อวสานทรราช (ยุคโบราณ)
ไชยันต์ ไชยพร ในช่วงศตวรรษที่เจ็ดและหกก่อนคริสตกาล ได้เกิดปรากฏการณ์การปกครองอย่างทรราชขึ้น โดยเริ่มต้นที่ Lydia และแพร่กระจายในรัฐกรีกต่างๆ อาทิ Corinth, Argos, Sicyon, Megara, Mytilene, Miletus, Athens และ Samos และยังเกิดขึ้นที่รัฐอื่นๆ อีก หากพิจารณาในภาพรวม จะพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว การเกิดการปกครองของทรราชในรัฐกรีกยุคโบราณถือเป็นปรากฏการณ์ที่โดดเด่น และทรราชยังไม่มีความหมายในแง่ลบ แต่มีภาพคล้ายเป็นอัศวินม้าขาวขึ้นมากอบกู้สถานการณ์ มวลชนตอบรับเป็นกองหนุนเต็มที่ รัฐกรีกจำนวนไม่น้อยได้เข้าสู่การปกครองของทรราช และเมื่อพิจารณาระยะเวลาหรืออายุขัยของการปกครองของทรราชในรัฐกรีกต่างๆ จะพบว่า ที่ยาวนานที่สุดคือที่ Sicyon มีอายุราว 100 ปี รองลงมาคือที่ Corinth 76 ปี Mytilene 70 ปี Miletus 60 ปี Samos 41 ปี Athens 36 ปี Lydia 33 ปี Argos 20 ปี Megara 13 ปี และเมื่อเปรียบเทียบกับการปกครองแบบกษัตริย์หรือแบบอภิชนาธิปไตยที่ดำรงอยู่ก่อนหน้าที่จะเกิดการปกครองอย่างทรราช กล่าวได้ว่า อายุขัยของการปกครองอย่างทรราชเหล่านี้ในภาพรวมมีอายุไม่ยืนยาวนัก
ไชยันต์ ไชยพร
ในช่วงศตวรรษที่เจ็ดและหกก่อนคริสตกาล ได้เกิดปรากฏการณ์การปกครองอย่างทรราชขึ้น โดยเริ่มต้นที่ Lydia และแพร่กระจายในรัฐกรีกต่างๆ อาทิ Corinth, Argos, Sicyon, Megara, Mytilene, Miletus, Athens และ Samos และยังเกิดขึ้นที่รัฐอื่นๆ อีก หากพิจารณาในภาพรวม จะพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว การเกิดการปกครองของทรราชในรัฐกรีกยุคโบราณถือเป็นปรากฏการณ์ที่โดดเด่น และทรราชยังไม่มีความหมายในแง่ลบ แต่มีภาพคล้ายเป็นอัศวินม้าขาวขึ้นมากอบกู้สถานการณ์ มวลชนตอบรับเป็นกองหนุนเต็มที่ รัฐกรีกจำนวนไม่น้อยได้เข้าสู่การปกครองของทรราช และเมื่อพิจารณาระยะเวลาหรืออายุขัยของการปกครองของทรราชในรัฐกรีกต่างๆ จะพบว่า ที่ยาวนานที่สุดคือที่ Sicyon มีอายุราว 100 ปี รองลงมาคือที่ Corinth 76 ปี Mytilene 70 ปี Miletus 60 ปี Samos 41 ปี Athens 36 ปี Lydia 33 ปี Argos 20 ปี Megara 13 ปี และเมื่อเปรียบเทียบกับการปกครองแบบกษัตริย์หรือแบบอภิชนาธิปไตยที่ดำรงอยู่ก่อนหน้าที่จะเกิดการปกครองอย่างทรราช กล่าวได้ว่า อายุขัยของการปกครองอย่างทรราชเหล่านี้ในภาพรวมมีอายุไม่ยืนยาวนัก
แต่ที่ยังอยู่ได้ยาวขนาดนั้น ก็เพราะในช่วงเวลานั้น การปกครองแบบประชาธิปไตยยังไม่อุบัติขึ้น เพราะหลังจากที่ประชาธิปไตยเกิดขึ้นที่เอเธนส์ในศตวรรษที่ 5 หากเกิดการปกครองของทรราชขึ้น ก็จะมีอายุ ไม่ยืนยาวได้ เพราะเอเธนส์ออกกฎหมายสนับสนุนให้ฆ่าทรราชได้ ไม่ผิด แถมจะได้รับการยกย่อง
