ดอกไม้สด ผู้บุกเบิกนวนิยายชีวิตครอบครัว
หนังสือ “กำเนิดนวนิยายในประเทศไทย” (The Genesis of the Novel in Thailand)
โดย พริบพันดาว
หนังสือ “กำเนิดนวนิยายในประเทศไทย” (The Genesis of the Novel in Thailand) ของ ศ.ดร.วิภา กงกะนันทน์ อาจารย์สอนวิชาภาษาและวรรณคดีไทย คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งเป็นอาจารย์รุ่นบุกเบิกของมหาวิทยาลัยศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์ นครปฐม ได้เขียนถึงกำเนิดนวนิยายไทยในยุคแรกว่า
“...ช่วงเวลาในระหว่าง พ.ศ. 2471-2472 เริ่มต้นด้วย กุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือศรีบูรพา ได้ประสบความสำเร็จในการตีพิมพ์เผยแพร่นิยายที่เขาแต่งขึ้นเป็นครั้งแรก ชื่อว่า ‘ลูกผู้ชาย’ ในเดือนตุลาคม 2471 และในปีถัดมา นักอ่านไทยก็มีโอกาสได้อ่านนวนิยายของนักเขียนสตรี ผู้ใช้นามปากกาว่า ดอกไม้สด เรื่อง ‘ศัตรูของเจ้าหล่อน’ ในขณะที่ หม่อมเจ้าอากาศดำเกิง รพีพัฒน์ ก็เสนอนวนิยาย ‘ละครแห่งชีวิต’ ซึ่งพิมพ์ครั้งแรกเป็นเล่มสมบูรณ์เช่นเดียวกับ ลูกผู้ชาย ของ ศรีบูรพา...”
สำหรับนวนิยายเรื่องแรกในชีวิตของ “ดอกไม้สด” หรือ ม.ล.บุปผา นิมมานเหมินท์ เรื่อง “ศัตรูของเจ้าหล่อน” เขียนขึ้นในขณะที่มีอายุเพียง 24 ปีเท่านั้น ความสำคัญของนวนิยายเรื่องนี้ ก็คือการเปิดประตูบานแรกของวงวรรณกรรมนวนิยายไทย โดยนักเขียนสตรีรุ่นบุกเบิกคนแรก ก่อนจะเป็นต้นธารให้กับงานเขียนนวนิยายในยุคต่อๆ มา ตราบจนถึงปัจจุบัน
ม.ล.บุปผา นิมมานเหมินท์ เริ่มเรียนหนังสือตั้งแต่ระดับประถมศึกษา จนกระทั่งจบชั้นมัธยมปีที่ 8 ทางภาษาฝรั่งเศส ที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ โดยได้รับการฝึกฝนด้านกิริยามารยาทและความเป็นระเบียบเรียบร้อย ขณะศึกษาอยู่ในโรงเรียนนั้น รวมทั้งได้รับการส่งเสริมให้รักการอ่านหนังสือจากแม่ชีชื่อ มาร์กาเร็ต ซึ่งทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือในเวลาต่อมา
นอกจากจะได้รับการส่งเสริมให้รักการอ่าน ซึ่งทำให้คิดอยากจะเป็นนักเขียนแล้ว สภาพแวดล้อมทางบ้านที่มีการฝึกหัดและแสดงละคร ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อหัดแต่งหนังสือครั้งแรก ด้วยการเขียนบทละครชื่อเรื่อง “ดีฝ่อ” ส่งไปให้หนังสือพิมพ์ไทยเขษม ก็ได้รับการพิจารณาลงพิมพ์
ต่อมาเห็นว่าบทละครไม่ใช่เรื่องสำหรับอ่าน จึงเปลี่ยนมาเขียนนวนิยาย นวนิยายเรื่องแรกคือเรื่อง “ศัตรูของเจ้าหล่อน” ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยเขษม ฉบับวันที่ 15 มิ.ย. 2472 ต่อมาได้แต่งนวนิยายเรื่องอื่นอีกหลายเรื่อง เรื่องที่มีชื่อเสียงในระยะแรกๆ คือ “ความผิดครั้งแรก” ลงพิมพ์ในนิตยสารนารีนาถ และ “สมชาย” พิมพ์เผยแพร่เป็นเล่มโดยโรงพิมพ์ไทยเขษม
ผลงานของดอกไม้สดได้รับยกย่องว่าเป็นวรรณกรรมที่งดงามด้วยภาษาเขียนและเนื้อความ นวนิยายแต่ละเรื่องได้แทรกหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องเตือนใจ และช่วยยกระดับความนึกคิดของผู้อ่าน จึงนับเป็นวรรณกรรมอันมีคุณค่าอย่างยิ่ง สถาบันการศึกษาหลายแห่งที่มีวิชาวรรณกรรมปัจจุบัน ในหลักสูตรได้คัดเลือกผลงานเขียนของดอกไม้สดเป็นเอกสารประกอบการศึกษา
