posttoday

ยั่งยืนโฆษณาเพื่อชาติเทรนด์ยุคสมานฉันท์

25 ตุลาคม 2553

แนวโน้มนี้ จะทำให้อุตสาหกรรมโฆษณาแข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะธุรกิจเข้าไปมีส่วนร่วมกับสังคมและประเทศมากขึ้น

แนวโน้มนี้ จะทำให้อุตสาหกรรมโฆษณาแข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะธุรกิจเข้าไปมีส่วนร่วมกับสังคมและประเทศมากขึ้น

โดย...ทีมข่าวธุรกิจตลาด

หลายปีมาแล้ว ที่วงการโฆษณาดูเหมือนว่าจะมีโลกของตัวเอง บนงบประมาณของลูกค้าที่ว่าจ้างให้สร้างสรรค์ชิ้นงานโฆษณาเพื่อขายสินค้าหรือบริการเป็นหลัก แต่ความวุ่นวายทางการเมืองช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้คนโฆษณาต้องหันกลับมามองสังคม และใช้วิชาชีพในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสินค้า มาสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยที่ต้องสูญเสียบางอย่างไปในช่วงที่ผ่านมา

ยั่งยืนโฆษณาเพื่อชาติเทรนด์ยุคสมานฉันท์

นี่จึงเป็นที่มาของแนวคิดในการจัดงาน “แอดแมน อวอร์ด” ในปีนี้ และมีรางวัลกรังพลีเพื่อชาติ ไม่ใช่รางวัลกรังด์ปรีซ์ที่แต่ละบริษัทโฆษณา หรือเอเยนซี ต้องการได้มาจากเวทีคานส์เหมือนในอดีต แต่เป็นกรังด์ปรีซ์เพื่อสร้างจิตสำนึกความรักชาติให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งผลงานที่ได้รางวัลในปีนี้ คือ ดีกันนะประเทศไทย โดยบริษัท ลีโอ เบอร์เนทท์ และอาร์ค เวิลด์ไวด์

ธีรศักดิ์ ธนพัฒนากุล ประธานกรรมการตัดสินแอดแมน อวอร์ด กล่าวว่า สมาคมโฆษณาจะต่อยอดงานโฆษณาที่ได้รับรางวัลกรังพลีเพื่อชาติ โดยจะสร้างเป็นแคมเปญออกเผยแพร่ทางสื่อต่างๆ ซึ่งแคมเปญนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการคิดแคมเปญรณรงค์เพื่อทำให้คนไทยกลับมารักกัน และในปีต่อไปอยากเห็นชิ้นงานโฆษณาประเภทนี้ ออกสู่สาธารณชนมากขึ้นเรื่อยๆ

“สำหรับภาพรวมงานโฆษณาในปีนี้ มุขตลกหายไป ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นอาจกระทบบ้าง แต่ยังไม่ใช่เทรนด์ของโฆษณาที่จะเกิดขึ้นในปีถัดไป ปีหน้ามุขตลกอาจกลับมา รวมทั้งงบประมาณโฆษณาน่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้ แต่การเมืองยังเป็นข้อกังวลว่าจะดีขึ้นหรือไม่”

ปารเมศร์ รัชไชยบุญ ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจที่หนักหน่วงส่งผลกระทบต่อธุรกิจโฆษณาอย่างชัดเจน เห็นได้จากการที่เจ้าของสินค้าลดงบประมาณโฆษณาลง หรือชะลอแผนการเปิดตัวสินค้าออกไป

แม้ตัวเลขที่แสดงโดยบริษัท นีลเส็น คอมพานี จะเห็นการเติบโตของเม็ดเงินที่ใช้จ่ายในอุตสาหกรรมโฆษณา ซึ่งล่าสุดในช่วง 9 เดือน ม.ค.-ก.ย. 2553 มียอดเติบโต 12.37% หรือมีมูลค่ารวม 7.3 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า เป็นเพราะอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาโฆษณา โดยเฉพาะทางสถานีโทรทัศน์ที่ปรับค่าโฆษณาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี

อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์เดือน เม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้การใช้เงินในอุตสาหกรรมโฆษณาขยายตัวเพิ่มขึ้น และคาดว่าในปีนี้อุตสาหกรรมโฆษณาจะขยายตัว 8-10% หรือมียอดใช้จ่ายแตะหลักแสนล้านบาท และเชื่อว่าจะขยายตัวต่อเนื่องในปีหน้า ถ้าไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอีก

ปารเมศร์ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นจากผลงานโฆษณาที่ได้รางวัลจากงานแอดแมนครั้งนี้ และแนวโน้มแคมเปญโฆษณาของลูกค้าในปีหน้า จะเห็นแคมเปญสร้างสรรค์สังคมขององค์กรต่างๆ ทยอยออกมา โดยเฉพาะการรณรงค์ให้คนไทยหันกลับมารักกัน สามัคคีกันอีกครั้ง

ส่วนแนวโน้มอื่นๆ ที่เห็นชัดเจน คือ การที่คนโฆษณา ยังสามารถคิดงานที่ตอบโจทย์การตลาดของลูกค้าได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเห็นชิ้นงานที่มีไอเดียสด ใหม่ และโดนใจผู้บริโภค ประกอบกับเห็นแนวโน้มการเลือกใช้สื่อแบบผสมผสาน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มได้ตรงมากขึ้น และถือเป็นการใช้งบประมาณลูกค้าอย่างฉลาดในช่วงเศรษฐกิจผันผวน

ขณะที่ ชัยประนิน วิสุทธิผล นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กล่าวเช่นเดียวกันว่า การโฆษณาที่ได้รับรางวัลกรังพลีเพื่อชาติ จะนำไปพัฒนาเป็นแคมเปญเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนต่อไปในอนาคต และงานโฆษณาชุดหรือแคมเปญรณรงค์ต่างๆ ที่ออกมาในช่วงที่บ้านเมืองเกิดความสูญเสีย จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนทั่วไป เห็นคนโฆษณาในหลากหลายมิติ จากที่เคยมีมุมมองในเชิงธุรกิจเพียงอย่างเดียว

แนวโน้มนี้ จะทำให้อุตสาหกรรมโฆษณาแข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะธุรกิจเข้าไปมีส่วนร่วมกับสังคมและประเทศมากขึ้น

ข่าวล่าสุด

สนง.สลากฯ ชูยุทธศาสตร์ปี 69 ลดสลากใบ เพิ่มสลากดิจิทัล–N3 คุมสมดุลตลาด