งานศพ : เรื่องของคนเป็นมากกว่าคนตาย
อานิกสิ่งที่คนตายอยากเห็นกับสิ่งที่คนเป็นต้องทำอาจจะต่างกัน วันนี้จะเล่าประสบการณ์ที่เพิ่งหลุดจากความยุ่งวุ่นวายของการจัดงานสวดศพคุณพ่อ ศ.ดร.อดุล วิเชียรเจริญ
อานิก
สิ่งที่คนตายอยากเห็นกับสิ่งที่คนเป็นต้องทำอาจจะต่างกัน วันนี้จะเล่าประสบการณ์ที่เพิ่งหลุดจากความยุ่งวุ่นวายของการจัดงานสวดศพคุณพ่อ ศ.ดร.อดุล วิเชียรเจริญ
ความจริงโรงพยาบาลและวัดก็ช่วยอำนวยความสะดวกอยู่แล้ว ทั้งเรื่องของพิธีการตามกฎหมายและพิธีกรรมตามประเพณีศาสนา (พุทธ) ทั้งที่เป็นทางการและส่วนที่เจ้าหน้าที่ให้บริการเชิงพาณิชย์ อาทิ ทำใบมรณบัตร แต่ในบางเรื่องก็พาณิชย์จัด กดดันให้เราซื้อโลงศพจากแค็ตตาล็อก โดยตอกย้ำว่าต้องรีบตัดสินใจเพราะเขาจะขึ้นมารับศพภายใน 2 ชั่วโมง ทั้งที่ยังไม่จำเป็น ในที่สุดเราหาโลงแบบเรียบง่ายให้พ่อสำเร็จ
งานที่ได้รับพระราชทานโกศในปัจจุบันคงไม่มีใครใช้เก็บศพจริง แต่จะวางโลงศพด้านหลังและนำเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของผู้ตายมาวางหน้าโกศ พ่อเป็นคนไม่ชอบไปงานศพหรืองานสังคมใดๆ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีแม่คอยเตือน พ่อคงไม่คาดหมายพิธีศพที่สมเกียรติลักษณะนี้ แต่หลังจากเราหาเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไม่พบ โดยเฉพาะทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษซึ่งบุตรเขยไม่มีให้ยืมวาง ได้มีเหตุการณ์เหลือเชื่อทำให้พบเครื่องราชอิสริยาภรณ์สำคัญทั้งหมดที่ดิฉันเล่าไว้ในเฟซบุ๊ก
มีวีธีการจัดงานบางอย่างซึ่งเราช่วยกันคิดขึ้นมาที่อยากแบ่งปันเผื่อเป็นประโยชน์กับงานอื่นต่อไป
เจ้าภาพงานใหญ่จะทำหนังสือ (หรือ CD) รำลึกถึงผู้ตาย ซึ่งอยากให้แขกและคนรู้จักของผู้ตายได้รับมากที่สุด แต่ในทางปฏิบัติมักแจกในงานเผาหรือเริ่มแจกในงานสวดคืนสุดท้ายซึ่งหลายคนไม่ได้มา งานคุณพ่อคราวนี้เราจึงขอชื่อที่อยู่แขกทุกท่านตั้งแต่วันแรก โดยเชิญเลือกวิธีที่ถนัด ตั้งแต่สแกน QR Code ไปกรอกส่งทาง Line กรอกการ์ดในงาน จนถึงรับไปรษณียบัตรไป
เนื่องจากแขกที่มาหลากหลายมาก เพราะพ่อทำงานหลายด้านจวบจนกึ่งทศวรรษที่ 7 ของชีวิต ตั้งแต่กระทรวงการต่างประเทศ งานสอนและบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้อำนวยการองค์การ SEAMES จนถึงงานกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมหลายๆ ด้าน กรรมการบริหารองค์การ UNESCO และกรรมการมรดกโลก เราจึงขอให้ผู้ลงทะเบียนขีดเลือกความเกี่ยวดองกับผู้ตายในงานต่างๆ และมีช่อง "อื่นๆ..." สำหรับคนที่มาร่วมเพราะรู้จักลูกๆ และเขย-สะใภ้ เพื่อจะได้ตามขอบคุณให้ครบถ้วน เนื่องจากแขกค่อนข้างมากการต้อนรับย่อมตกหล่นไปบ้าง
