ปัทมาพร นกหงษ์
เรื่อง พุสดี สิริวัชระเมตตา"คนเรามีได้หลายตัวตน ต่อให้วันนี้อยากกินส้มตำ พรุ่งนี้ก็อยากจะกินสเต๊ก" นี่คือการเปรียบเปรยอย่างเห็นภาพเพื่อเฉลยถึงตัวตนที่แท้จริงของ แอน-ปัทมาพร นกหงษ์ นักธุรกิจหญิงแกร่งแห่งภาคตะวันออก ทายาทของศูนย์การค้าแหลมทอง ระยอง ศูนย์การค้าแห่งแรกในภาคตะวันออก เปิดให้บริการมากว่า 20 ปี หลังจากเมื่อ 6 ปีก่อนเธอได้เริ่มต้นลงมือสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในระยองด้วยการปรับโฉมพร้อมรีแบรนด์ศูนย์การค้าแหลมทอง ระยองครั้งยิ่งใหญ่ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น "แพชชั่น ช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น" (Passione Shopping Destination) หวังดันเป็นช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่และครบวงจรที่สุดใน จ.ระยอง
เรื่อง พุสดี สิริวัชระเมตตา
"คนเรามีได้หลายตัวตน ต่อให้วันนี้อยากกินส้มตำ พรุ่งนี้ก็อยากจะกินสเต๊ก" นี่คือการเปรียบเปรยอย่างเห็นภาพเพื่อเฉลยถึงตัวตนที่แท้จริงของ แอน-ปัทมาพร นกหงษ์ นักธุรกิจหญิงแกร่งแห่งภาคตะวันออก ทายาทของศูนย์การค้าแหลมทอง ระยอง ศูนย์การค้าแห่งแรกในภาคตะวันออก เปิดให้บริการมากว่า 20 ปี หลังจากเมื่อ 6 ปีก่อนเธอได้เริ่มต้นลงมือสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในระยองด้วยการปรับโฉมพร้อมรีแบรนด์ศูนย์การค้าแหลมทอง ระยองครั้งยิ่งใหญ่ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น "แพชชั่น ช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น" (Passione Shopping Destination) หวังดันเป็นช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่และครบวงจรที่สุดใน จ.ระยอง
เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังเปลี่ยนพื้นที่ 5 ไร่ข้างๆ ศูนย์การค้าที่เคยเป็นเพียงลานจอดรถให้กลายเป็นที่ตั้งของโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ระยอง ซิตี้ เซ็นเตอร์ (Holiday Inn & Suites Rayong City Centre) โรงแรมระดับพรีเมียมโมเดลแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการให้เช่าพักแบบระยะยาว ส่วนหนึ่งเพื่อเสริมทัพธุรกิจศูนย์การค้า บริหารพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของภาคตะวันออก แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือ เป็นการเติมเต็มความฝันและแพชชั่นอันแรงกล้าที่อยากจะมีโรงแรมเป็นของตัวเอง
"ตั้งแต่คุณพ่อ (สมควร นกหงษ์) เริ่มต้นธุรกิจศูนย์การค้า แอนก็คลุกคลีกับธุรกิจนี้มาตลอด ทุกเย็นหลังเลิกเรียนแอนก็จะมาช่วยงาน ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็ไปช่วยขายของ ขายขนมเค้ก ขายเสื้อผ้าบูติก ทำทุกอย่าง เรียนรู้งานมาตั้งแต่เรียนอยู่ ป.4 จนเรียนจบคณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ก็เข้ามาช่วยงานเต็มตัว วันแรกที่เข้ามาแทบไม่ต้องไปเรียนรู้อะไรมากมาย เพราะซึมซับมาตลอด"
