทายรูปแบบใหม่ในชีวิตที่สำคัญคือ เขารู้ว่าเขากำลังทำอะไร และจะต้องเผชิญกับอะไรที่จะบรรลุเป้าหมายทางการเมือง ดร.อิสระ เชื่อมั่นว่า หากมุ่งมั่นจะทำสิ่งใด แล้วเราทุ่มเทกำลังกายกำลังสติปัญญาอย่างเต็มที่ ก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”