นวนิยายของดอกไม้สดได้สะท้อนภาพวิถีชีวิตคนไทยในยุคกึ่งพุทธกาล โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ยุคเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ค่อนข้างชัดเจน งานเขียนของดอกไม้สดถือได้ว่าเป็นนิยายกึ่งพาฝันกึ่งสมจริงรุ่นบุกเบิก งานส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องความรักและการหาคู่ของคนหนุ่มสาว และดอกไม้สดเป็นนักเขียนรุ่นแรกๆ ที่ให้ความสำคัญกับตัวละครฝ่ายหญิงมาก
ผลงานในระยะแรกของดอกไม้สดจะอยู่ในสายโรแมนติก แต่ในช่วงหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตในฐานะที่เป็นราชตระกูลที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในวัง นวนิยายจะมีลักษณะเรียลิสติกมากขึ้น เช่นเรื่อง “ผู้ดี”
งานเขียนส่วนใหญ่แม้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องความรักและการหาคู่ของคนหนุ่มสาวในยุคทศวรรษ 2470-2490 แต่ก็เป็นงานที่เขียนด้วยความประณีตเอาใจใส่ในเรื่องความคิดและพฤติกรรมของตัวละคร การใช้ภาษา การบรรยายฉากและเหตุการณ์ ข้อที่น่าสังเกตในนวนิยายของดอกไม้สดคือ ได้เห็นว่าสังคมชั้นกลางกรุงเทพฯ ในช่วงหลังปี 2475 ค่อนข้างเห่อวัฒนธรรมฝรั่งในเรื่องการจัดงานเลี้ยง การเต้นรำ การสูบบุหรี่ และดูภาพยนตร์
ในบทความที่ชื่อ “นวนิยายของ ดอกไม้สด กับพัฒนาการนวนิยายไทย” ที่เขียนโดย ผศ.ดร.ตรีศิลป์ บุญขจร อาจารย์ประจําภาควิชาวรรณคดีเปรียบเทียบ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้อรรถาธิบายไว้ว่า บทบาทในด้านบุกเบิกนวนิยายหลังปี 2475 ของดอกไม้สด เป็นบทบาทต่อเนื่องมาจากก่อนปี 2475 ซึ่งเป็นยุคที่นวนิยายไทยก้าวเข้าสู่ลักษณะของตนเอง ดอกไม้สดเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในฐานะผู้บุกเบิกนวนิยายชีวิตครอบครัว
หลังปี 2475 ดอกไม้สดก็ยังคงเสนอนวนิยายในลักษณะเช่นนี้ ทั้งนี้เพราะ “ดอกไม้สด” จัดได้ว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของชนชั้นสูงที่ต้องเป็นฝ่ายสูญเสียจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว อิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงทําให้นวนิยายของดอกไม้สดมีพัฒนาการไปใน 3 ลักษณะ ซึ่งลักษณะทั้งสามนี้ก็มีบทบาทต่อพัฒนาการนวนิยายไทยด้วย ลักษณะแรก ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมซึ่งส่งผลกระทบไปยังสถานภาพของชนชั้นสูง ลักษณะที่สอง ภาพสะท้อนของผู้ดีและทัศนะต่อผู้ดีใหม่ และลักษณะที่สาม บทบาทใหม่ของตัวละครฝ่ายหญิง
ในปี 2491 มีผลงานเรื่องสั้นชุด “พลเมืองดี” ออกมา และในปี 2492 เขียนเรื่อง “วรรณกรรมชิ้นสุดท้าย” ได้เพียงสองบทก็ต้องหยุดไปเพราะปัญหาสุขภาพ ในปี 2497 เดินทางไปรักษาตัวที่ประเทศออสเตรเลีย และสมรสกับ ศ.สุกิจ นิมมานเหมินท์ ในเดือน ก.ย.ปีเดียวกันที่ซานฟรานซิสโก
ต่อมาปี 2502 ติดตามสามีไปประเทศอินเดีย ซึ่งไปรับตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงนิวเดลี ม.ล.บุปผา ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2506 ด้วยโรคหัวใจวาย ณ บ้านพักสถานเอกอัครราชทูตไทย กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ตลอดอายุขัย 57 ปี รวมแล้วดอกไม้สดมีผลงานนวนิยายทั้งสิ้น 12 เรื่อง เรื่องสั้น 20 เรื่อง และนวนิยายที่เขียนไม่จบอีก 1 เรื่อง รวมพิมพ์เป็นเล่มทั้งสิ้น 14 เล่ม