กระทั่งเมื่อ 6 ปีที่แล้วคุณพ่อตัดสินใจยกกิจการ ให้กับลูกๆ โดยลูกสาวคนเก่งได้รับศูนย์การค้าแหลมทอง ระยอง ไว้ในความดูแล เมื่อต้องเปลี่ยนบทบาทจากเบอร์ 2 มากุมบังเหียนธุรกิจทั้งหมด แอนยอมรับตามตรงว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทุกอย่างเหมือนเริ่มนับหนึ่งอีกครั้ง ต้องเปิดใจรับความรู้ใหม่หลายอย่าง
"ตอนที่คุณพ่อตัดสินใจมอบศูนย์การค้าให้แอนดูแล เป็นจังหวะเดียวกับที่มีศูนย์การค้าใหญ่ประกาศว่าจะมาสร้างที่ระยองทันที ถึงเราจะคลุกคลีกับธุรกิจมาตลอดแต่ยังไม่เคยต้องดูในภาพรวมของธุรกิจ เรารู้แต่ว่าเรามีทักษะด้านการขาย แต่ทักษะด้านอื่นๆ อย่างบัญชี การตลาด ก่อสร้าง เราแทบไม่มี ตอนนั้นบอกตัวเองแค่ว่าในเมื่อคุณพ่อยกห้างแหลมทองให้ดูแล เราต้องทำให้ดีที่สุด แอนเริ่มจากการพลิกโฉมห้างครั้งใหญ่ รีแบรนด์ให้มีความทันสมัยขึ้น เปลี่ยนชื่อเป็น แพชชั่นฯ สะท้อนถึงสิ่งที่เราทำและยังเล่นกับคำศัพท์ Passione ด้วยการเติม e เข้าไปอีกตัว เพื่อให้เหมือนมีคำว่า One สะท้อนถึงคำว่าเป็นที่หนึ่ง"
ในระหว่างที่กำลังลุยโปรเจกต์บิ๊กอยู่นั่นเอง ผู้บริหารหญิงแกร่งวิสัยทัศน์ไกลมองว่า ถ้าจะให้ธุรกิจห้างแข็งแกร่งเธอน่าจะแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เธอตัดสินใจหันมาจับธุรกิจโรงแรมซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแพชชั่นอยู่แล้ว โดยเลือกดึงเชนโรงแรมระดับโลกในเครืออินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป พีแอลซี (ไอเอชจี) เข้ามาบริหารโรงแรม
"เหตุผลที่แอนเลือกใช้เชนโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ฯ เพราะมองว่าเป็นโรงแรม 4 ดาวที่ดีที่สุด เหมาะกับโลเกชั่นและตลาดที่เรามี เพราะถึงแอนจะเคยช่วยคุณพ่อบริหารแหลมทองเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์มาบ้าง แต่ประสบการณ์ในธุรกิจนี้ยังน้อย ดังนั้นการใช้เชนที่มีประสบการณ์เข้ามาช่วยน่าจะทุ่มแรงได้มากกว่า เราไม่ต้องมาลงรายละเอียด นับหนึ่งถึงสิบใหม่หมด เพราะสำหรับแอนเงินไม่ใช่โจทย์สำคัญ แต่สิ่งสำคัญคืออยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า แอนมักพูดเล่นๆ อยู่เสมอว่า โรงแรมของเราราคา 4 ดาวก็จริง แต่คุณภาพทุกอย่างระดับ 5 ดาว" หญิงแกร่งบอกเล่าอย่างอารมณ์ดี
มาถึงระยองซึ่งเป็นเมืองตากอากาศทั้งที หลายคนอาจมองข้ามที่จะพักโรงแรมใจกลางเมือง แต่สำหรับผู้บริหารคนเก่งกลับคิดต่าง ถึงโลเกชั่นจะไม่ติดทะเลก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะมองเผื่อถึงกลุ่มลูกค้าที่มาติดต่อธุรกิจในเมือง รวมทั้งกลุ่มคอร์เปอเรตที่ทำงานตามนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งที่ผ่านมาในตัวเมืองระยองยังขาดโรงแรมที่เป็นอินเตอร์เนชั่นแนลเพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มนี้
