posttoday

นักสร้างสรรค์นวัตกรรมวัยใส กุลณัฏฐ์ โตวิกกัย + จ้าวไหม ตั้งศิริพัฒน์

25 พฤศจิกายน 2560

เห็นสาวน้อยวัยใสนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ด.ญ.กุลณัฏฐ์ โตวิกกัย (น้องชิลลิ่ง) และ ด.ญ.จ้าวไหม ตั้งศิริพัฒน์

โดย วรธาร 

 เห็นสาวน้อยวัยใสนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ด.ญ.กุลณัฏฐ์ โตวิกกัย (น้องชิลลิ่ง) และ ด.ญ.จ้าวไหม ตั้งศิริพัฒน์ ได้รับเชิญขึ้นเป็นสปีกเกอร์นำเสนอผลงานการประดิษฐ์แปรงลบกระดานไร้ฝุ่นและกระเป๋าปฐมพยาบาลอัจฉริยะ ในงาน TEDxChulalongkornU ปีที่ 3

 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด Strive Forward : The World is Changing, Are You? โดยเหล่าคณาจารย์และนิสิตจิตอาสาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ สยามสแควร์วันนั้น สร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังทั่วทั้งโรงละคร

 ทั้งคู่ขึ้นเวทีมาพร้อมผลงานประดิษฐ์ทั้งสองชิ้น นำเสนอข้อมูลสองผลงานต่อหน้าผู้ชมเต็มโรงละคร ด้วยทั้งลีลา น้ำเสียง จังหวะจะโคน ที่ชวนฟังและน่าติดตามได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมสนั่นทั้งโรงละคร

 แน่นอน ทั้งสองเป็นเพื่อนกัน เรียนโรงเรียนเดียวกัน ชั้นเดียวกันแต่คนละห้อง และอยู่ทีมเดียวกันในการประดิษฐ์กระเป๋าปฐมพยาบาลอัจฉริยะ

 ก่อนพูดถึงความสัมพันธ์ของสองนักประดิษฐ์วัยใส อยากให้ไปรู้จักกับผลงานสิ่งประดิษฐ์ทั้งสองชิ้นนี้ ที่กล้าการันตีได้เลยว่าของเขาดีจริงและไม่ธรรมดา ทั้งคุณภาพการออกแบบและการใช้งาน

 ไม่อย่างนั้นคงไม่ไปคว้ารางวัลเหรียญทองในงานประกวดนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์นานาชาติ ณ กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ และเหรียญเงินที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้แน่ๆ

 ที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้คือทีมประดิษฐ์ผลงานดังกล่าว โดยเฉพาะในส่วนของกระเป๋าปฐมพยาบาลอัจฉริยะนั้น ไม่ใช่มีแค่เธอสองคนเท่านั้น แต่ยังมีเพื่อนในทีมอีกสองคนร่วมกันสร้างสรรค์ด้วยกันก็คือ ด.ญ.สุพิชญาณ์ เหมรัญช์โรจน์ และ ด.ช.กร เหมรัญช์โรจน์ ซึ่งเป็นพี่น้องกันและเก่งกาจทั้งคู่ คนพี่อยู่ ม.1 คนน้องอยู่ ป.6       

 ชิลลิ่ง และ จ้าวไหม ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกระเป๋าปฐมพยาบาลอัจฉริยะว่า ได้รับการออกแบบทั้งหมด 3 ส่วนคือ ส่วนของกระเป๋า เปลสนาม และรถเข็น

 เริ่มจากกระเป๋าพวกเธอและเพื่อนอีกสองคนได้ออกแบบพิเศษ มีการจัดอุปกรณ์ในการปฐมพยาบาลอย่างเป็นระบบ ใช้งานได้ง่าย มีทั้งส่วนที่ใช้ในการปฐมพยาบาลแผลสด แผลฟกช้ำ ยาสามัญประจำบ้าน

 นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น อุปกรณ์วัดสัญญาณชีพจร ความดันโลหิต ออกซิเจนในเลือด ตู้เย็นขนาดพกพาสำหรับแช่เจลเย็น หรือยาที่ต้องแช่เย็นและเครื่องฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทำแผลด้วยแสงยูวี เพื่อให้มั่นใจว่าสะอาด ปลอดเชื้อ

นักสร้างสรรค์นวัตกรรมวัยใส กุลณัฏฐ์ โตวิกกัย + จ้าวไหม ตั้งศิริพัฒน์

 ขณะที่วิธีปฐมพยาบาลก็อย่างง่าย เพราะมีรูปภาพให้ดูเพื่อให้ผู้ที่ไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์สามารถทำการปฐมพยาบาลได้ ไฟฟ้าที่ใช้ก็สามารถชาร์จไฟบ้านหรือจากโซลาร์เซลล์ก็ได้ สะดวกแก่การนำไปใช้งานภาคสนาม ส่วนเปลสนามและรถเข็นสามารถเปิดออกมาใช้งานได้ในกรณีที่ต้องเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ

 “ตอนประกวดที่เจนีวาช่วง เม.ย.ปีนี้เป็นกระเป๋าปฐมพยาบาลสำหรับนักกีฬา เนื่องจากพวกหนูทั้งสี่คนเป็นนักกีฬาของโรงเรียน แต่พอไปแข่งที่กรุงโซล พวกหนูเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายมาเป็นผู้สูงอายุ เพราะเห็นว่าหลายประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและประเทศไทยก็จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุสมบูรณ์ในปี 2568 จึงเน้นไปที่ผู้สูงอายุที่พอช่วยเหลือตัวเองได้

 จากนั้นเริ่มพัฒนาต่อยอดเพิ่มอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ เช่น ช้อนอัจฉริยะที่สามารถวัดสารอาหารที่ผู้สูงอายุกินเข้าไป เช่น มีน้ำตาลหรือเกลือกี่มิลลิกรัม เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจโดยการเอานิ้วกดไปที่เครื่องสี่เหลี่ยมขนาดพกพาได้ พอกดผลก็จะไปโชว์บนหน้าจอมือถือ หรืออุปกรณ์ตรวจเบาหวาน และของจำเป็นอื่นๆ”

 ขณะที่แปรงลบกระดานไร้ฝุ่นเพื่อสุขภาพ เป็นผลงานของอีกทีมที่มี ด.ญ.จ้าวไหม ตั้งศิริพัฒน์ และ ด.ญ.สุพิชญาณ์ เหมรัญช์โรจน์ อยู่ในนั้นด้วย รวม 4 คน ได้รางวัลเหรียญทองทั้งที่เจนีวา และโซล

 จ้าวไหม พูดถึงแนวคิดในการออกแบบว่า ต้องการลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นชอล์ก อันเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ ตัวแปรงถูกออกแบบให้ทำความสะอาด ดูดฝุ่นและเก็บฝุ่นในเวลาเดียวกัน กล่องเก็บฝุ่นถอดออกทำความสะอาดและประกอบใหม่ได้ด้วยฝาเกลียว ใช้แบตเตอรี่ในการทำงาน มีน้ำหนักเบา ใช้งานได้นาน ผ้าทำความสะอาดออกแบบเป็นรูปกลีบดอกไม้ช่วยให้ทำความสะอาดได้ดีขึ้น

 ชิลลิ่ง และ จ้าวไหม กล่าวว่า กว่าจะมาเป็นกระเป๋าปฐมพยาบาลอัจฉริยะที่ไปคว้ารางวัลมาเหรียญและเหรียญเงินพวกเธอทุกคนในทีมต่างช่วยระดมความคิด หาไอเดียแล้วมาถกกัน จนในที่สุดก็ได้กระเป๋าปฐมพยาบาลอัจฉริยะตามที่ต้องการ

 ทั้งนี้ต้องขอบคุณพี่ๆ สถาปัตย์จุฬาฯ ที่ช่วยเขียนแบบให้ตามที่ต้องการ ขอบคุณอาจารย์หมอ (คุณแม่ของสุพิชญาณ์) ที่ให้คำแนะนำว่าในกระเป๋าปฐมพยาบาลอัจฉริยะว่าควรจะมีอะไรเป็นการจุดไอเดียให้พวกเธอย่างมาก

 “ขอขอบคุณอาจารย์จีระศักดิ์ จิตรโรจนรักษ์ ศูนย์นวัตกรรมแห่งสาธิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนสาธิต จุฬาฯ (ฝ่ายประถม) อาจารย์ที่ปรึกษาเมื่อไปประกวดนวัตกรรมที่กรุงเจนีวา และอาจารย์ ดร.ธานินทร์ บุญญาลงกรณ์  โรงเรียนสาธิต จุฬาฯ (ฝ่ายมัธยม) ผู้ดูแลเมื่อไปประกวดนวัตกรรมที่เกาหลีใต้ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ”

“จ้าวไหม เก่ง นิสัย มีน้ำใจเสมอ”

 “ครอบครัวของหนูกับครอบครัวจ้าวไหมสนิทกันทั้งครอบครัวค่ะ คุณพ่อคุณแม่เราก็คุ้นเคยกันดี ส่วนหนูกับจ้าวไหมจะรู้จักกันตั้งแต่เรียน ป.1 ที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์ ประถม เราเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียนเหมือนกัน สนิทกัน เวลาไปฝึกซ้อมก็จะเจอกันตลอด เคยอยู่ห้องเดียวกันตอนอยู่ ป.2 และ ป.4 เหมือนเป็นห้องรวมนักกีฬาว่ายน้ำ เลยได้อยู่ด้วยกัน

