posttoday

ยี่กอฮง เทพเจ้าหวยแห่งสยามประเทศ

18 กุมภาพันธ์ 2561

วันที่ 5 มี.ค. 2561 เป็นวันครบรอบ 168 ปี วันอสัญกรรมของ รองหัวหมื่นพระอนุวัฒน์ราชนิยม

โดย ส.สต

วันที่ 5 มี.ค. 2561 เป็นวันครบรอบ 168 ปี วันอสัญกรรมของ รองหัวหมื่นพระอนุวัฒน์ราชนิยม (ฮง เตชะวณิช) ในการนี้ ศักดิ์ชัย เตชะวณิช ซึ่งเป็นเหลน และ สน.พลับพลาไชย เขต 1 ได้ประกาศจัดงานบำเพ็ญกุศล และเซ่นไหว้ขึ้นที่ชั้น 4 สน.พลับพลาไชย เขต 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งศาลของรองหัวหมื่นท่านนั้น

ยี่กอฮง ได้รับการขนานนามว่าเทพเจ้าหวยแห่งสยามประเทศ  เพราะนอกจากการเป็นเจ้าภาษี โรงต้มกลั่นสุรา  โรงบ่อนเบี้ย ยังเป็นรายแรกๆ ที่ตั้งโรงหวย ก.ข. ในเมืองหลวงอีกด้วย

15 มี.ค. 2458 มีพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 6 ให้มีการเลิกเล่นการพนัน โดยถือว่าการเล่นการพนันเป็นของต้องห้ามและเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย. 2459 โดยก่อนหน้านั้นมีการลดจำนวนโรงหวยและเบี้ยให้ลดน้อยลง ซึ่งการพนันกลุ่มที่ถูกยกเลิกนี้ รวมถึงอากรหวยจีน หรือหวย ก. ข. ด้วย

เมื่อการตั้งโรงหวยผิดกฎหมาย ยี่กอฮงหันไปประกอบอาชีพการค้าอย่างอื่น แต่ไม่ประสบความสำเร็จ แถมเป็นหนี้สินจนถึงถูกฟ้องล้มละลาย บ้านถูกยึดเป็นของหลวง แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้อยู่จนถึงอสัญกรรม (นี้คือคำตอบว่าทำไมบ้านของยี่กอฮง จึงเป็นที่ตั้งโรงพักกลาง)

ชื่อตามบรรดาศักดิ์ ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 คือ รองหัวหมื่นพระอนุวัฒน์ราชนิยม (ฮง เตชะวณิช) มีชื่อจีนว่า “ยี่กอฮง” หรือ “ตี้ยัง แซ่แต้” เกิดเมื่อวันอังคาร ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ปีจอ พ.ศ. 2392 แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเกิดในประเทศไทย หรือเดินทางมาจากประเทศจีน นอกจากเป็นพ่อค้ายังมีตำแหน่งเป็นนายอากรที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น และถึงอสัญกรรมเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2479 รวมอายุได้ 87 ปี

วิกิพีเดีย อ้างเรื่องสถานที่เกิดว่ามี 2 กระแส คือ 1.เกิดที่เมืองไทย โดยพ่อเป็นชาวจีน แม่เป็นชาวไทย เมื่ออายุ 7 ขวบ พ่อและแม่ถึงแก่กรรมทั้งคู่ ญาติฝ่ายพ่อจึงพากลับเมืองจีน จนกระทั่งอายุ 16 ปี จึงเดินทางมาประเทศไทย และไม่ได้กลับไปอีก

ส่วนกระแสที่ 2.เชื่อว่าเกิดในประเทศจีน โดยอ้างว่ายี่กอฮงเป็นชาวจีนแต้จิ๋ว ถือกำเนิดในมณฑลกวางตุ้ง ใน พ.ศ. 2394 เมื่ออายุ 16 ปี ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ 5 โดยตั้งปณิธานว่าจะประกอบอาชีพค้าขายในสยามตลอดชีวิต

สรุปว่าจะเกิดที่ไหนก็ตาม ที่พำนักและประกอบอาชีพค้าขายในสยามของยี่กอฮง คือ จ.เชียงใหม่ และได้เป็นลูกเขยของคหบดีย่านตลาดสันป่าข่อย

.เมื่ออายุได้ประมาณ 30 ปี ยี่กอฮงได้ล่องแพนำสินค้าลงมาค้าขายอยู่แถวบริเวณหน้าจวนของท่านเจ้าคุณโชฎึกราชเศรษฐี ที่อยู่บริเวณวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร เมื่อค้าขายได้ในระดับหนึ่ง ยี่กอฮงจึงตัดสินใจมาตั้งรกรากทำการค้าอยู่ที่พระนครโดยถาวร โดยเลือกทำเลปลูกตึกอยู่ตรงสถานีตำรวจพลับพลาไชยในปัจจุบัน และมีซอยอนุวัตรติดกับ สน.พลับพลาไชย เป็นที่ระลึกด้วย

ในสมัยโน้นยังไม่รู้จักคำว่า csr แต่ยี่กอฮง มีฐานะร่ำรวย เป็นเจ้าสัวได้บำเพ็ญ csr ครบถ้วน เช่น บริจาคทรัพย์สินและสร้างสาธารณประโยชน์ไว้อย่างมากมาย จึงเห็นชื่อถนนและสะพานมีชื่อเพื่อรำลึกถึง เช่น สะพานฮงอุทิศ สะพานนิยมนฤนาถ สะพานอนุวัฒนโรดม โรงเรียนวัดสะพานสูง (โรงเรียนโยธินบูรณะ) โรงเรียนป้วยเองหรือโรงเรียนเผยอิง (สร้าง) เมื่อ พ.ศ. 2463  ศาลเจ้าเก่าถนนทรงวาด ศาลเจ้าไต้ฮงกง ก่อสร้างท่าน้ำ ฮั่วเซี้ยม และได้ริเริ่มก่อตั้งโรงพยาบาลเทียนฟ้า  เป็นต้น

นอกจากนั้น ท่านเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งขึ้น โดยชักชวนพรรคพวกเพื่อนฝูงในสมัยนั้น มาร่วมกันสร้างมูลนิธิช่วยเหลือผู้ยากไร้ตกทุกข์ได้ยากและสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เด็กที่เรียนดีแต่ยากไร้ อีกทั้งยังเป็นผู้มีส่วนในการรณรงค์หาเงินเข้าสภากาชาดไทยอย่างมากมาย รวมถึงได้บริจาคเงิน 1 หมื่นบาท ในการก่อสร้างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยได้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์หมายเลข 9เจ้าสัวปัจจุบัน ทราบแล้วเปลี่ยน

เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2479 รองหัวหมื่นพระอนุวัตน์ราชนิยม ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในบ้านของท่าน สิริอายุรวม  87 ปี ศพของท่านได้นำกลับไปฝังที่สุสานในเมืองปังโคย ประเทศจีน

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี