ฐิติรัชต์ จิรโชตินิวัฒน์ ภูมิใจที่ได้ร่วมสร้างสังคมยั่งยืน
ปัจจุบันธุรกิจร้านทำเล็บ หรือ การทำสปาเล็บแบบครบวงจร กำลังกลายเป็นธุรกิจที่ได้ความนิยมอย่างกว้างขวางในกลุ่มสังคมไฮโซ
โดย พงษ์พัทธ์ วงศ์ยะลา
ปัจจุบันธุรกิจร้านทำเล็บ หรือ การทำสปาเล็บแบบครบวงจร กำลังกลายเป็นธุรกิจที่ได้ความนิยมอย่างกว้างขวางในกลุ่มสังคมไฮโซ และเหล่าดารานักแสดงชื่อดังของเมืองไทย เพราะการทำเล็บในรูปแบบดังกล่าวมีความสวยงามหลากสีสัน บ่งบอกถึงความทันสมัย รสนิยมสูง อินเทรนด์ ทำให้ธุรกิจดังกล่าวสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับผู้ประกอบการเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูงแม้ว่าเศรษฐกิจตกต่ำ
ฐิติรัชต์ จิรโชตินิวัฒน์ เจ้าของร้านเล็บ Color Nail& Spa กล่าวว่า ครอบครัวทำธุรกิจเหล็กเส้นและปั๊มน้ำมัน หลังเรียนจบปริญญาตรีครอบครัวได้มอบหมายให้ช่วยบริหารจัดการดูแลปั๊มน้ำมันที่มีทั้งหมด 3 สาขา แต่บริหารจัดการปั๊มน้ำมันถือว่าเป็นงานหนักมากสำหรับผู้หญิงและเหนื่อยมากๆ เพราะต้องดูแลตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืนจึงวางมือให้ครอบครัวสานธุรกิจปั๊มน้ำมันต่อ จากนั้นจึงมองหาธุรกิจที่ตอบโจทย์ความชอบ ตัวตนและความถนัด จึงตัดสินใจลงทุนเปิดร้านสปาเล็บครบวงจร ชื่อว่า ColorNail & Spa
“จริงๆ แล้วเป็นคนชื่นชอบความสวยงามอยู่แล้ว ยิ่งหลังจากแต่งงานมีครอบครัว มีบุตร ก็อยากให้เวลากับลูกและสามี เหตุนี้จึงมองหาธุรกิจที่ทำแล้วสามารถมีเวลาดูแลลูกได้ด้วย แต่เมื่อลูกเข้าโรงเรียนแล้วกลับทำให้มีเวลาว่างมากขึ้น จึงคิดว่าควรทำธุรกิจอะไรสักอย่างดีกว่าจะอยู่บ้านเฉยๆ หรือช็อปปิ้งไปวันๆ พอมาเจอธุรกิจเกี่ยวกับการทำเล็บ ทำให้ชอบทันที และมันเป็นความชอบส่วนตัวอยู่แล้ว หลังจากลูกเข้าโรงเรียนก็ไปศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจเปิดร้านสปาเล็บ เมื่อมีความรู้เพิ่มพูนแล้วจึงตัดสินใจลงทุนเปิดร้าน”
การเริ่มต้นลงทุนทำธุรกิจในช่วงแรกของฐิติรัชต์นั้นจะลองตลาดก่อนโดยการเปิดร้านเล็กๆ ซึ่งสาขาแรกที่เปิดนำร่อง คือ สาขาสยามสแควร์เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ภายหลังสั่งสมประสบการณ์ในแวดวงการทำธุรกิจสปาเล็บมาได้ประมาณ 5 ปี จึงมีความคิดที่จะขยายสาขาอีก และเปิดร้านให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้บริการลูกค้าครบวงจรมากขึ้น จึงเปิดสาขาแห่งที่ 2 ภายในโครงการเสนาเฟสท์ ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้มอลล์บริเวณถนนเจริญนคร ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างล้นหลาม
“หลังจากเปิดร้านสปาเล็บสาขาที่ 2 ทำให้เรารู้ว่าชาวต่างชาติให้ความสนใจในการดูแลเล็บมือและเท้าอย่างมาก จึงทำให้เราสนใจตลาดต่างชาติมากขึ้น เมื่อธุรกิจร้านสปาเล็บเริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายและกระแสตอบรับจากลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจึงต้องขยายสาขาเป็นแห่งที่ 3 ที่ห้างสรรพสินค้าอัมรินทร์พลาซ่า บริเวณแยกพระพรหม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างขาติและยังเป็นแหล่งขาช็อปของกลุ่มไฮโซ ตลอดทั้งดาราชื่อดังของเมืองไทยพากันแห่มาทำสปาเล็บไม่ขาดสาย”
