posttoday

Ishikawa น่าไปมาก 9

23 กุมภาพันธ์ 2561

การแช่น้ำแร่รอบเช้านี่มันทำให้เราสดชื่นและฟื้นจากความง่วงได้ผลชะงัดนัก ขอแค่อย่างเดียว ลุกจากเตียงแล้วลงมาที่บ่อออนเซนให้ได้เป็นพอ เช้านี้เรามีรายการไปเยี่ยมชมเมืองออนเซนที่อยู่ข้างเคียงอีกแห่งคือ Yamanaka Onsen เป็นเมืองเล็กๆ ที่ถูกจริตผมมาก ปกติเวลาไปออนเซนตามเมืองต่างๆ เราจะพบลักษณะของเมืองสองสามรูปแบบ เช่น เมืองที่มีบ่อน้ำพุหลักอยู่กลางเมืองแล้วค่อยๆ กระจายตัวออกเป็นรัศมี หรือเมืองที่มีสายน้ำไหลหรือถนนสายหลักผ่ากลางเมืองแล้วมีที่พักเรียงรายตลอดสองฝั่ง

การแช่น้ำแร่รอบเช้านี่มันทำให้เราสดชื่นและฟื้นจากความง่วงได้ผลชะงัดนัก ขอแค่อย่างเดียว ลุกจากเตียงแล้วลงมาที่บ่อออนเซนให้ได้เป็นพอ เช้านี้เรามีรายการไปเยี่ยมชมเมืองออนเซนที่อยู่ข้างเคียงอีกแห่งคือ Yamanaka Onsen เป็นเมืองเล็กๆ ที่ถูกจริตผมมาก ปกติเวลาไปออนเซนตามเมืองต่างๆ เราจะพบลักษณะของเมืองสองสามรูปแบบ เช่น เมืองที่มีบ่อน้ำพุหลักอยู่กลางเมืองแล้วค่อยๆ กระจายตัวออกเป็นรัศมี หรือเมืองที่มีสายน้ำไหลหรือถนนสายหลักผ่ากลางเมืองแล้วมีที่พักเรียงรายตลอดสองฝั่ง

แต่สำหรับที่ยามะนากะออนเซนนี้ มีลักษณะแปลกกว่าที่อื่นตรงที่มีสายน้ำผ่านเมือง แต่ตัวเมืองเรียงรายอยู่เพียงฝั่งเดียวของสายน้ำ และมีถนนสายหลักผ่าตัวเมืองออกเป็นสองข้าง อีกทั้งถนนก็เป็นเส้นตรงและไม่ยาวจนเกินไป มีบ่อออนเซนสาธารณะอยู่หัวถนน มีที่พักทั้งแบบริมน้ำหรือริมถนนให้เลือก ตลอดถนนมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของของที่ระลึก อยู่กันคึกคัก ที่สำคัญคือแทบไม่เห็นคนต่างชาติเลย มีลานจอดรถทั้งที่หัวและท้ายถนน สะดวกมากสำหรับท่านที่ขับรถมาเองหรือมากับรถทัวร์ เพียงแค่ขับผ่านตัวเมืองมายังลานจอดรถท้ายถนน ผมก็หลงเสน่ห์ของเมืองออนเซนแห่งนี้เสียแล้ว เพราะเป็นการผสมประสานระหว่างอาคารดั้งเดิมและอาคารที่ปรับปรุงใหม่ บรรยากาศจะออกแนวๆ เรโทร ให้ความรู้สึกผ่อนคลายไม่เคร่งครัดเหมือนเมืองเก่าหลายแห่งในญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ของเมืองพร้อมไกด์อาสามารอเราอยู่ที่ลานจอดแล้ว หลังจากแนะนำตัวกันเรียบร้อย คุณไกด์อาสาก็เริ่มพาเราเดินชมเมือง

