ชองวาแด - ทำเนียบหลังคาสีน้ำเงิน
หลายปีก่อนมีโอกาสได้แฝงตัวในคณะทัวร์ไปเกาหลี ในโปรแกรมระบุว่า จะพาไปเยี่ยมชม "ชองวาแด - ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลี"
โดย ดร.เพียงออ เลาหะวิไลย[email protected]
หลายปีก่อนมีโอกาสได้แฝงตัวในคณะทัวร์ไปเกาหลี ในโปรแกรมระบุว่า จะพาไปเยี่ยมชม "ชองวาแด - ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลี" ด้วย ทำให้รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาหน่อยหนึ่ง เมื่อวันนั้นมาถึง ไกด์ก็พามาเดินรอบสวนที่มีอนุสาวรีย์รูปนกฟีนิกซ์ด้านหน้าทำเนียบ แล้วก็ชี้ชวนให้ดูว่า "ที่เห็นหลังคาสีน้ำเงินไกลๆ นั่นละค่ะ คือทำเนียบประธานาธิบดี" เราก็นึกในใจว่า "โอ้ ดีจริง คงมาได้ใกล้ที่สุดแค่นี้แล้วกระมัง"
ดังนั้น เมื่อไปเกาหลีครั้งล่าสุด และทางเจ้าภาพคือ Korea Press Foundation ได้จัดโปรแกรมให้ไปเยี่ยมชมทำเนียบประธานาธิบดีอีกครั้งกับเพื่อนๆ นักข่าวหลายชาติ "เชกา" จึงรู้สึกเฉยๆ เพราะว่า "เคยไปมาแล้ว"
ที่ไหนได้! แม้เคยอยู่เกาหลีมาก่อน ไปมาก็หลายสิบปี แต่มาพลาดท่าไกด์ทัวร์ไทยจนได้ ที่ไกด์พามานั้นน่ะ คือไปยืนนอกรั้วทำเนียบ ยังไม่ทันเอามือแตะรั้วเลยก็บอกว่ามาถึงแล้ว ให้ถ่ายรูปสองสามมุมแล้วก็ต้อนขึ้นรถกลับ หากใครไปกับบริษัททัวร์แล้วเจอแบบนี้ ไม่เป็นไรค่ะ ไปใหม่ได้ คราวนี้ไปเองเลย
มาว่ากันถึงประสบการณ์จริงที่เขาจัดมาให้อย่างสมใจ แม้ไม่ได้ไปนั่งในห้องรับแขกของทำเนียบ เพราะจะเป็นการรบกวนการทำงานของรัฐบาลก็ตามที แต่ก็ได้ไปเดินชมนก ชมไม้ ชมสวน ชมอาคารทั้งเก่าแก่และใหม่ภายในรั้วทำเนียบกันเลย สวนและอาคารสำคัญอย่างไรละหรือ แต่ละจุดภายในทำเนียบนั้น เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เกาหลี และสำหรับสาวๆ ขาละครซีรี่ส์ ก็คงซึ้งกับตัวละครที่เป็นบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อต่อสู้เก่งของประธานาธิบดีในเรื่องกันบ้างสิน่า
การเข้าชมนั้นไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ละวันจะมี 4 รอบ และต้องจองออนไลน์ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 สัปดาห์จนถึง 6 เดือนก่อนวันนัด ตอนสมัครต้องระบุ ชื่อเต็ม หมายเลขพาสปอร์ต วันเดือนปีเกิด สถานที่ติดต่อได้ สัญชาติ และวันเวลาที่ต้องการเข้าชม หากได้วันเวลาไหนจะมีอีเมลแจ้งกลับ การวางแผนการเดินทางจึงควรปรับเปลี่ยนได้ค่ะ เมื่อถึงวันนัดควรไปถึงก่อนเวลาสัก 20 นาที เช้าวันนั้นเราไปถึงที่นัดหมายราว 10.15 น. และก็ได้พบกับเจ้าหน้าที่ของทำเนียบหนุ่ม หล่อคนแรกที่ลานจอดรถด้านข้างพระราชวัง คยองบ๊ก เพื่อนสาวจากอินโดนีเซีย เมียนมา และเวียดนาม สลบไสลไปตามๆ กัน
ทุกคนต้องมอบพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเพื่อยืนยันตัวตนที่ได้สมัครออนไลน์มาแล้ว และเจ้าหน้าที่จะนำไปเก็บไว้ตลอดการเยี่ยมชม หากข้อมูลในพาสปอร์ตไม่ถูกต้องตรงกับที่สมัครไว้ หรือมิได้นำพาสปอร์ตมาก็ต้อง ขอเชิญให้นั่งรออยู่ในรถด้านนอกไปก่อน เพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัยของผู้นำประเทศ ดังนั้นจะมีข้อผิดพลาดไม่ได้ค่ะ
เมื่อไปถึงประตูทำเนียบก็มีเจ้าหน้าที่อีกชุดมารับ คราวนี้กรี๊ดสลบกันทั้งคณะ จนอดคิดไม่ได้ว่า การคัดเลือกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือบอดี้การ์ด ที่ทำหน้าที่รับแขกของทำเนียบนี่ นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติตามหน้าที่อันพึงมีแล้ว ยังต้องคัดคนหน้าตาดีมาด้วยหรือเปล่า!!
