posttoday

สปป.ลาว-ไทย ยกระดับตลาดทุน

23 ธันวาคม 2560

หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ หนังสือพิมพ์เอ็มทูเอฟ ร่วมกับ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (เอพีเอ็ม) จัดสัมมนา CLMVT

หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ หนังสือพิมพ์เอ็มทูเอฟ ร่วมกับ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (เอพีเอ็ม) จัดสัมมนา CLMVT :ศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกแห่งอนาคต ในหัวข้อ "หลวงพระบางเมืองใหม่ : เจาะลึกเขตเศรษฐกิจพิเศษ พลังงาน ท่องเที่ยว" โดยผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชนของไทยและ สปป.ลาว

ยานี ศรีมีชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียงจันทน์ เปิดเผยว่า ในปี 2559 สินค้าส่งออก 3 อันดับแรกจากไทยไป สปป.ลาว ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ขณะที่สินค้าส่งออกจากไทยไป สปป. ลาว ที่ขยายตัวมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สินค้าปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว

ขณะที่สินค้า 3 อันดับแรกที่ไทยนำเข้าจาก สปป.ลาว ในปี 2559 ได้แก่ เชื้อเพลิง สินแร่โลหะ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ และเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ขณะที่สินค้านำเข้า 3 อันดับแรกที่ขยายตัวมากที่สุด ได้แก่ เชื้อเพลิง นำเข้าเพิ่มขึ้น 74.30% ผัก ผลไม้ และของปรุงแต่งที่ทำจาก ผัก ผลไม้ นำเข้าเพิ่มขึ้น 35.76% และผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน นำเข้าเพิ่มขึ้น 35.54%

นอกจากนี้ รัฐบาล สปป.ลาว มีนโยบาย กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ คือการสร้างเขื่อนไฟฟ้า เนื่องจาก สปป.ลาวส่งออกเชื้อเพลิงเป็นจำนวนมาก รวมทั้งนโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ อีกทั้งยังผลักดันการลงทุนในภาคส่วนกสิกรรม อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ภาคส่วนการศึกษา และโรงพยาบาล

ด้าน สีลิพร สุพันทอง หัวหน้าแผนกแผนการและการลงทุนประจำแขวงหลวงพระบาง เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เมืองเศรษฐกิจสำคัญของ สปป.ลาว นอกเหนือจากนครหลวงเวียงจันทน์ คือเมืองหลวงพระบาง โดยหลวงพระบางตั้งอยู่ทางภาคเหนือของ สปป.ลาว มีแม่น้ำโขงไหลผ่าน เหมาะกับการผลิตไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีการก่อสร้างเขื่อน 5 แห่ง โดยเขื่อน 3 ใน 5 มีหน้าที่ผลิตไฟฟ้า โดยสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าประมาณ 690 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ หลวงพระบาง มีมหาวิทยาลัย 1 แห่ง เป็นพื้นที่เหมาะสมในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ทั้งมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เช่น ด้านสาธารณสุข

จากความโดดเด่นของเมืองหลวงพระบาง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ทำให้ดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ แต่ถึงอย่างไรข้อควรระวังที่นักลงทุนต้องตระหนัก คือกฎระเบียบการลงทุน เนื่องจากหลวงพระบางเป็นเมืองมรดกโลก จึงมีข้อจำกัดที่แตกต่างจากพื้นที่อื่น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งภาครัฐมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน

วันคำ วอระวง ผู้อำนวยการใหญ่ตลาดหลักทรัพย์ลาว เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาวจำนวน 6 บริษัท ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการพัฒนาตลาดทุนให้ขยายตัวมากขึ้น โดยการมุ่งเน้นพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ลาวให้ทัดเทียมตลาดหลักทรัพย์สากล ขณะที่ผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ลาวมีทั้งนักลงทุนในประเทศและนักลงทุน ต่างประเทศ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศไทย

ขณะที่รัฐบาลลาวยินดีต้อนรับนักลงทุนจากประเทศไทย พร้อมส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน เนื่องจากเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง เสมือนบ้านพี่เมืองน้อง สำหรับบทบาท หน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ลาว คือการแนะนำผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ถึงการ เตรียมความพร้อม โดยการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ช่วยให้ผู้ประกอบการสร้างความมั่นคงให้กับบริษัทในแง่การระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจ

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ลาวได้สร้างความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฮานอยและตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ และตลาดหลักทรัพย์ในประเทศจีน และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น นอกจากนี้ แผนการพัฒนาตลาดทุนในปี 2561 ตลาดหลักทรัพย์ลาวจะมีผลิตภัณฑ์ซื้อขายพันธบัตรผ่านตลาดหลักทรัพย์ อีกทั้งตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้จดทะเบียนอีก 3-5 รายในปีหน้า

ข่าวล่าสุด

ยุคทอง YouTube Podcast เดือนเดียวยอดชมบนทีวีพุ่ง 700 ล้านชั่วโมง