posttoday

ลองขับ "เอ็มจี แซดเอส" สมาร์ทเอสยูวีคันแรก

19 ธันวาคม 2560

"เอ็มจี แซดเอส" หนึ่งในคำตอบที่ลงตัวของคนที่มีงบประมาณจำกัดแต่ต้องการความอเนกประสงค์

โดย...ทีมข่าวยานยนต์โพสต์ทูเดย์

สัปดาห์นี้อยู่กับอีกความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีในรถยนต์สำหรับ “เอ็มจี แซดเอส” ที่บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ได้แนะนำลงสู่ตลาดในฐานะสมาร์ทคาร์ รุ่นแรกที่มาพร้อมระบบอัฉริยะ i-Smart สามารถรองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยเป็นครั้งแรกในโลก

แน่นอนว่าการสั่งงานด้วยเสียงจะมีความแตกต่างออกไปทั้งเพศและสำเนียง ดังนั้นเองเอ็มจีเลยนำเอาปัญญาประดิษฐ์​ (เอไอ) มาใช้เพื่อเก็บข้อมูลทุกครั้งที่มีการสั่งการผ่านวอยซ์เซ็นเซอร์ที่ถูกติดตั้งอยู่ในรถ จากนั้นจะส่งต่อด้วยสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปยังคลังข้อมูล (ดาต้าเบส) นำไปสู่การพัฒนาในอนาคต

ก่อนการใช้งานทุกครั้งต้องสั่งการด้วยคำว่า “ฮัลโหล เอ็มจี” เพื่อเข้าสู่หน้าจอรับคำสั่ง หรือจะกดปุ่มที่อยู่บนพวงมาลัยก็ได้เช่นกัน สำหรับคำสั่งที่สามารถใช้ได้ในรถยนต์คันนี้ ได้แก่ เปิด-ปิด ซันรูฟ เปิดกระจกฝั่งคนขับ หนาว-ร้อนจังเลย พัดลมแอร์ เป็นต้น

นอกจากนั้น รถยนต์คันนี้ยังสามารถสั่งการได้ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ซึ่งสามารถสั่งให้เปิดระบบปรับอากาศ เพื่อให้เมื่อเราไปถึงรถแล้วจะได้เย็นทันใจ พร้อมกันนี้ยังสามารถแสดงสถานะข้อมูลของตัวรถ อาทิ ระยะทางที่สามารถขับเคลื่อนได้ของน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลือในตัวรถ และความผิดปกติของเครื่องยนต์ แบตเตอรี่ รวมถึงสามารถค้นหาตำแหน่งของตัวรถได้ผ่านจีพีเอส อีกทั้งยังกำหนดให้มีการแจ้งเตือนเมื่อรถยนต์ออกนอกรัศมีที่ตั้งไว้เพื่อความปลอดภัย

สำหรับการออกแบบของตัวรถคันนี้ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ (เอสยูวี) ขนาดเล็ก ให้อารมณ์ความรู้สึกหรูหราและภาคภูมิใจ ไม่น้อยหน้าใครเมื่อเทียบกับรถยนต์ในระดับเดียวกัน โดยความโดดเด่นที่แตกต่างคือ ที่เปิดประตูท้ายซ่อนไว้ที่โลโก้ หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา ที่มีความใหญ่ขนาด 90% ของพื้นที่หลังคาทั้งหมด

 

ลองขับ "เอ็มจี แซดเอส" สมาร์ทเอสยูวีคันแรก

ด้านเส้นสายรายละเอียดมีความโฉบเฉี่ยวดูดี มีความสปอร์ต อีกทั้งราวหลังคาและสปอยเลอร์หลังที่มีมาให้ยังได้ความลงตัวแบบสำเร็จรูป รวมถึงระบบควบคุมไฟฟ้าหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ และไฟท้ายแบบแอลอีดี และไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลต์ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารออกแบบตกแต่งด้วยสีแบบทูโทน ใช้วัสดุแบบผิวสัมผัสนุ่ม เสริมความหรูหราและสปอร์ต โดยไฮไลต์อยู่ที่ช่องแอร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบสไตล์เจ็ตเทอร์ไบน์ รวมถึงระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วเชื่อมต่อบลูทูธและยูเอสบี ลำโพง 6 ตัว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง คนนั่ง 4 ทิศทาง

สิ่งที่ชอบในรถยนต์คันนี้คือ มีช่องใส่อุปกรณ์ของจุกจิกเยอะและใหญ่ กระทั่งสามารถใส่น้ำเปล่าขนาด 1.5 ลิตรได้ และมีช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์

ขุมพลังเครื่องยนต์ของรถยนต์คันนี้ มาพร้อมด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลัง (เกียร์) อัตโนมัติ 4 สปีด

ช่วงล่างด้านหน้าอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลังทอร์ชั่นบีม รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร พร้อมพวงมาลัยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า และโหมดการปรับน้ำหนักพวงมาลัย 3 ระดับ

ความรู้สึกที่ได้หลัง “โพสต์ทูเดย์” มีโอกาสร่วมสัมผัสเจ้าเอ็มจี แซดเอส ในรุ่นท็อปสุด ต้องบอกเลยว่าวัสดุภายในและการออกแบบภายนอกดูดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าของเอ็มจีทั้งหลาย และที่สำคัญระบบ i-Smart ที่ใส่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกได้มากขึ้นจริง ถึงแม้วันนี้จะยังดูต้องสั่งซ้ำๆ หลายครั้งกว่าจะเริ่มทำงานของระบบคำสั่งเสียงก็ตาม แต่การเรียนรู้ด้วยระบบเอไอหลังจากนี้อาจจะเริ่มดีขึ้นตามลำดับ

ขณะที่การตอบสนองของการขับขี่ถือได้ว่าทำได้ดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่ข้อสังเกตคือ เกียร์อัตโนมัติ 4 เกียร์ ที่อาจเป็นเหตุผลของความประหยัดเชื้อเพลิงที่อาจได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

โดยรวมถือว่าคนที่มีงบประมาณจำกัดแต่ต้องการความอเนกประสงค์เป็นคำตอบที่ลงตัวมาก ถึงแม้รุ่นล่างสุดจะไม่มี i-Smart ก็ตาม เพราะราคาของเอ็มจี แซดเอส อยู่ที่ 6.79-7.89 แสนบาท น่าจะดึงความสนใจจากผู้ที่ต้องการความอเนกประสงค์ในงบประมาณที่จำกัดด้วยความคุ้มค่าและเทคโนโลยี

ข่าวล่าสุด

นายกฯ ลั่นยึดพื้นที่คืนแล้ว ปัดใช้คนกลาง สั่ง กต.แจงอาเซียน