เมื่อการดำเนินธุรกิจประสบความสำเร็จแล้วฐิติรัชต์ไม่เคยทอดทิ้งสังคมไทยยังคงดำเนินธุรกิจควบคู่กับการตอบแทนสังคมไปด้วยเพราะไม่อยากให้สังคมมองเป็นเพียงการทำการตลาดแอบแฝงกับการทำธุรกิจ เพราะยึดอุดมคติมาตลอดว่าทุกคนเริ่มได้ จากความละเลยมาเป็นความใส่ใจสังคมไทย หากผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือสังคม ตอบแทนสังคมจะทำให้สังคมไทยน่าอยู่
ฐิติรัชต์ กล่าวว่า แม้ว่าแต่ละคนจะมีธุรกิจขนาดเล็ก แต่ทุกคนก็สามารถทำในระดับเล็กและไม่กระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ ที่ผ่านมาทางร้าน สปาเล็บได้นำสิ่งของไปเพื่อมอบให้แก่เด็ก และผู้ยากไร้ในพื้นที่ชนบททั่วประเทศโดยจะนำสิ่งของต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับเยาวชนไปตระเวนแจกในพื้นที่ห่างไกลความเจริญเป็นประจำทุกๆ ปี ขณะเดียวกันก็มอบทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนที่เรียนดีแต่ยากจน ซึ่งจะ
เป็นส่วนหนึ่งที่จะมอบโอกาสที่ดีๆ ตลอดทั้งร่วมสานฝันให้กับเยาวชนได้รับการศึกษาระดับสูงๆ ต่อไป
ไม่เพียงแต่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือสังคม เยาวชน ผู้ด้อยโอกาสเท่านั้น ฐิติรัชต์ยังเป็นสตรีผู้ใจบุญสุนทาน เพื่อนพ้องน้องพี่ชวนไปทำบุญสร้างวัด สร้างพระอุโบสถ หรือสร้างพระประธาน ก็ไม่เคยขัดศรัทธาพร้อมควักเงินร่วมทำบุญเพื่อเป็นส่วนหนึ่งทำนุบำรุงศาสนา แต่หากมีเวลาว่างจากการทำธุรกิจร้านสปาเล็บก็จะเดินสายไปร่วมทำบุญที่วัดต่างๆ ด้วยตนเอง
“การทำบุญนอกจากทำให้จิตบริสุทธิ์ผุดผ่องแล้วยังเป็นการออมบุญไปในดัวด้วย เมื่อเวลาว่างก็จะไปทำโรงงานตามวัดต่างๆ และมอบเตียงคนไข้ให้กับโรงพยาบาลทั่วไทย ซึ่งการทำบุญกับเพื่อนมนุษย์ก็ได้บุญเช่นกัน หรือจากทำบุญที่วัดแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำต่อเนื่อง คือ แจกสิ่งของให้ผู้ยากไร้ ตามสถานที่ต่างๆ เช่น ที่ผ่านมาไปบริจาคซื้อเครื่องช่วยหายใจถวายพระ ร่วมสร้างห้องเด็กป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่โรงพยาบาลสวนดอก จ.เชียงใหม่ เป็นต้น”
ฐิติรัชต์ กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้รู้สึกภูมิใจที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมไทยยั่งยืนควบคู่กับทำธุรกิจให้ได้ตามเป้าหมาย การใส่ใจประโยชน์ของเด็ก สิ่งแวดล้อม และเรื่องธรรมาภิบาลเราสามารถทำได้ และสิ่งเหล่านี้จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายอัตโนมัติ ทำให้เชื่อมั่นและศรัทธาในการดำเนินชีวิตแบบมีสติ บนวิถีแห่งความพอเพียง ซึ่งคือจุดเริ่มที่พร้อมจะนำไปสู่วิถีของการไม่ทุกข์
มีความสุขยั่งยืนต่อไป
แม้คำว่าช่วยสังคม กับการเติบโตของธุรกิจจะขัดแย้งกันชัดเจน แต่ทั้งสองสิ่งนี้ก็เกื้อหนุนกันได้ เพราะเมื่อทำสิ่งที่เป็นคุณต่อสังคม โอกาสที่องค์กรจะถูกชื่นชม และพัฒนาสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนก็มีสูง
ดังนั้นการทำธุรกิจไม่ควรมองแค่ผลกำไรบริษัท แต่ต้องรู้ว่าสังคมได้กำไรแค่ไหนจากการลงทุนครั้งนี้บ้าง ถ้ากล้าเป็นต้นแบบทำให้คนอื่นเขาคิดตาม แล้วก็ทำตาม สุดท้ายสังคมมันก็จะแผ่กว้าง แล้วสังคมก็จะดีขึ้นโดยรวมในที่สุด
ฐิติรัชต์นับว่าเป็นอีกนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จแล้วมักจะหาโอกาสไปมอบสิ่งดีๆ ให้กับเยาวชนชนบทและผู้ด้อยโอกาสได้สานฝันให้เป็นจริง อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างสังคมไทยยั่งยืนและสังคมน่าอยู่คู่ชาวไทย