นอกจากการส่งหนังสือและการขอบคุณ เรายังจะได้รายงานผู้บริจาคว่าใช้เงินทำบุญอย่างไรด้วย
QR Code ที่ให้ Scan ซึ่งช่วยประหยัดกระดาษและลดโลกร้อนนั้น จะต้องตั้งวันกำหนดปิดโดยจะส่งข้อความเตือนก่อน แม้คนนิยมใช้ Lineกันมาก แต่แขกส่วนใหญ่เลือกจะกรอกการ์ดในงาน ซึ่งทำได้ทั้งที่โต๊ะหน้างาน กรอกระหว่างงาน หรือให้นามบัตรพร้อมแจ้งความเกี่ยวดอง
พูดถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Line จำต้องเตือนเจ้าภาพให้เตรียมเงินสดไว้จ่ายวัดทุกคืน เพราะหลายวัดคงยังไม่รับการโอนเงินด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
บริเวณโต๊ะลงทะเบียนเราจะมีกล่องรวมซองบริจาคแอบอิงอยู่ เป็น กล่องทึบสีขาววางต่ำๆ บนเก้าอี้ข้างโต๊ะด้านใน เพราะไม่ต้องการให้แขกรู้สึกว่าเราคาดหมายให้ร่วมทำบุญ
เพื่อป้องกันการตกหล่นรั่วไหล เราทำสติ๊กเกอร์ตัวเลขลำดับเพื่อแปะซองก่อนหยอดกล่อง ทั้งนี้ ช่องหยอดถูกซ่อนอยู่ใต้ป้าย QR Code นอกจากช่วยพรางกล่องแล้วยังกันไม่ให้คนหยอดก่อนติดสติ๊กเกอร์ด้วย แขกบางท่านเห็นโต๊ะลงทะเบียนก็จะถามหากล่องเอง
เนื่องจากศาลาใหญ่มีที่นั่ง 2 ฟาก แต่เพียงด้านเดียวมีโซฟาซึ่งคนส่วนใหญ่จะรู้ (แต่บางคนไม่รู้?) ว่าเป็นที่ซึ่งครอบครัวเชิญแขกผู้ใหญ่ ไปนั่ง วันแรกหลังงานพระราชทานสวดพระพิธีธรรม เรามีหลาย เจ้าภาพมาก แขกล้นจนต้องเรียกเก้าอี้มาเสริมที่จัดเพิ่มไว้แล้วหน้าศาลา เกิดปัญหาขาดที่นั่งสำหรับผู้ใหญ่บางท่าน วันท้ายๆ เราเลยทำป้าย ขนาดย่อมวางตรงจุด "ขอสงวนที่นั่งแถวหน้าสำหรับตัวแทนเจ้าภาพ ขอบพระคุณครับ" ทั้งนี้ งานที่จัดอย่างโก้ Organizer คงจะนำเข้าโซฟามาวางแต่แรก!
คืนวันที่ 7 เราตั้งใจจะทำพิธีบรรจุตามธรรมเนียม แต่ทางศาลาเข้าใจผิดไม่ได้เตรียมการ หลังรีรอสักอึดใจเราก็แจ้งแขกจบพิธีการ เป็นบทเรียนว่าต้องยืนยันเรื่องการบรรจุให้ชัดเจน
โชคดีที่พ่อไม่นิยมพิธีรีตองอยู่แล้ว แถมยังเคยพูดว่าอยากให้นำศพไปวางในป่าเป็นอาหารสัตว์! ฟังดูคล้ายแต่ไม่เหมือนศาสนาโบราณ Zoroastrian หรือการ "ฝังศพบนฟ้า" (Sky burial) ในนิกายพุทธวชิรญาณ พ่อคงคิดถึงการกลับสู่ธรรมชาติมากกว่าเพราะพ่อชอบป่าและชอบสัตว์ ทั้งนี้เราไม่เคยคุยกันจริงจัง เพราะดิฉันฟังทีไรก็สยองขวัญ จะเบี่ยงเบนไปคุยเรื่องอื่นเสมอ ในเมื่อพ่อเคยคิดแบบนี้การไม่มีพิธีบรรจุคงไม่เป็นไร
งานศพเป็นเรื่องของคนเป็นมากกว่าคนตาย นอกจากเป็นการรำลึกและให้เกียรติผู้ตายแล้ว ยังเป็นกระบวนการทำใจกับการพลัดพรากจากผู้ตาย และเป็นโอกาสเสริมสร้างความสัมพันธ์ทั้งในครอบครัวและกับมวลมิตรที่มาร่วมแสดงความเสียใจ
ดังนั้น ยิ่งจัดงานได้สมบูรณ์แบบเท่าใด ก็จะบรรลุวัตถุประสงค์ได้มากขึ้นเท่านั้น จะเพิ่มหรือลดความวุ่นวายก็แล้วแต่การบริหาร แม้บางอย่างจะขาดตกไปบ้างก็ไม่น่าเป็นไรหากผู้จัดตั้งใจทำดีที่สุดแล้ว n


