posttoday

การจัดทำรายงาน เงินสดรับ-จ่าย

28 กุมภาพันธ์ 2561

สาธิตก่อนอื่นผมต้องขอประทานโทษท่านผู้อ่านทุกท่านที่เขียนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ท่านที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้มาตรา 40(50-(8) แล้วเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่าย ไม่ต้องทำรายงานเงินสดรับจ่าย ปรากฏว่าจริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายหรือหักค่าใช้จ่ายตามจำเป็นและสมควร ก็ต้องทำรายงานเงินสดรับจ่ายหมด เพราะตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 161) กำหนดให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40(5)-(8) แห่งประมวลรัษฎากรจัดทำบัญชีหรือรายงานแสดงรายได้และรายจ่าย

สาธิต

ก่อนอื่นผมต้องขอประทานโทษท่านผู้อ่านทุกท่านที่เขียนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ท่านที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้มาตรา 40(50-(8) แล้วเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่าย ไม่ต้องทำรายงานเงินสดรับจ่าย ปรากฏว่าจริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายหรือหักค่าใช้จ่ายตามจำเป็นและสมควร ก็ต้องทำรายงานเงินสดรับจ่ายหมด เพราะตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 161) กำหนดให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40(5)-(8) แห่งประมวลรัษฎากรจัดทำบัญชีหรือรายงานแสดงรายได้และรายจ่าย

บุคคลธรรมดาตามกฎหมายกรมสรรพากร ได้แก่

(1) บุคคลธรรมดา

(2) ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล (รวมถึงวิสาหกิจชุมชน ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548)

(3) ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี

(4) กองมรดกที่ยังมิได้แบ่ง

จะเห็นว่า นิติบุคคล เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฯลฯ ไม่เกี่ยว เพราะพวกนิติบุคคลต้องทำบัญชีและต้องมีผู้สอบบัญชีตามกฎหมาย อยู่แล้ว

ว่าไปแล้ว การทำรายงานเงินสดรับจ่ายนอกจากใช้เป็นหลักฐานในการแสดงรายได้และรายจ่ายเพื่อประกอบการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้ว ยังเป็นประโยชน์กับเรา ช่วยให้เราทราบถึงรายได้และรายจ่ายจากการบริหารกิจการ ผลกำไร-ขาดทุน ใช้วางแผนและควบคุม การบริหารงานภายในของกิจการ และใช้เป็นเอกสารประกอบการยื่น ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้

แล้วจะทำรายงานเงินสดรับจ่ายยังไงดี กรมสรรพากรกำหนดว่าการจัดทำรายงานเงินสดรับ-จ่าย จะต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อยตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด ซึ่งผู้ประกอบการสามารถเพิ่มช่องรายการให้เหมาะสมกับสภาพของกิจการได้

l ต้องจัดทำรายงานเงินสดรับ-จ่าย เป็นภาษาไทย ถ้าทำเป็นภาษา ต่างประเทศให้มีภาษาไทยกำกับ

l ต้องลงรายการในรายงานเงินสดรับ-จ่าย ภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันที่มีรายได้หรือรายจ่าย

l รายการที่นำมาลงในรายงานเงินสดรับ-จ่าย

- ต้องมีเอกสารประกอบการลงรายงาน เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ฯลฯ

- การลงรายการรายรับและรายจ่ายให้ลงเป็นยอดรวมของแต่ละวันทำการ โดยมีเอกสารประกอบรายรับและรายจ่ายดังกล่าว หรือสามารถลงรายการรายรับและรายจ่ายโดยลงรายละเอียดรายการของรายรับ-รายจ่ายที่เกิดขึ้น ก็สามารถทำได้เช่นกัน

- รายจ่ายที่นำมาลงในรายงานเงินสดรับ-จ่าย ต้องเป็นรายจ่าย ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการ

- สำหรับภาษีซื้อที่เกิดจากรายจ่ายนั้น สามารถนำมาลงเป็นต้นทุนของสินค้าหรือค่าใช้จ่ายได้ทั้งจำนวน เนื่องจากผู้ประกอบการไม่ได้เป็น ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

- หากมีการขายสินค้า/ให้บริการ ซื้อสินค้า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นเงินเชื่อ ให้บันทึกรายการ ในวันที่ได้รับชำระหรือวันที่จ่ายชำระค่าสินค้า/บริการนั้น โดยอธิบายเพิ่มเติมในช่องหมายเหตุ

- ให้สรุปยอดรายรับและรายจ่าย เป็นรายเดือนเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

แล้วถ้าหากไม่ทำจะโดนอะไรบ้าง กรมสรรพากรก็จะปรับครับ โดย จะปรับไม่เกินสองพันบาท ตามมาตรา 35 แห่งประมวลรัษฎากร

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 68