‘พุทธะและพระเจ้า กับต้นกำเนิดมนุษย์’
จากการที่ได้มีโอกาสศึกษาในความเป็นศาสนศาสตร์และปรัชญา
โดย ราช รามัญ
จากการที่ได้มีโอกาสศึกษาในความเป็นศาสนศาสตร์และปรัชญา ทำให้เห็นในสิ่งที่ละม้ายคล้ายคลึงกันหลายอย่างของความเป็นศาสนาโดยเฉพาะศาสนาที่เคยมีพระศาสดาเป็นมนุษย์ เคยมีลมหายใจอยู่บนโลกใบนี้มาก่อน ทั้งพระพุทธเจ้าและพระเยซูคริสต์ทั้งสองศาสดามีความเข้าใจในความเป็นมนุษย์อย่างมาก
คริสเตียน โปรเตสแตนต์ ในฝ่ายที่เคร่งครัดที่ถือวันสะบาโต เป็นวันเสาร์ หรือเซเว่นเดย์แอ๊ดเวนตีส มีกำเนิดมายาวนาน เป็นคริสเตียนที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด และรักษาข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ เอาไว้อย่างงดงามตามพระคัมภีร์ (ตั้งแต่สมัยโมเสส) ไม่มีปรับเปลี่ยนใดๆ เหมือนบางนิกายที่นิยมไปโบสถ์วันอาทิตย์ ซึ่งตามความเป็นจริงการเข้าโบสถ์ของคริสเตียนที่ถูกต้องจะต้องเข้าวันเสาร์เท่านั้น ส่วนการเข้าโบสถ์วันอาทิตย์เป็นการปรับเปลี่ยนตามแนวคิดของคนยุคหลังๆ
ในพระคัมภีร์ปฐมกาลที่ชาวคริสเตียน โปรเตสแตนต์ (เซเว่นเดย์) ศึกษานั้น ทำให้เข้าใจได้ว่า...โลกนี้เกิดขึ้นจากอำนาจของพระเจ้า ทั้งการมีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หรือมนุษย์บนโลกนี้ เป็นเพราะพระเจ้าทรงสร้างทั้งสิ้น อย่างมนุษย์นี้พระเจ้าสร้างจากผงคลีดินแล้วเป่าลมปราณเข้าไปในร่าง มนุษย์จึงมีลมหายใจได้ นี่เป็นสิ่งบันทึกเอาไว้จากพระคัมภีร์นับกว่าสามพันกว่าปีที่แล้ว (จากการบันทึกของโมเสส)
แต่ถึงอย่างไร ชาวคริสต์ ไม่ว่าจะนิกายใด คณะใดต่างก็มีพระเจ้าองค์เดียวกัน คือ พระเยซูคริสต์ และมีพระยาเวห์ ผู้เป็นพระบิดาของพระเยซูเป็นศูนย์รวมแห่งพลังศรัทธา
คนไทยจำนวนไม่น้อยก็หันไปนิยมและศึกษาพระคัมภีร์ไบเบิลและได้รับความเชื่อเป็นคริสต์ตามคำสอนของพระเจ้า ในทางกลับกันฝรั่งเองก็จำนวนไม่น้อยที่เกิดมาจากในครอบครัวของคริสต์แล้วหันมาศึกษาพระไตรปิฎกและก็กลายมาเป็นพุทธศาสนิกชน เพราะทั้งสองศาสนานี้เป็นศาสนาที่เข้าใจความเป็นมนุษย์อย่างมาก ด้วยเคยมีพระศาสดามาเป็นมนุษย์ ตามที่เกริ่นกล่าวมาแต่ต้น นอกจากนี้ทั้งสองศาสนายังเน้นเรื่องความรัก ความเมตตา การอภัย การอ่อนน้อมถ่อมตน และถ่อมใจเหมือนกัน อาจจะต่างกันตรงรูปภาษาและพิธีกรรม
ในทางพระพุทธศาสนา ในอัคคัญญสูตร จากพระไตรปิฎกเล่มที่ 11 สุตตันตปิฎกเล่มที่ 3 ที่บันทึกอย่างชัดเจนว่า เมื่อโลกกำลังพินาศเหล่าสัตว์ทั้งหลายไปเกิดในชั้นอาภัสสรพรหม มีปีติเป็นอาหาร สำเร็จทางใจ มีรัศมีซ่านออกนอกกาย สัญจรไปมาในอากาศ ฯลฯความชัดๆ คือ อาภัสสรพรหม ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ ดังนั้นต้นกำเนิดของมนุษย์ไม่ได้มาจากการสืบเผ่าพันธุ์ตามที่เราคุ้นเคยหรือว่าเข้าใจ แต่เกิดมาจากอาภัสสรพรหม ซึ่งคำว่า พรหม ก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในรูปแบบหนึ่ง ตามความเชื่อของคนพุทธ
ดังนั้น สิ่งที่ชาวคริสต์เชื่อว่า...พระเจ้าสร้าง กับ ทางคัมภีร์พุทธบอกว่า มาจากอาภัสสรพรหม จึงเป็นสิ่งที่ตรงกัน คำว่าตรงกันในที่นี่ คือ ปฐมแห่งการเกิดของมนุษย์ไม่ได้เกิดมาจากน้ำมือมนุษย์หรือการกระทำของมนุษย์ จากจุดนี้ดูเหมือนว่า ความเชื่อของ ชาลส์ ดาวิน ที่กล่าวว่ามนุษย์พัฒนามาจากลิง หรือมนุษย์เซลล์ที่พัฒนามาจากลิงหรือคล้ายลิงอะไรก็ตามแต่ เป็นเพียงแค่ความวิตกและจิตใต้สำนึกที่คิดเอาเอง
พระพุทธเจ้า ทรงสอนสาวกให้ยึดในหลักของเมตตาธรรม แล้วใช้ความเมตตานำให้การอภัยนำชีวิต เพื่อการละเว้นโทษทางใจและที่สำคัญทรงชี้แนวทางเพื่อความดับทุกข์
พระเยซูคริสต์ ทรงมีเมตตาอย่างมากในการที่เกิดมาเพื่อนำความจริงในการใช้ชีวิตด้วยความรักความเมตตามาบอกแก่มวลหมู่มนุษยชาติและทรงแนะนำวิธีการปฏิบัติให้รอดพ้นจากความชั่ว ความบาป ความทุกข์ทั้งปวงเพื่อไปสู่ความสันติสุขอันเป็นนิรันดร