เมื่อผ่านด่านตรวจเช็กความปลอดภัยเข้มแบบสนามบินแล้ว คนต่างชาติก็จะได้รับแจกชุดหูฟังภาษาอังกฤษคนละชุด เพราะที่นี่จะไม่มีพากย์ค่ะ เสียงในฟิล์มเกาหลีล้วนๆ หากใครฟังออกก็จงรับไว้ก่อน เพราะตอนขาออกต้องเอาไปแลกพาสปอร์ตคืนค่ะ จุดแรกเราได้เข้าไปในห้องคล้ายโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กเพื่อดูวิดีโอความเป็นมาของทำเนียบประธานาธิบดีในภาพรวม จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่นำการเดินเท้ารอบๆ ทำเนียบ การถ่ายรูปนั้นจำกัดให้ถ่ายได้เพียงบางจุด จะเดินไปถ่ายไปมิได้ เพราะฉะนั้นจะต้องฟังด้วยค่ะว่าจุดไหนอนุญาตให้ถ่ายรูป ถ้าฟังไม่ออกก็สังเกตคนเกาหลีอื่นๆ ดู เมื่อเขายกกล้องขึ้นมาถ่ายก็ถ่ายได้ จุดที่ถ่ายรูปได้จะมีการหยุดขบวนให้ถ่ายรูป วันนี้กลุ่มของเรามีแค่ 10 คน แต่หัวขบวนนี่เป็นเด็กอนุบาลเกาหลีเกือบ 20 คนค่ะ น่ารักมาก คุณครูพามาเที่ยว และมีชาวเกาหลีมาเป็นครอบครัวอีก 5 คน พ่อแม่ลูกและปู่ย่า
ทำเนียบประธานาธิบดีนี้อยู่ด้านหลังพระราชวังคยองบ๊กในปัจจุบัน ซึ่งเป็นจุดที่ดีที่สุดของเมืองหรือประเทศ ตามตำราว่าเหมาะควรแก่การเป็นที่อยู่อาศัยของผู้นำ ดังนั้นนับตั้งแต่สมัยอาณาจักรโคเรียวที่เก่าแก่ราวพันกว่าปี บริเวณนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวัง "นัมกยอง" ที่อยู่ทางใต้ของอาณาจักร ต่อมาในสมัยโชซอนเมื่อก่อสร้างพระราชวังคยองบ๊ก (เดิม) เป็นวังหลวงแล้ว บริเวณด้านข้างเป็นสถานที่ทำพระราชพิธีทางจิตวิญญาณของราชวงศ์
เมื่อญี่ปุ่นบุกครั้งแรกราว 425 ปีก่อน ได้เผาทำลายพระราชวังคยองบ๊ก (เดิม) จนสิ้น เพิ่งจะมาก่อสร้างพระราชวังคยองบ๊กใหม่เมื่อร้อยปีเศษนี้เอง โดยสร้างขึ้นมาด้านหน้า ด้วยเหตุนี้ที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดีปัจจุบัน จึงเคยเป็นสถานที่ทำพระราชพิธีทางจิตวิญญาณมาก่อนจะเป็นที่ตั้งของตำหนักในสวนหลังพระราชวัง ต่อมาเมื่อญี่ปุ่นยึดเกาหลีและผนวกรวมเป็นอาณาจักรแห่งสมเด็จ พระจักรพรรดิญี่ปุ่น จึงได้รื้อถอนตำหนัก หลังพระราชวังออกไปหลายหลังเพื่อจัดงาน "โชซอนเอ็กซ์โป" และสร้างที่พำนักให้ผู้แทนพระองค์ปกครองเกาหลีที่่นี่มีชื่อเรียกตามชื่อตำหนักที่ถูกรื้อถอนไปว่า "คยองมูแด"
หลังจากที่ญี่ปุ่นถอนออกไปเมื่อแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างที่อเมริกันเข้ามาควบคุมประเทศก็ได้ใช้ "คยองมูแด" นี้แทนญี่ปุ่น และ เมื่อเกาหลีจัดตั้งรัฐบาลของตนเองขึ้นใหม่ "คยองมูแด" จึงได้เป็นที่พำนักของประธานาธิบดีเกาหลีคนแรกและต่อๆ มาอีกหลายปี
จะเห็นได้ว่าสถานที่นี้ต้องเป็นที่อยู่ของผู้นำสูงสุดของเกาหลีเท่านั้น แต่ตามประวัติศาสตร์แล้ว มันมีความขึด (คล้ายๆ กับอาถรรพ์) คือผู้นำอยู่อาศัยแล้วต้องมีอันเป็นไปต่างๆ นานา แม้จะเปลี่ยนชื่อจาก "คยองมูแด" เป็น "ชองวาแด" เพื่อลบความทรงจำอันเลวร้ายเกี่ยวกับญี่ปุ่นออกไปก็ตาม แต่ก็มีกระแสกังวลกับความเชื่อว่า "ไม่ควรจะให้ผู้นำประเทศไปอยู่ในที่พักต่อจากผู้ปกครองญี่ปุ่น" อาจเป็นกาลกิณีต่อบ้านเมือง จึงได้คิดสร้างทำเนียบใหม่ จึงเป็นที่มาของ "ชองวาแด" ทำเนียบหลังคาสีน้ำเงินในปัจจุบัน
(อ่านต่อฉบับหน้า)