"เราเล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจตรงนี้ แอนถึงตัดสินใจเสนอให้มีการพักระยะยาว ซึ่งเป็นโมเดลที่ทางไอเอชจียังไม่เคยเปิดตัวในไทยมาก่อน เราเป็นที่แรก ซึ่งแขกที่มาเยือนจะสัมผัสได้ว่าเราไม่เหมือนฮอลิเดย์ อินน์ที่อื่น ตั้งแต่สไตล์การตกแต่งที่ออกแนว โมเดิร์นคอนเท็มโพรารี ลักซ์ชัวรี่ มีกลิ่นอายของความเป็นเฟมินีน ไม่เน้นสีสันเหมือนฮอลิเดย์ทั่วไป แต่จะเน้นเรียบหรูด้วยการใช้โทนสีสว่าง ใช้หินอ่อนคู่กับสีโรสโกลด์ ซึ่งเป็นความตั้งใจของแอน"
จากวันแรกจนถึงวันนี้ ไม่ต้องถามก็พอจะจับความรู้สึกยามถ่ายทอดเรื่องราวของโรงแรมในฝันแห่งนี้ได้ว่า เจ้าของคนเก่งพอใจกับผลงานที่ออกมาแค่ไหน ถึงเจ้าตัวจะเอ่ยปากว่า ความฝันยังไม่ถึงปลายทาง ตราบที่ยังมีแรงก็ยังฝันจะพัฒนาศูนย์การค้าและโรงแรมซึ่งเป็น 2 ธุรกิจที่รักต่อไป
"พอทำโรงแรมเสร็จ เราก็มีฝันต่อไปอีก เราเป็นนักธุรกิจที่ไม่ได้ต้องเสพเงินก้อนใหญ่ แต่เสพความฝันไปเรื่อยๆ พอทำฝันนี้สำเร็จก็มีฝันที่อยากไปทำอีกเหมือนเป็นการท้าทายตัวเองไปเรื่อยๆ ถ้าจะให้แอนเลือกว่า ธุรกิจห้าง หรือโรงแรม อันไหนคือตัวตนของแอนมากกว่ากัน แอนตอบไม่ได้ แอนว่าคนเรามีได้หลายตัวตน บางอารมณ์ก็อยากสบายๆ แต่บางอารมณ์ก็รู้สึกว่าอยากกินข้าวหรู บางวันก็อยากกินส้มตำ สำหรับแอนได้หมด ไม่ได้ฝืนตัวเองว่าจะเป็นอะไร คงเหมือนกับวันหนึ่งอยากกินส้มตำ อีกวันอยากกินสเต๊ก (หัวเราะ)"
อย่างไรตาม ถึงจะหลงใหลในทั้งสองธุรกิจ แต่ผู้บริหารสาวเก่ง ยอมรับว่า ธุรกิจห้างกับโรงแรมมีความต่างกันสุดขั้ว
"เวลาบริหารห้างแอนบู๊ล้างผลาญมาก ไม่ใช่ดูผู้ดีเหมือนอย่างที่ทำโรงแรมเลยนะคะ (หัวเราะ) ลูกน้องจะรู้หมดว่าเราเป็นสายบู๊ เด็ดขาด เพราะธุรกิจห้างแข่งขันกันดุเดือด แข่งกันด้วยความรวดเร็ว ซื้อใจลูกค้า มันไม่นุ่มนวลเหมือนโรงแรม คนละวิถีกันเลย แต่ถ้าข้ามฟากมาโรงแรม ก็ต้องเปลี่ยนลุคให้ออกมาดูนุ่มนวลขึ้น นิ่งขึ้น เข้ากับโรงแรมซึ่งเป็นธุรกิจที่เน้นการบริการลูกค้า มีจีเอ็มที่เราเลือกเองกับมือให้มาขับเคลื่อนความฝันของเราเป็นผู้ดูแล ข้อดีคือ เราได้นำจุดแข็งและจุดอ่อนของทั้งสองธุรกิจมาเติมเต็มซึ่งกันและกัน"
แอนยอมรับว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ง่ายเลย เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบจริงๆ
"สิ่งที่แอนได้เรียนรู้จากคุณพ่อเลย คือ เลือดนักสู้ ไม่ยอมแพ้เลย ต่อให้วันนี้อาจจะล้มเหลว แต่ว่าแอนจะคิดหาทางฉีกออกไป มีทางออกไหนที่จะทำให้เราไม่แพ้แนวคิดนี้ทำให้เราสู้จนมาถึงวันนี้ ชีวิตแอนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ กว่าจะขึ้นมาได้ถึงทุกวันนี้แทบตายเหมือนกัน แอนสู้แบบผู้หญิงตัวคนเดียวที่มีลูกสาว 2 คน เรารู้อย่างเดียวว่าจะต้องทำทุกอย่างให้ลูกเรามีความสุขให้ได้"
แอนยังกล่าวทิ้งท้ายอย่างถ่อมตัวว่า จนถึงวันนี้ ยังไม่ได้มองว่าตัวเองเดินมาถึงเส้นชัยแล้ว แต่เรียกว่าที่มาถึงจุดที่พอใจ และมีความสุขเหลือเกิน n


