posttoday

สุวิชญ โรจนวานิช ขอเป็นข้าราชการเพื่อแผ่นดิน

18 กุมภาพันธ์ 2561

แรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ สุวิชญ โรจนวานิช

โดย เกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง

แรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ สุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มาเป็นข้าราชการ ส่วนหนึ่งมาจากการเดินตามรอยเท้าคุณพ่อไพจิตร โรจนวานิช ที่รับราชการมาตลอดชีวิต เริ่มตั้งแต่เป็นข้าราชการกรมสรรพากรจนได้เป็นรองอธิบดีกรมสรรพากร ไปเป็นรองอธิบดีกรมศุลกากร กลับมาเป็นรองปลัดคลัง และไปเป็นอธิบดีกรมธนารักษ์ จนสุดท้ายไปเกษียณอายุราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต

สำหรับ สุวิชญ หลังจากจบโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ก็เรียนต่อคณะบัญชี ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบแล้วทำงานที่บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนจะบินไปเรียนปริญญาโทที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และก็มาทำงานที่บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IFCT) ไม่กี่เดือน และก็ถูก สศค.เรียกตัวมารับราชการ เป็นการเริ่มต้นชีวิตข้าราชการตามรอยชีวิตของคุณพ่อ

แม้ว่าจะเริ่มทำงานที่ สศค. แต่สุวิชญก็โยกไปทำงานสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จนเป็นผู้อำนวยการ สบน. ก็ได้ย้ายมาเป็นผู้อำนวยการ สศค. ในปีสุดท้ายก็เกษียณอายุราชการในปีนี้

สุวิชญ เล่าว่า “ผมถือว่าข้าราชการเป็นข้าของแผ่นดิน เป็นคนของพระมหากษัตริย์ ถึงได้เป็นข้าราชการ ดังนั้นแรงบันดาลใจที่ทำงานอยู่ทุกวันนี้ สมัยก่อนก็ทำงานถวายรัชกาลที่ 9 ทั้งหมด ปัจจุบันก็ทำทุกอย่างถวายรัชกาลที่ 10 ทั้งหมด ผลักดันงานทุกอย่างให้เป็นประโยชน์แก่แผ่นดิน ถือว่าทำสนองคุณแผ่นดินและสนองคุณของพระมหากษัตริย์ผู้เป็นองค์พระประมุขของชาติ”

อย่างไรก็ตาม สุวิชญ บอกว่า แนวคิดแรงบันดาลใจเป็นข้าราชการของเขาอาจจะดูเป็นนวนิยาย แต่เขาเชื่อว่าถ้าข้าราชการคิดอย่างนี้จำนวนมากๆ ก็จะมีแต่ข้าราชการที่ทำเพื่อแผ่นดินเพื่อสังคม ทำให้แม้ว่าข้าราชการจะเป็นคนตัวเล็กๆ แต่ถ้าทุกคนทำงานไปในทางเดียวกันก็จะเกิดประโยชน์กับแผ่นดินใหญ่หลวงได้

สุวิชญ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนในช่วงสมัยรัชกาลที่ 9 เวลาผมไม่มีแรงบันดาลใจหรือท้อถอยการทำงานราชการ ก็จะนึกถึงเนื้อเพลงพระราชนิพนธ์ “ความฝันอันสูงสุด” ซึ่งในเนื้อเพลงจะแบ่งเป็น 4 ขอ 4 จะ และ 4 ไม่ แต่ผมจะท่องเฉพาะ 4 ไม่ คือ ไม่ท้อถอยคอยสร้างสิ่งที่ควร ไม่เรรวนพะว้าพะวังคิดกังขา ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป

ซึ่งเนื้อเพลงทั้ง 4 ไม่นี้ จะเป็นแรงผลักดันให้ผมทำงานต่อไปได้อย่างประสบความสำเร็จ เพราะเราไม่ต้องกังวลอะไร มุ่งหน้าทำงานทำหน้าที่ข้าราชการของเราไป คือ ไม่ท้อถอยก็ทำต่อไป ไม่เคืองแค้นถ้าเกิดอะไรผิดพลาดก็ไม่ต้องไปโกรธใคร ลดความโทสะลงไปได้ ไม่น้อยใจในโชคชะตาเพื่อนข้าราชการเขาได้รับตำแหน่งสูงไปถึงไหน แต่เรายังอยู่ที่เดิมก็ไม่ต้องไปน้อยใจ และก็ไม่เสียดายเกิดอะไรขึ้นเราทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว

ซึ่งเนื้อเพลง “ความฝันอันสูงสุด” จึงเป็นแรงบันดาลใจของข้าราชการหลายคนรวมถึงผมด้วย เพราะไม่ว่าจะเป็นเนื้อเพลงท่อนไหนล้วนเป็นกำลังใจในการทำงานทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นช่วง 4 ขอ ได้แก่ ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ ขอสู้ศึกทุกเมื่อไม่หวั่นไหว ขอทนทุกข์รุกโรมโหมกายใจ ขอฝ่าฟันผองภัยด้วยใจทะนง