จุดแรกที่ไปคือสะพาน Korogi ที่ โด่งดัง ระหว่างทางมีหินแกะสลักก้อนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับกวีท่านหนึ่ง คุณไกด์อธิบายว่าที่นี่โด่งดังเพราะกวีผู้มีชื่อเสียงในยุคเอโดะ คุณ Matsuo Basho ได้เดินทางมาพำนักที่เมืองนี้เป็นระยะเวลาหนึ่ง และให้คำวิจารณ์ว่าเป็น 1 ใน 3 เมืองออนเซนที่ดีที่สุดร่วมกับ Kusatsu และ Arima คุณบะโชเป็นกวีที่เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วญี่ปุ่น ชอบตรงไหนก็แต่งไฮกุชื่นชมไว้ คิดๆ ไปก็เหมือนบรรดาบล็อกเกอร์ในปัจจุบันที่รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จัก จะต่างกันก็ตรงที่คุณบะโชนั้นได้รับแรงบันดาลใจที่แท้จริงและไม่ได้รับค่ารีวิวสถานที่ งานของคุณบะโชจึงยังคงเป็นที่ยอมรับของคนญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ท่านจะลาโลกไป 300 กว่าปีแล้วก็ตาม

เหตุผลหลักของการมายังสะพาน Korogi ก็คือ มายืนชมโตรกเขา Kakusenkei ที่งดงาม โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่โด่งดังจากการรีวิวของคุณบะโช องค์ประกอบของสะพาน โตรกเขา และสายน้ำด้านล่าง มันเกื้อกูลกันอย่างลงตัวโดยไม่มีการปรุงแต่ง ยอมรับว่าสายตาของคุณ บะโชนั้นสุดยอดจริงๆ มุมนี้ตำแหน่งนี้มันคือดีที่สุดแล้วครับ คุณไกด์อาสาชี้ให้ดูอีกฝั่งของสายน้ำที่ไม่มีที่พักตั้งอยู่ อันเป็นจุดแตกต่างจากที่อื่น พร้อมอธิบายว่าสมัยก่อนอีกฝั่งของสายน้ำเชื่อมต่อกับเขตแดนของแคว้น Echizen หรือจังหวัด Fukui ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นพรมแดนที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงของแคว้น จึงมีผู้คนอาศัยอยู่ไม่มากนัก ในขณะที่คางะออนเซนนั้นเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ยุคก่อน เอโดะ จึงมีผู้คนอาศัยอยู่มากกว่า ยิ่งพอถึงยุคเอโดะ ท่านเจ้าแคว้นมาเอดะหันมาทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เฟื่องฟูด้วยศิลปวัฒนธรรม บวกกับการรีวิวของท่านบะโช นักเดินทางจึงต่างพากันมาเที่ยวชมบ้านเมืองของแคว้นคางะ ทำให้คางะออนเซนเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่เลื่องชื่อมาหลายร้อยปี ด้านล่างริมธารมีทางน้อยสำหรับเดินเลียบเลาะสายน้ำความยาวราวกิโลครึ่ง สมมติเรามาพักเมืองนี้แล้วอยากเดินเล่น ก็สามารถเดินชมเมืองจากหัวถนนมายังปลายถนนตรงสะพาน Korogi แล้วลงเดินชมวิวเลาะลำธารย้อนกลับไปขึ้นที่อีกสะพาน ซึ่งแตกต่างจากสะพานแรกอย่างสิ้นเชิง สะพานโคโรงิเป็นสะพานไม้แบบดั้งเดิม แต่สะพาน Ayatori ที่ต้นทางเป็นสะพานโลหะทำจากเหล็กรูปตัว H ถ้ามองจากด้านบน (Top View) จะมองเห็นเป็นรูปตัว S อันเป็นลักษณะของมังกรทะยานฟ้าแอบแฝงอยู่ แต่ถ้ามองจากด้านหน้า (Front View) จะเห็นเป็นรูปเชือกถัก อันเป็นที่มาของชื่อ Ayatori หรือการถักเชือกเป็นรูปร่างต่างๆ ด้วยสองมือ (Cat's Cradle) สะพานแห่งนี้มีชื่อเสียงไม่แพ้สะพานโคโรงิ เพราะออกแบบโดยคุณ Hiroshi Teshigahara ผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเอเชียคนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง Woman in the Dunes ในปี ค.ศ. 1964 และที่ โดดเด่นมากยิ่งขึ้นคือสะพานเป็นสีชมพูครับ มันเลยลดความแข็งกร้าวของโครงสร้างเหล็กไปได้อย่างสิ้นเชิง ดูเหมือนงานศิลปะมากกว่า ยิ่งตั้งอยู่ท่ามกลางโตรกผาแบบนี้ ยิ่งโดดเด่นแต่ไม่ขัดตา คงเพราะได้รับอิทธิพลจากศิลปะการจัดดอกไม้ (Ikebana) ซึ่งคุณพ่อของคุณฮิโรชิที่เป็นทั้ง Grand Master และผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนจัดดอกไม้ Sogetsu-ryu ที่เสนอแนวทางใหม่ในการจัดดอกไม้จนโด่งดัง เลยไปอีกหน่อยก็ยังมีสะพาน Kurotani อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากทางเข้าเมือง เป็นสะพานหินที่สร้างขึ้นในสมัยไทโช มีกระท่อมจำลองในช่วงที่คุณบะโชเคยมาพำนักเมื่อ 300 กว่าปีก่อนให้ไปเยี่ยมชม แต่ด้วยเวลาจำกัด เจ้าภาพจึงไม่ได้พาไปในรอบนี้