หากพิจารณาถึงสาเหตุของการอวสานของการปกครองของทรราชกรีกในยุคโบราณ จะพบว่า มีสาเหตุสำคัญดังนี้ คือ หนึ่ง ผลจากการพ่ายแพ้สงคราม (Lydia, Sicyon) สอง ความขัดแย้งภายในรัฐ (Corinth, Argos, Megara, Miletus) สาม ทั้งจากความขัดแย้งภายในรัฐและการพ่ายแพ้สงคราม (Athens, Samos) และสี่ ทรราชลงจากอำนาจหลังจากสร้างความสงบและกฎกติกาที่เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย (Mytilene)
จากสาเหตุทั้งสี่ประการนี้ เราจะพบว่า สาเหตุที่หนึ่งเป็นสาเหตุปกติทั่วไป ด้วยการพ่ายแพ้สงครามไม่ว่าในยุคใดสมัยใดย่อมนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครอง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวผู้ปกครองหรือรูปแบบการปกครอง และที่สำคัญคือการเสียความเป็นอิสระหรือเอกราชทางการเมือง และในแง่นี้ หากรัฐกรีกโบราณที่ปกครองโดยทรราชพ่ายแพ้สงคราม ก็ย่อมต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางใดทางหนึ่งอย่างที่กล่าวไป
ส่วนสาเหตุที่สอง ก่อนอื่น เราต้องไม่ลืมว่า สาเหตุของการขึ้นสู่อำนาจและเกิดการปกครองของทรราชกรีกในยุคโบราณเกิดจากความไม่พอใจของผู้คนต่ออภิชนชนชั้นปกครองเดิม และการขึ้นสู่อำนาจของทรราชได้รับการสนับสนุนจากผู้คนเหล่านั้น ดังนั้น คำถามคือ ความขัดแย้งภายในรัฐที่ว่านี้มีสาเหตุจากอะไร? เพราะถ้าพิจารณาจากลักษณาของการปกครองของทรราชกรีกโบราณ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลงานความยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงการปกครองของทรราช จนอาจทำให้เส้นแบ่งระหว่าง "ทรราช" กับ "มหารัฐบุรุษ" พร่ามัว และถ้าการปกครองของทรราชก่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้าต่างๆ ดังที่กล่าว คำถามที่เกิดขึ้นคือ ทำไมการปกครองของทรราชจึงต้องถึงกาลอวสาน? โดยเฉพาะการอวสานที่เกิดจากปัจจัยภายในรัฐ
สาเหตุของความขัดแย้งภายในรัฐที่นำไปสู่การสิ้นสุดการปกครองของทรราช ปัจจัยทางเศรษฐกิจ-การเมือง มีคำอธิบายว่าปัญหาความขัดแย้งภายในรัฐ หนึ่งสาเหตุของการล่มสลายของการปกครองของทรราช คือ การสูญเสียฐานการสนับสนุนของมวลชนอันเนื่องมาจากปัญหาทางเศรษฐกิจ และจากปัญหาทางเศรษฐกิจนำไปสู่วิกฤตการเมือง ดังที่ทรราชแห่งเมือง Corinth ตกเป็นเหยื่อการกบฏของชาวเมือง ชาวเมืองรวมตัวกันและฆ่าทรราชหลังจากที่เขาอยู่ในอำนาจได้ไม่นาน และชาวเมืองก็ได้ปลดปล่อย Corinth จากการปกครองของทรราช มวลชน (Demos) ได้พังบ้านของเหล่าทรราช และยึดเอาเป็นสมบัติสาธารณะ โยนศพของทรราชออกจากเมืองโดย ไม่ได้ฝัง อีกทั้งได้ขุดหลุมศพของบรรพบุรุษของเขา และเอากระดูกไปทิ้งนอกเมือง