นักสร้างสรรค์นวัตกรรมวัยใส กุลณัฏฐ์ โตวิกกัย + จ้าวไหม ตั้งศิริพัฒน์

 เนื่องจากที่โรงเรียนหนูจะมีวิชาการเรียนเลือกเสรีด้วย เพราะฉะนั้นก็จะมีนักเรียนจากทุกห้องมาคละกัน หนูกับจ้าวไหมมีความชอบที่ใกล้เคียงกัน บางครั้งบางทีเราก็เลือกลงวิชาเดียวกัน เลยเจอกันบ่อยๆ ถือว่าสนิทกันมากค่ะ บางวันหลังเลิกเรียนก็ชวนกันไปเล่นบาสเกตบอลบ้าง บางทีก็ว่ายน้ำด้วยกัน

 อีกช่วงหนึ่งที่เราสนิทกันมาก คงเป็นตอนที่เราทั้งคู่ไปแลกเปลี่ยนโครงการไทย-นิวซีแลนด์ หนูกับจ้าวไหมตอนไปอยู่กับโฮสต์ที่นิวซีแลนด์ โฮสต์ของเราทั้งสองสนิทกันอีก ถือเป็นความโชคดีมาก เพราะอยู่ต่างแดนย่อมเหงาเป็นธรรมดา พอไปเจอกันที่นั่นเลยทำให้เรายิ่งสนิทกันมากขึ้นไปอีก เจอกันบ่อยมาก มีไปเที่ยวด้วยกันกับโฮสต์และเราก็ได้นอนในห้องเดียวกันด้วย

 นิสัยของจ้าวไหม เป็นเพื่อนที่ใจดี มีน้ำใจ บุคลิกร่าเริงแจ่มใส การเรียนก็เก่ง มีความมุ่งมั่นตั้งใจมาก ทั้งในการเรียนและการทำงาน เวลาที่ทำงานด้วยกันจ้าวไหมตั้งใจมาก เพื่อให้งานออกมาสำเร็จเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะเวลาทำงานประดิษฐ์นวัตกรรมด้วยกัน จ้าวไหมจะคอยกระตุ้นเพื่อน ฝึกซ้อมในการนำเสนอผลงานให้ออกมาให้ดีที่สุด

 สิ่งที่หนูประทับใจในจ้าวไหม ก็คงเป็นความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน และการแสดงออกถึงความมีน้ำใจต่อเพื่อนๆ และต่อหนู ยอมรับว่าการได้ร่วมสร้างสรรค์งานนวัตกรรมนี่แหละ ที่ทำให้เราทั้งคู่สนิทกันมาก และทำงานเข้าขาดี ทั้งนี้รวมถึงกับ สุพิชญาณ์ เหมรัญช์โรจน์ ด้วยซึ่งอยู่ห้องเดียว นั่งข้างกันและเป็นเพื่อนที่สนิทอีกคนค่ะ” ชิลลิ่ง กุลณัฏฐ์ พูดถึงจ้าวไหม

“ชิลลิ่ง เก่ง กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก”

 “ความสัมพันธ์ระหว่างหนูกับชิลลิ่ง ตามที่ชิลลิ่งเล่ามาทั้งหมดเลยค่ะ เรารู้จักกันตั้งแต่ ป.1 และเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่นั้น แม้บางปีจะเรียนคนละห้องแต่ก็สนิทกัน และทำกิจกรรมด้วยกันบ่อย เนื่องจากเราทั้งคู่เป็นเด็กกิจกรรม และยังเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียนด้วย ซึ่งมีการฝึกซ้อมเกือบทุกวัน ยิ่งตอนที่ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่นิวซีแลนด์เรายิ่งสนิทกันมาก  

 บุคลิกที่โดดเด่นของชิลลิ่ง คือเป็นคนที่กล้าแสดงออกอย่างงดงาม ทั้งการกระทำและคำพูดค่ะ คือเวลาพูดชิลลิ่งจะพูดเก่งและพูดได้ดี ส่วนวิชาการก็ดีเช่นกันค่ะ การเรียนถือว่าอยู่อันดับต้นของห้องเลย เป็นคนร่าเริง ไม่เก็บตัว มีมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ทุกคนในห้อง มีน้ำใจ คอยเชื่อเหลือเพื่อนๆ ตลอด รวมถึงคอยช่วยหนูหลายๆ เรื่อง เรียกว่าทั้งน่ารักทั้งน้ำใจดีค่ะ  

 ในการทำงานด้วยความที่ชิลลิ่งเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนๆ เวลาทำอะไรก็จะให้เกียรติกับทุกคนเสมอ นอกจากนี้ ยังเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีไอเดียใหม่ๆ ออกมาอยู่ตลอด ถือว่าโชคดีที่ได้ร่วมทีมประดิษฐ์ด้วยกัน แล้วเวลาทำงานเราก็เข้าขากันดี ซึ่งรวมถึงกับสุพิชญาณ์ เหมรัญช์โรจน์ และกร น้องชายของสุพิชญาณ์ด้วย” จ้าวไหม พูดถึงเพื่อนรักนักประดิษฐ์

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี