แอดไวซ์จัดโครงสร้างรายได้ แต่งตัวเตรียมเข้าตลาดปีหน้า
แอดไวซ์ฯ ปรับโครงสร้างรายได้จากค้าปลีกไอทีกว่า 95% กระจายไปมือถือ เปิดสาขาซีแอลเอ็มวี ขายออนไลน์ ชี้บูมอี-สปอร์ตต่อ
แอดไวซ์ฯ ปรับโครงสร้างรายได้จากค้าปลีกไอทีกว่า 95% กระจายไปมือถือ เปิดสาขาซีแอลเอ็มวี ขายออนไลน์ ชี้บูมอี-สปอร์ตต่อ
นายจักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการขายและการตลาด บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท ผู้บริหารจำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ กล่าวว่า บริษัทจะปรับโครงสร้างรายได้ 1.25 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการขายสินค้ากลุ่มไอทีกว่า 95% และกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่กว่า 4% ของรายได้บริษัท ขณะที่แบ่งตามช่องทางจำหน่ายมาจากต่างจังหวัดกว่า 85% กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเกือบ 15% ไปเป็นการขยายหารายได้ทั้งแนวราบและแนวดิ่งของบริษัท เช่น ขยายไปสินค้ามือถือมากขึ้น อี-สปอร์ต เพิ่มช่องทางจำหน่ายไปต่างประเทศ พร้อมออนไลน์ เพื่อให้รายได้โตปีละกว่า 10%
สำหรับแผนสร้างรายได้จากการขยายช่องทางจำหน่าย ซึ่งบริษัทโตมาจากกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง ขายสินค้าผ่านบริษัทสาขามาสเตอร์แฟรนไชส์ปัจจุบันมี 60 ราย ผ่านร้านแอดไวซ์กว่า 110 สาขา ถัดไประดับอำเภอเป็นแฟรนไชส์ร้านแอดไวซ์มินิกว่า 300 ราย จากนั้นจะผ่านดีลเลอร์กว่า 2 หมื่นราย แผนปีนี้บริษัทจะขยายในส่วนมาสเตอร์แฟรนไชส์และแฟรนไชส์ในกรุงเทพฯ ที่มี 8 สาขา เพิ่มอีก 8-10 สาขา ตามแผนรุกกรุงเทพฯ ส่วนสาขาต่างจังหวัดจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ร้านให้ใหญ่ขึ้น เช่น สาขาเชียงใหม่ สาขาตรัง
นอกจากนี้ จะขยายแฟรนไชส์ไป สปป.ลาว จากเดิม 10 แฟรนไชส์ครอบคลุม 20 จังหวัด ใน สปป.ลาว ปีนี้จะเพิ่มอีก 1-2 แฟรนไชส์ ซึ่งรูปแบบแฟรนไชส์ที่ สปป.ลาว จะใช้รูปแบบระดับอำเภอ ส่วนประเทศอื่นที่จะขยายต่อไป คือ เมียนมาและกัมพูชา รูปแบบจะเป็นการร่วมทุนกับท้องถิ่นเหมาะกว่าแฟรนไชส์ พร้อมมีแผนจะขยายไปอาเซียน
ขณะที่ช่องทางออนไลน์ผ่านแอดไวซ์ออนไลน์ที่มีผู้เข้าชมกว่า 4 ล้านครั้ง คาดปีนี้จะเพิ่มจาก 900 ล้านบาท เป็น 1,700 ล้านบาท หรือเพิ่มกว่า 12% หรือมีสัดส่วนเพิ่มเป็นกว่า 13% ของรายได้บริษัท ซึ่งรายได้ผ่านออนไลน์ในกลุ่มสินค้าไอทีเพิ่มได้มากสุดอยู่ที่ 30-40% เหมือนในต่างประเทศ เพราะรายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากช่องทางออฟไลน์ 60-70% เนื่องจากสินค้าไอที ยังต้องการบริการหลังการขายผ่านร้านค้า
ด้านการหารายได้เพิ่มจากขยายไลน์สินค้า บริษัทจะขยายไปเพิ่มไลน์สินค้ากลุ่มมือถือมากขึ้น เพราะแนวโน้มร้านค้าปลีกสินค้าไอทีกับมือถือจะขยายไลน์มาขายสินค้ากลุ่มเดียวกันมากขึ้น โดยปัจจุบันรายได้จากกลุ่มมือถือมีสัดส่วนเพียง 4% ของรายได้บริษัทรวม นอกจากนี้จากการที่บริษัทวางกลยุทธ์จะขยายร้านในกรุงเทพฯ มากขึ้น จะทำให้มีรายได้จากสินค้าที่ระดับกลางถึงบนมีราคาต่อชิ้นมากขึ้น รวมทั้งรายได้กลุ่มอี-สปอร์ต
นายจักรกฤช กล่าวว่า จากแผนทั้งหมดจะทำให้ปีนี้โตกว่า 10% จากปีก่อน 1.25 หมื่นล้านบาท ส่วนแผนนำบริษัทพร้อมบริษัทสาขามาสเตอร์แฟรนไชส์ 60 ราย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คาดจะเข้ากลางปีหน้า