แต่นักวิชาการบางคนเห็นว่าคำอธิบายข้างต้นเป็นการตีความแบบสมัยใหม่ที่ไม่สามารถใช้ได้กับเศรษฐกิจยุคกรีกโบราณ เพราะคนกรีกโบราณอย่างเช่นในกรณีของรัฐ Corinth ไม่น่าจะมีความคาดหวังต่อทรราชในฐานะที่จะมาเป็นผู้เข้ามาแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจหรือคาดหวังให้ทรราชเข้ามาสร้างสรรค์เศรษฐกิจให้เจริญรุ่งเรืองเหมือนอย่างที่ผู้คนในยุคสมัยใหม่มักจะคาดหวังต่อรัฐบาลหรือผู้ปกครองของตน แต่เห็นว่าสาเหตุสำคัญน่าจะมาจากปัจจัยทางการเมืองมากกว่า โดยการล่มสลายของการปกครองทรราชใน Corinth เกิดจากการที่ทรราชไม่สามารถรักษาอำนาจให้มั่นคงไว้ได้ และไม่สามารถต้านทานความเสื่อมทางเศรษฐกิจในรัฐ Corinth ได้ เมื่อเกิดกระแสต่อต้านขึ้น เหล่าทรราชมีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรงและจุดกระแสให้เกิดความเกลียดชังต่อพวกเขามากขึ้น
นอกจากปัจจัยข้างต้นแล้ว ปัญหาสำคัญที่ทรราชจะต้องเผชิญก็คือ ปัญหาเรื่องความชอบธรรม อย่างที่เราทราบจากคำอธิบายการขึ้นสู่อำนาจและการสถาปนาการปกครองของทรราช ความชอบธรรมของทรราชในยุคกรีกโบราณมาจากการยอมรับของมวลชน ซึ่งความชอบธรรมทางการเมืองในลักษณะนี้แตกต่างจากความชอบธรรมทางการเมืองเดิมที่ดำรงอยู่มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่การปกครองโดยกษัตริย์ จนถึงการปกครองของพวกอภิชน ความชอบธรรมของผู้ปกครองของรัฐกรีกโบราณก่อนหน้าการปกครองของทรราชอิงอยู่กับชาติกำเนิดที่มีตำนานสัมพันธ์กับเทพเจ้าที่สืบสานกันมาอย่างยาวนาน แต่การขึ้นสู่อำนาจของทรราชและการเกิดการปกครองของทรราชได้ล้มระบบความชอบธรรมดังกล่าวนี้ ซึ่งส่งผลให้การปกครองแบบกษัตริย์และอภิชนาธิปไตยที่สืบสายโลหิตในรัฐกรีกโบราณต้องสิ้นสุดลง
ความชอบธรรมทางการเมืองของทรราชที่เกิดขึ้นใหม่อิงอยู่กับการยอมรับของมวลชนโดยไม่สัมพันธ์กับเทพเจ้าหรือความเชื่อในทางศาสนาใดๆ ขณะเดียวกัน ช่องทางในการแสดงออกของการยอมรับของมวลชนก็ยังไม่มีการจัดตั้งหรือสถาปนาขึ้นเป็นทางการ อย่างที่เกิดขึ้นในสภาประชาชนในการปกครองประชาธิปไตยที่เกิดขึ้นในนครรัฐกรีกในเวลาต่อมา เช่น กรณีของประชาธิปไตยเอเธนส์ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 5 ในช่วงแรกๆ ที่ทรราชขึ้นสู่อำนาจ ไม่มีปัญหาความชอบธรรมทางการเมือง เพราะมวลชนมีความไม่พอใจต่ออภิชนชนชั้นปกครองเดิม
แต่สรุปรวมความแล้วคือ การปกครองของทรราชไม่สามารถอยู่ได้นาน สาเหตุมาจากปัจจัยภายในตัวของมันเอง และที่สำคัญไม่สามารถมีช่องทางที่เป็นทางการในการกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า กองหนุนยังสนับสนุนอยู่เยอะแยะ หรือแม้แต่ปัจจุบัน หากจะวัดเสียงสนับสนุนจาก โซเชียลมีเดียก็ไม่สามารถกล่าวอ้างได้ ถึงแม้จะอ้างได้ แต่ถ้าในโลกโซเชียลเกิดมีภาพกระแสต้านมากกว่า ก็ยิ่งจะย่ำแย่ ดังนั้น หนทางเดียวที่จะวัดกระแสคือ การหย่อนบัตรตามกลไกประชาธิปไตยเท่านั้น n