สุวิชญ โรจนวานิช ขอเป็นข้าราชการเพื่อแผ่นดิน

หรือจะเป็นท่อน 4 จะ ได้แก่ จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา ซึ่งเป็นแง่คิดในการทำงานที่ดีทั้งนั้น แต่ในส่วนของสุวิชญเลือกที่จะยึดเนื้อเพลงในช่วงท่อน 4 ไม่ เป็นแกนนำหลักในการทำงานของชีวิตข้าราชการอย่างมั่นคงมาตลอด

อย่างไรก็ตาม สุวิชญ ยอมรับว่า ข้าราชการเป็นหนึ่งอาชีพที่ค่อนข้างอยู่ในระดับล้าหลัง ไม่ได้เป็นอาชีพแนวหน้า เพราะผลตอบแทนต่ำ สภาพความเป็นอยู่ก็ธรรมดาๆ เมื่อเทียบกับเอกชนความหรูหราต่างกันมากต่างกันไกลทุกมิติ คนที่เป็นข้าราชการได้ต้องอยู่ด้วยใจ ไม่เช่นนั้นก็จะทนกับระบบไม่ได้ ข้าราชการต้องมีใจมุ่งมั่นเข้มแข็งอดทนว่าทำงานที่เกิดประโยชน์เพื่อแผ่นดินประเทศชาติ

ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาข้าราชการถูกภาคเอกชนซื้อตัวไปก็จำนวนมาก เพราะไม่อยากทนอยู่กับความอ่อนด้อย ความล้าหลัง แต่ข้าราชการของ สศค.ที่นี้ ก็พยายามทำให้เป็นข้าราชการแนวใหม่ มีแนวคิดใหม่ๆ ทำสิ่งใหม่ๆ ทำนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ เท่าที่สัมผัสกับข้าราชการหลายคนในองค์กรที่มีศักยภาพทั้งความรู้และฐานะ แต่เขาก็ยังอยู่ในระบบราชการ ซึ่งผมคิดว่าเขาก็มีแรงบันดาลใจของเขาที่ภูมิใจกับการเป็นข้าราชการ ทำผลงานให้เป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจมหภาค เป็นสิ่งผลักดันทำให้เขาภาคภูมิใจ

นอกจากนี้ สุวิชญ ยังบอกว่าแรงบันดาลใจในการเป็นข้าราชการแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น บางคนมารับราชการเพราะความกตัญญูพ่อแม่ ยอมมาเป็นข้าราชการได้เงินเดือนน้อย แต่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลให้พ่อแม่ในยามเจ็บป่วยให้หายได้ ก็เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมเพราะมีทั้งความกตัญญูและก็เสียสละทำงานเพื่อประเทศไปด้วย

ระหว่างการสัมภาษณ์สุวิชญอยู่นั้น บังเอิญมีข้าราชการลูกน้องเข้ามาปรึกษาเรื่องงาน ซึ่งสุวิชญก็ถือโอกาสสัมภาษณ์ช่วยผู้สื่อข่าวว่าคุณมีแรงบันดาลใจอะไรที่มาเป็นข้าราชการ ทั้งที่คุณไปเป็นคุณนายหรือทำงานที่ไหนก็ได้

คุณน้ำหวาน หรือ อมรรัตน์ จารุรัตน์ เศรษฐกรชำนาญการ สศค. ผู้ถูกหัวหน้าสัมภาษณ์ตอบอย่างมั่นใจไม่ต้องใช้เวลาในการคิดเลยว่า “แรงบันดาลใจที่น้ำหวานมาเป็นข้าราชการ เพราะเราไม่อยากทำกำไรให้ใคร เราต้องการทำกำไรให้ประเทศชาติ” ซึ่งคำตอบดังกล่าวทำให้ผู้อำนวยการ สศค.ยิ้มอย่างปลาบปลื้มกับลูกน้องข้าราชการรุ่นใหม่ไฟแรง มีความคิดเหตุผลที่สุดแสนจะกินใจ

ที่สำคัญเป็นการตอกย้ำให้สุวิชญชื่นหัวใจได้ว่า นอกจากเขาที่มีแรงบันดาลใจเป็นข้าราชการทำงานเพื่อแผ่นดินแล้ว ยังมีข้าราชการรุ่นใหม่ๆ ที่พร้อมจะเข้ามาสานต่อแรงบันดาลใจของสุวิชญ ในการเป็นข้าราชการที่ดีและทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติเจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ไบรท์ตัน พบ ซันเดอร์แลนด์ พรีเมียร์ลีก วันนี้ 20 ธ.ค.68