ข้าวปุ้นก้อย 101 แซบนัวกลิ่นไอปลาร้า
เรื่อง/ภาพ สุรชัย พิรักษาหากพูดถึงขนมจีนน้ำยามีขายอยู่ทั่วไป แต่หากพูดถึง "ข้าวปุ้นก้อย" บางคนอาจจะไม่รู้จักและยังไม่เคยรับประทาน วันนี้จะพาไปรู้จักกับร้าน "ข้าวปุ้นก้อย 101" เปิดขายอยู่ริมถนนสายคูเมือง-พุทไธสง ใกล้กับทางพาด อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ จะมีคนมาเข้าคิวรอซื้อแน่นร้านทุกวัน
เรื่อง/ภาพ สุรชัย พิรักษา
หากพูดถึงขนมจีนน้ำยามีขายอยู่ทั่วไป แต่หากพูดถึง "ข้าวปุ้นก้อย" บางคนอาจจะไม่รู้จักและยังไม่เคยรับประทาน วันนี้จะพาไปรู้จักกับร้าน "ข้าวปุ้นก้อย 101" เปิดขายอยู่ริมถนนสายคูเมือง-พุทไธสง ใกล้กับทางพาด อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ จะมีคนมาเข้าคิวรอซื้อแน่นร้านทุกวัน
ข้าวปุ้นก้อยที่พูดถึงก็คือ ขนมจีนใส่น้ำปลาร้าต้มสุก ซึ่งถือเป็นอาหารยอดนิยมของชาวอีสาน แม้ข้าวปุ้นก้อยจะเป็นเมนูที่ทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก แค่เพียงเส้นขนมจีนใส่น้ำปลาร้าต้มสุก ไม่มีเนื้อหมู เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ เพียงรับประทานคู่กับผักสด ผักลวก แต่หากใครชอบรสเข้มข้นจัดจ้าน ก็สามารถเติมเครื่องปรุง เช่น พริก น้ำปลา น้ำตาล หรือน้ำส้มได้เหมือนกับการ รับประทานก๋วยเตี๋ยว ที่สำคัญร้านนี้เขาจะให้ลูกค้าบริการตัวเองทุกอย่าง ตั้งแต่ตักน้ำปลาร้าต้มสุกราดขนมจีนเอง ผักก็ลวกเอง หั่นเอง น้ำก็ต้องบริการตัวเอง ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้าน
ลูกค้าที่มานั่งรับประทานเป็นประจำก็จะรู้ ซึ่งแต่ละวันก็จะมีลูกค้าในพื้นที่ อ.คูเมือง อำเภอใกล้เคียง และผู้ที่ขับรถสัญจรผ่านไปมาแวะเวียนมารับประทานไม่ขาดสาย บางคนนั่งรับประทานที่ร้านแล้วติดใจก็จะซื้อติดมือไปฝากญาติพี่น้องคนละ 10-20 ชุดด้วย จนแม่ค้าแทบทำไม่ทัน ส่วนราคาขายข้าวปุ้นก้อยหรือขนมจีนน้ำปลาร้า ก็จะมีชุดละ 10-20 บาท ส่วนผักบุ้ง ถั่วฝักยาว ผักชี ต้นหอม กำละ 5 บาท แต่ละวันสามารถขายได้กว่า 5,000 บาท หักต้นทุนแล้วจะมีกำไรกว่า 3,000 บาท
ธนพร งอนเนี้ยง เจ้าของร้าน บอกว่า ปกติก็มีอาชีพทำนา ช่วงว่างเว้นจากการทำนา ก็หาอาชีพเสริมทำ จึงได้เรียนรู้สูตรการทำข้าวปุ้นก้อยจากญาติที่ จ.ร้อยเอ็ด แล้วก็มาทดลองเปิดร้านขายเอง ตอนแรกก็ยังขายไม่ค่อยดีเพราะยังไม่มีคนรู้จักมากนัก แต่พอมีคนมากินแล้วติดใจในความเหนียวนุ่มของเส้นขนมจีนที่ทำสดใหม่ ทุกวัน และหัวใจสำคัญคือน้ำปลาร้าต้มสุกจะต้องมีรสแซบนัว โดยที่ร้านจะสั่งปลาร้าสดมาจากร้อยเอ็ด แล้วนำมาต้มสุกปรุงรสให้พอดี
สำหรับเส้นขนมจีน จะใช้เป็นแป้งข้าวเจ้าคุณภาพดีจากโรงงาน นำมาต้มในน้ำเดือด 40 นาที ปล่อยให้เย็นแล้วใส่เครื่องปั่นอีกชั่วโมงครึ่งเพื่อให้เหนียวหนึบพอดี จากนั้นใส่ไว้ในถัง เมื่อลูกค้าสั่งก็จะตักแป้งข้าวปุ้นหรือแป้งขนมจีนใส่ตะแกรงที่เป็นรูแล้วบีบแป้งลงในหม้อน้ำเดือด เมื่อเส้นลอยขึ้นก็ใช้กระชอนตักออกมาแช่น้ำเย็นทันที แล้วจับเป็นหัวตามขนาดที่ลูกค้าสั่ง ก็จะได้เส้นข้าวปุ้นหรือขนมจีนที่สดใหม่เหนียวนุ่ม ปัจจุบันขายมากว่า 6 ปีแล้ว ล่าสุดก็ได้ขยายสาขาในตัวเมืองเพิ่มอีก 1 สาขาด้วย
กิจ จีนรัมย์ อายุ 52 ปี ลูกค้าที่ เดินทางมาจาก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ บอกว่า ครั้งแรกลูกพามาลองชิม ก็ติดใจในความเหนียวนุ่มของเส้นขนมจีน และความแซบนัวของน้ำปลาร้า จึงได้พาลูกหลานนั่งรถจากตัวเมืองมารับประทานข้าวปุ้นก้อยถึงที่ร้านเลย ซึ่งลูกหลานที่มาต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย ต้องสั่งคนละ 2-3 ชาม ก็อยากจะเชิญชวนคนที่ยังไม่เคยทานข้าวปุ้นก้อยได้มาลองทานดูแล้วจะติดใจ