จากสะพานเชือกถักเราขับรถมาจอดตรงจัตุรัสหัวถนน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงอาบน้ำสาธารณะ Kiku no yu ความออริจิ้นอย่างหนึ่งของเมืองออนเซนดั้งเดิมก็คือ Public Bath ที่คนไทยอาจเข้าไม่ถึงอารมณ์แบบนี้ แต่สำหรับคนญี่ปุ่นมันคือกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ เมืองออนเซนเก่าแก่และชื่อดังมักจะมีโรงอาบน้ำสาธารณะเสมอ อาทิ โดโกะออนเซน จังหวัดเอฮิเมะ คิโนซากิออนเซน จังหวัดเฮียวโกะ ทาเคโอะออนเซน จังหวัดซากะ การได้ไปลองแช่น้ำแร่ในสถานที่แบบนั้นมันให้ความรู้สึกพิเศษกว่าการแช่ในบ่อของโรงแรม เพราะทั้งบรรยากาศและเรื่องราวต่างๆ มันพาให้เราย้อนเวลากลับสู่อดีตอันรุ่งโรจน์ของเมืองนั้น นอกจากโรงอาบน้ำที่แยกชายหญิงคนละหลังแล้ว ข้างๆ กันยังมีโรงละคร Yamanaka-za ที่ใช้แสดงมหรสพต่างๆ โดยเฉพาะ Yamanaka-bushi การขับร้องเพลงพื้นเมืองที่ได้รับอิทธิพลจากฮอกไกโด ผ่านมาทางพ่อค้าที่จอดแวะท่าเรือใกล้ๆ ใครมาเมืองนี้ช่วงสุดสัปดาห์ถึงมีโอกาสจะได้ชม ตัวโรงละครก็น่าสนใจ โดยเฉพาะตัวที่นั่งที่สามารถดันเก็บไปไว้ด้านหลังทำเป็นพื้นที่ โล่งก็ได้ หรือดึงออกมาเป็นที่นั่งมีสโลปแบบโรงหนังก็ได้ สารพัดการใช้งานดีจริงๆ n

ข่าวล่าสุด

เจาะรายละเอียด อย.ปลดล็อก ยา ‘ATMP’ ตามความเสี่ยง 3 ระดับ!