การจัดทำรายงาน เงินสดรับ-จ่าย
สาธิตก่อนอื่นผมต้องขอประทานโทษท่านผู้อ่านทุกท่านที่เขียนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ท่านที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้มาตรา 40(50-(8) แล้วเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่าย ไม่ต้องทำรายงานเงินสดรับจ่าย ปรากฏว่าจริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายหรือหักค่าใช้จ่ายตามจำเป็นและสมควร ก็ต้องทำรายงานเงินสดรับจ่ายหมด เพราะตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 161) กำหนดให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40(5)-(8) แห่งประมวลรัษฎากรจัดทำบัญชีหรือรายงานแสดงรายได้และรายจ่าย
สาธิต
ก่อนอื่นผมต้องขอประทานโทษท่านผู้อ่านทุกท่านที่เขียนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ท่านที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้มาตรา 40(50-(8) แล้วเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่าย ไม่ต้องทำรายงานเงินสดรับจ่าย ปรากฏว่าจริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายหรือหักค่าใช้จ่ายตามจำเป็นและสมควร ก็ต้องทำรายงานเงินสดรับจ่ายหมด เพราะตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 161) กำหนดให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40(5)-(8) แห่งประมวลรัษฎากรจัดทำบัญชีหรือรายงานแสดงรายได้และรายจ่าย
บุคคลธรรมดาตามกฎหมายกรมสรรพากร ได้แก่
(1) บุคคลธรรมดา
(2) ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล (รวมถึงวิสาหกิจชุมชน ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548)
(3) ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
(4) กองมรดกที่ยังมิได้แบ่ง
จะเห็นว่า นิติบุคคล เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฯลฯ ไม่เกี่ยว เพราะพวกนิติบุคคลต้องทำบัญชีและต้องมีผู้สอบบัญชีตามกฎหมาย อยู่แล้ว
ว่าไปแล้ว การทำรายงานเงินสดรับจ่ายนอกจากใช้เป็นหลักฐานในการแสดงรายได้และรายจ่ายเพื่อประกอบการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้ว ยังเป็นประโยชน์กับเรา ช่วยให้เราทราบถึงรายได้และรายจ่ายจากการบริหารกิจการ ผลกำไร-ขาดทุน ใช้วางแผนและควบคุม การบริหารงานภายในของกิจการ และใช้เป็นเอกสารประกอบการยื่น ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้
แล้วจะทำรายงานเงินสดรับจ่ายยังไงดี กรมสรรพากรกำหนดว่าการจัดทำรายงานเงินสดรับ-จ่าย จะต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อยตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด ซึ่งผู้ประกอบการสามารถเพิ่มช่องรายการให้เหมาะสมกับสภาพของกิจการได้
l ต้องจัดทำรายงานเงินสดรับ-จ่าย เป็นภาษาไทย ถ้าทำเป็นภาษา ต่างประเทศให้มีภาษาไทยกำกับ
l ต้องลงรายการในรายงานเงินสดรับ-จ่าย ภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันที่มีรายได้หรือรายจ่าย
l รายการที่นำมาลงในรายงานเงินสดรับ-จ่าย
- ต้องมีเอกสารประกอบการลงรายงาน เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ฯลฯ
- การลงรายการรายรับและรายจ่ายให้ลงเป็นยอดรวมของแต่ละวันทำการ โดยมีเอกสารประกอบรายรับและรายจ่ายดังกล่าว หรือสามารถลงรายการรายรับและรายจ่ายโดยลงรายละเอียดรายการของรายรับ-รายจ่ายที่เกิดขึ้น ก็สามารถทำได้เช่นกัน
- รายจ่ายที่นำมาลงในรายงานเงินสดรับ-จ่าย ต้องเป็นรายจ่าย ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการ
- สำหรับภาษีซื้อที่เกิดจากรายจ่ายนั้น สามารถนำมาลงเป็นต้นทุนของสินค้าหรือค่าใช้จ่ายได้ทั้งจำนวน เนื่องจากผู้ประกอบการไม่ได้เป็น ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- หากมีการขายสินค้า/ให้บริการ ซื้อสินค้า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นเงินเชื่อ ให้บันทึกรายการ ในวันที่ได้รับชำระหรือวันที่จ่ายชำระค่าสินค้า/บริการนั้น โดยอธิบายเพิ่มเติมในช่องหมายเหตุ
- ให้สรุปยอดรายรับและรายจ่าย เป็นรายเดือนเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
แล้วถ้าหากไม่ทำจะโดนอะไรบ้าง กรมสรรพากรก็จะปรับครับ โดย จะปรับไม่เกินสองพันบาท ตามมาตรา 35 แห่งประมวลรัษฎากร


