คอนโดวินเทจ สไตล์ตามใจฉัน

เรื่อง ภาดนุภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

จุ๋ม-อรสา โตสว่าง เวิร์กกิ้งวูแมนแถวหน้าของเมืองไทย ตำแหน่ง Market Intelligence Director บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ และสามี แซม-สัมพันธ์ โตสว่าง ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง บริษัท โน่นนี่นั่น ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับการจองทัวร์ออนไลน์ ให้เกียรติเปิดคอนโดใจกลางเมืองต้อนรับเราอย่างอบอุ่น

"ดิฉันซื้อคอนโดแห่งนี้มาได้ 13 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้จะอยู่ที่บ้านคุณแม่สามีในซอยสุขุมวิท 26 แต่วันหนึ่งก็คิดขึ้นมาว่า อยากมีคอนโดของตัวเอง ก็เลยมาดู และตัดสินใจซื้อห้องที่คอนโด แกรนด์ วิลล์ เฮาส์ ในซอยสุขุมวิท 24 ซึ่งมีเนื้อที่ 185 ตร.ม. ข้อดีก็คือ อยู่ใกล้บ้านคุณแม่สามีด้วย ทำให้ไปมาหาสู่กันได้ง่าย ตอนที่ซื้อราคาอยู่ที่ 8 หลักได้ เรียกว่าต้องกัดฟัน ซื้อเชียวล่ะ

ช่วงที่ย้ายเข้ามาใหม่ๆ เรารื้อทุกอย่างออกหมดเลย เก็บไว้แต่พื้นไม้ปาร์เกต์ เพราะรู้สึกว่ามันสวยดี พูดง่ายๆ ว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราตกแต่งไปแล้ว 10 กว่ารอบ (หัวเราะ) เพราะงานที่เราทั้งคู่ทำคือต้องเดินทางบ่อยๆ แล้วการได้ไปเห็นอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลาก็เป็นแรงบันดาลใจให้อยากแต่งห้องใหม่ทุกที อย่างล่าสุดที่ตกแต่งห้อง ถ้าให้พูดจริงๆ ก็ไม่มีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนนะ จะแต่งตามที่ตัวเองชอบซะมากกว่า โดยนำของเก่าจากสถานที่ต่างๆ ที่เราซื้อมาผสมผสานกัน เช่น โคมไฟจากยุโรป กระดานหมากรุกจากตุรกี เชิงเทียนจากปราก ม้าไม้จากอินเดีย และกลองจากทิเบต เป็นต้น ซึ่งของตกแต่งห้องส่วนใหญ่จะเป็นแนวของเก่า จึงแน่ใจได้เลยว่าไม่เหมือนใครแน่นอน"

จุ๋ม บอกว่า ของตกแต่งห้องทุกชิ้นได้มาจาก ทั่วทุกมุมโลกที่มีโอกาสได้เดินทางไป ดังนั้นสไตล์ การตกแต่งคอนโดของเธอกับสามีจึงเป็นแนววินเทจแบบผสมผสาน หรือจะเรียกว่าสไตล์วินเทจตามใจ ฉันก็ว่าได้

"ถ้าเราสองคนชอบสิ่งไหนก็จะซื้อมาตกแต่งผสมผสานกันซะมากกว่า เพราะดิฉันว่าทุกอย่างในโลกนี้มันไม่เพอร์เฟ็กต์ไปซะหมดหรอก เราแค่นำสิ่งที่เราชอบมาจัดวางด้วยกันให้มันดูแตกต่าง แต่ได้ความลงตัว แค่นี้ก็ทำให้ห้องของเราดูยูนีกและไม่เหมือนใครขึ้นมาได้แล้ว

อย่างเพื่อนหลายคนที่ได้มาเห็นผนังห้องรับแขก ส่วนใหญ่จะถามว่า ทำไมถึงต้องใช้วอลเปเปอร์เป็นลายดอกขนาดนี้ ที่มาก็คือดิฉันซื้อภาพวาดแมวใส่ชุดประจำ จ.ภูเก็ต มาเพราะรู้สึกชอบ แล้วตัวดิฉันเองก็เป็นชาวภูเก็ตด้วย ก็เลยจัดมาซะ เลยทำให้สีของวอลเปเปอร์ก็ต้องเป็นลวดลายสีฟ้าๆ เพื่อให้ล้อไปกับรูปแมวด้วย (หัวเราะ) โซฟาก็เลือกใช้โซฟาที่ทำจากผ้า ให้มันดูเก่าๆ เข้ากันไป เรียกว่าทุกห้องในคอนโดนี้จะดูแตกต่างกันหมดเลยละ"

จุ๋ม ทิ้งท้ายว่า ถ้าถามถึงมุมโปรด สำหรับสามี เธอแล้วจะเป็นห้องฟังเพลงของเขา ส่วนตัวเธอบอก ได้เลยว่าชอบทุกมุม แต่ห้องที่เธอใช้เวลามากที่สุดจะเป็นห้องนอน สำหรับห้องกินข้าวทั้งสองคนไม่ค่อยได้ ใช้นัก เพราะเสาร์-อาทิตย์ทั้งคู่มักจะชอบไปหาร้าน อาหารอร่อยๆ กินนอกบ้าน และต่อด้วยร้านกาแฟเก๋ๆ ซะมากกว่า

"นิยามของคำว่าบ้านในความรู้สึกดิฉันก็คือ สถานที่พักพิงที่ดิฉันกับสามีได้อยู่ด้วยกัน จะตกแต่ง สไตล์ไหนก็ได้ แต่ขอให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราทั้งคู่และทำให้เรามีความสุขได้ก็พอ ถ้าเพื่อนมาบ้านแล้วติว่า ไม่สวย บ้านรก บ้านมืดเกินไป เราก็ไม่สนใจ ถ้ามาแล้วไม่แฮปปี้ บ่นนู่นนี่นั่น เชิญกลับเลยค่ะ (หัวเราะ) เอาเป็นว่าบ้านคือสถานที่ที่เราอยู่แล้วทำให้เรามีความสุขกายสุขใจก็พอ จะตกแต่งแบบไหนไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือความสุขที่เราทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันมากกว่า"