posttoday

ที่รัก!มาวางแผนการเงินร่วมกันเถอะ อีก 5 ปีชีวีจะดีขึ้น

15 พฤศจิกายน 2560

โดย วารุณี อินวันนาเงินซื้อความรักไม่ได้ แต่เงินทำให้ชีวิตรักพังได้!

โดย วารุณี อินวันนา

เงินซื้อความรักไม่ได้ แต่เงินทำให้ชีวิตรักพังได้!

คู่รัก...จำเป็นที่จะต้องวางแผนการเงินกันให้ดี ยิ่งเมื่อตัดสินใจใช้ชีวิตคู่เป็นครอบครัว ยิ่งต้องมีความรอบคอบมากขึ้น เพราะเงินมีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์อย่างไม่อยากจะเชื่อ

ยิ่งคู่รัก หรือ ชีวิตคู่ สามี ภรรยา แผนการทางการเงินมีผลต่อความ สัมพันธ์อย่างคาดไม่ถึง เห็นได้จากผลสำรวจดัชนีความสัมพันธ์พรูเด็นเชียลประจำปี 2560 ที่ได้ทำการสัมภาษณ์ผู้ใหญ่อายุระหว่าง 25-55 ปี ที่มีรายได้ตั้งแต่ 3 หมื่นบาทขึ้นไป ของ บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) พบว่าความมั่นคงทางการงินของคนที่เรารักเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ

เพราะระหว่างทางของการใช้ชีวิตคู่ ผู้คนยังมีเป้าหมายทางการเงินที่ต้องทำให้สำเร็จ โดยเฉพาะการต้องมี เงินใช้อย่างเพียงพอเมื่อเกษียณอายุการทำงาน การออมจึงถือเป็นหนึ่งใน เป้าหมายสำคัญ ซึ่งกว่าครึ่งหนึ่งของ ผู้ตอบแบบสอบถามคิดเป็น 55% ระบุว่า การออมเพื่อวัยเกษียณอายุเป็นหนึ่งในเป้าหมายทางการเงินหลักของพวกเขา รองลงมาคือการเริ่มต้นทำธุรกิจ ซื้อบ้าน ซื้อรถ เลี้ยงดูพ่อแม่ สนับสนุนการศึกษาของบุตรหลาน ชำระหนี้

คู่ชีวิตจึงจำเป็นต้องมาเปิดอกคุยกันเรื่องการเงินและวางแผนการเงิน ซึ่งควรที่จะมีการเปิดเผยเกี่ยวกับแผนทางการเงินส่วนตัวของแต่ละคนให้ได้รับทราบ เป็นสิ่งบ่งชี้ที่สำคัญถึงคุณภาพของความสัมพันธ์ และมาวางแผนการเงินชีวิตคู่ร่วมกัน

ตามผลวิจัยพบว่าผู้ที่วางแผนทางการเงินทั้งหมดร่วมกัน มีคะแนนความสัมพันธ์ร่วมกับคู่ชีวิตสูงอยู่ที่ระดับ 71% และมีความเชื่อว่าการเงินส่วนบุคคลของพวกเขาจะดีขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า 73% เทียบกับคู่ที่ต่างคนต่างวางแผนการเงิน ซึ่งอยู่ที่ 60%

การวางแผนทางการเงินร่วมกันยังทำให้คู่รักจำนวน 69% มั่นใจว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวจะดีขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า และยังจะทำให้ชีวิตรักดีขึ้นด้วย และยังสร้างความมั่นใจได้ว่าหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจากโลกนี้ไป สถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวยังคงมีความแข็งแกร่งมากถึง 57% สูงกว่าผู้ที่วางแผนทางการเงินแยกกัน ซึ่งอยู่ที่ 49%

แต่ในความเป็นจริงน่าตกใจ ตรงที่คู่รักในประเทศไทยไม่ค่อยจะร่วมรับผิดชอบทางการเงินซึ่งกันและกัน มีเพียง 32% เท่านั้นที่มีการนำทรัพยากรทางการเงินทั้งหมดมารวมไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ต่ำที่สุดเป็นอันดับ 2 ใน 9 ประเทศ ถัดจากสิงคโปร์ และมีถึง 21% ไม่ได้เอาทรัพยากรใดๆ มาบริหารจัดการร่วมกันและแยกเรื่องการเงินออกจากกันเด็ดขาด

นอกจากนี้ คู่รักในประเทศไทยยังมีความลับเกี่ยวกับการเงิน โดยมีการเก็บข้อมูลทางการเงินไว้เป็นความลับไม่ให้คู่ชีวิตรู้มากถึง 56%

การที่คู่รักต่างคนต่างบริหารเงินของตัวเอง หรือไม่ได้วางแผนทางการเงินร่วมกัน แถมยังเก็บข้อมูลทางการเงินไว้เป็นความลับ จะทำให้ความสัมพันธ์ในชีวิตย่ำแย่ลง โดยคนกลุ่มนี้มีความมั่นใจในความสัมพันธ์และในชีวิตรักที่จะเกิดขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้าว่าจะดีขึ้นเพียงแค่ 45%

มาถึงตรงนี้จะเห็นว่าการเปิดเผยเกี่ยวกับแผนการเงินและการวางแผนการเงินร่วมกัน จะส่งผลดีต่อชีวิตคู่ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เพราะฉะนั้นมาวางแผนการเงินร่วมกันเถอะ

เมื่อตัดสินใจวางแผนทางการเงินร่วมกันแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือการหาคนกลางในการให้คำปรึกษา เพราะจะช่วยลดความขัดแย้งลงได้ เห็นได้จากผลการวิจัยที่คู่รักถึง 71% ยืนยันว่าการทำงานร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความเป็นมืออาชีพทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีขึ้น ในขณะที่มีเพียง 2% เชื่อว่าที่ปรึกษาทางการเงินทำให้ความสัมพันธ์แย่ลง

อีกเรื่องหนึ่งของชีวิตคู่ อย่าปล่อยไว้ให้ค้างคาใจกันนาน คือ หนี้สิน เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้คู่รักทะเลาะเบาะแว้งกันมากที่สุด คิดเป็น 46% และการมีหนี้สินมากเกินไปยังส่งผลต่อความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ด้วย นอกเหนือจากเรื่องที่คู่ชีวิตไม่เก็บเงินมากพอ ไม่มี รายได้เพียงพอ ก็ทำให้คู่ชีวิตมีความรู้สึกไม่พึงพอใจ รวมถึงค่าใช้จ่ายใน การเลี้ยงดูบุตร ทั้งๆ ที่บุตรเป็นผลิตผล ของทั้งสองคนก็มีผลต่อความสัมพันธ์ไม่น้อย

ข่าวล่าสุด

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน กทม. ขอความร่วมมือนครนายกงดเผา 20-25 ธ.ค.