posttoday

บีทีเอสทุ่มหมื่นล้านเพิ่ม 10 ขบวนใหม่ ทยอยส่งมอบปลายปี61

07 สิงหาคม 2561

บีทีเอสเตรียมจัดรถใหม่รับขวัญเปิดเดินรถเขียวใต้ต่อขยาย ลดความถี่-เพิ่มความจุ 10% เล็งคิกออฟระบบชำระผ่านคิวอาร์โค้ด

บีทีเอสเตรียมจัดรถใหม่รับขวัญเปิดเดินรถเขียวใต้ต่อขยาย ลดความถี่-เพิ่มความจุ 10% เล็งคิกออฟระบบชำระผ่านคิวอาร์โค้ด

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า บีทีเอสได้ลงทุนจัดซื้อรถใหม่ทั้งสิ้น 46 ขบวน วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะสามารถส่งมอบได้ในปลายปีนี้ราว 10 ขบวน เพื่อรองรับการเปิดเดินรถไฟฟ้าสีเขียวใต้ส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการในเดือน ธ.ค.นี้ ส่วนอีก 36 ขบวนจะส่งมอบทั้งหมดเพื่อนำมาให้บริการภายในปลายปี 2562

สำหรับรถขบวนแรกที่รับมอบนี้จะนำมาทดสอบการวิ่งจริง หากไม่พบข้อผิดพลาดภายใน 2 เดือน ทางโรงงานจะทยอยส่งมอบขบวนที่เหลือ โดยปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีผู้โดยสารเกือบ 8 แสนคน/วัน ดังนั้นการเพิ่มขบวนใหม่จะทำให้ปริมาณการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 10% ลดความถี่สายสุขุมวิทลงได้อีก จากเดิมการเดินรถความถี่อยู่ที่ 2.30 นาที/ขบวน

ด้านสายสีลมยังคงต้องใช้ความถี่เดิมที่ 3.45 นาที เพราะยังไม่สามารถแก้ปัญหาคอขวดบริเวณสถานีสะพานตากสินได้ โดยล่าสุดกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้อนุมัติให้บีทีเอสดำเนินการปรับปรุงสถานีสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (S6) วงเงิน 1,100 ล้านบาท ขณะนี้ อยู่ระหว่างเสนอขออนุมัติรายงานผล กระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) หากได้รับความเห็นชอบในปีนี้ จะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2561 ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี ดังนั้นปัญหาความแออัดของสายสีลมจะเริ่มดีขึ้นภายในปี 2563

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ส่วนอัตราค่าโดยสารนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาร่วมกับกรุงเทพมหานคร ถึงโมเดลค่าโดยสารของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเพื่อให้คุ้มค่ากับประชาชนมากที่สุด ขณะเดียวกันต้องสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงด้วย

ทั้งนี้ ยืนยันว่าค่าโดยสารรถไฟฟ้าของประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชีย ด้านความคืบหน้าการเปลี่ยนตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติทั้งหมดให้เป็นแบบจอสัมผัส (Touch Screen) รวมประมาณ 200 ตู้ และติดตั้งตู้จำหน่ายตั๋วที่มีช่องรับธนบัตรเพิ่มอีก 50 ตู้ โดยจะติดตั้งตามสถานีต่างๆ ในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส นั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปลายปีนี้ เพื่อรองรับทั้งระบบการใช้ธนบัตรเงินสดซื้อตั๋วโดยสารและระบบสแกน QR Code บนโทรศัพท์มือถือตามระบบชำระเงินของแต่ละธนาคารเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้เดินทาง

อย่างไรก็ตาม ด้านปัญหาสัญญาณคลื่นรบกวนนั้นภายหลังจากเปลี่ยนระบบแล้วพบความผิดปกติน้อยมาก หลังจากนี้ต้องขอเวลาการจูนระบบใหม่อีกสักพักแต่ยืนยันว่าการเปลี่ยนผ่านระบบนี้จะ ต้องเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดภายในปีนี้

ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (บีอีเอ็ม) ได้ถอดเบาะตู้กลางของรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินครบทั้ง 19 ขบวนแล้ว โดยรถไฟฟ้า 1 ขบวนจะมี 3 ตู้ ตู้ละ 42 ที่นั่ง รวม 126 ที่นั่ง โดยจะถอดเบาะออกในตู้กลางคิดเป็นตู้ละ 14 ที่นั่งรวม 3 ตู้ 42 ที่นั่ง ทำให้ที่นั่งเหลือ 84 ที่นั่ง ซึ่งจะช่วยลดความแออัดภายในชานชาลาลดลงได้