ทำอย่างไร ไม่ให้เป็นบัญชี (เงินฝาก) ไม่เคลื่อนไหว
ชลลดา อิงศรีสว่างหากกระทรวงการคลังไม่เตรียมที่จะออกร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการเงินฝากไม่เคลื่อนไหว ที่ประชาชนฝากเงินไว้กับสถาบันการเงิน ซึ่งสาระสำคัญ คือ การออกกฎหมายเพื่อดึงเงินฝากของประชาชนที่ฝากไว้กับสถาบันการเงิน แต่บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวเกินสิบปีขึ้นไปเข้ามาเป็นเงินคงคลัง แทนที่จะแช่ไว้ที่สถาบันการเงินแล้วละก็ ก็คงไม่ทำให้เกิดการตระหนักถึงความสำคัญของบัญชีเงินฝากที่เรามีอยู่ว่ามีความสำคัญอย่างไร
ชลลดา อิงศรีสว่าง
หากกระทรวงการคลังไม่เตรียมที่จะออกร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการเงินฝากไม่เคลื่อนไหว ที่ประชาชนฝากเงินไว้กับสถาบันการเงิน ซึ่งสาระสำคัญ คือ การออกกฎหมายเพื่อดึงเงินฝากของประชาชนที่ฝากไว้กับสถาบันการเงิน แต่บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวเกินสิบปีขึ้นไปเข้ามาเป็นเงินคงคลัง แทนที่จะแช่ไว้ที่สถาบันการเงินแล้วละก็ ก็คงไม่ทำให้เกิดการตระหนักถึงความสำคัญของบัญชีเงินฝากที่เรามีอยู่ว่ามีความสำคัญอย่างไร
บัญชีเงินฝากหลักๆ ที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ เงินฝากบัญชีออมทรัพย์ เงินฝากประจำ และเงินฝากกระแสรายวัน แต่มีบัญชีเงินฝากประเภทเดียวที่จะถูกจัดเป็นบัญชีทอดทิ้งหากไม่มีการเคลื่อนไหว คือ บัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์เท่านั้น และไม่มีการนำเอาสมุดบัญชีมาติดต่อกับธนาคารอีกเลย
หลายคนมีบัญชีเงินฝากมากกว่า 2 บัญชี บางคนมีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์มากเกินกว่า 5 บัญชี ด้วยจุดประสงค์ต่างๆ กัน
ในการบริหารเงิน การมีบัญชีเงินฝากมากและหลากหลายธนาคาร มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ในส่วนของข้อดีอาจจะไม่ต้องอธิบายให้ยุ่งยาก แต่ในส่วนของข้อเสียนั้นการมีบัญชีมากอาจจะทำให้หลงลืม ไม่ได้ไปอัพเดทสมุดบัญชี กลายเป็นบัญชีทอดทิ้งได้ เมื่อเป็นบัญชีที่ไม่เคลื่อนไหว หากมีวงเงินคงเหลือในบัญชีเงินฝากที่ต่ำกว่าเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดก็ต้องเสียค่ารักษาบัญชี ทำให้เสียโอกาสอีกด้วย หากมีเงินฝากแช่ไว้โดยกินดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำเตี้ยแทนที่จะนำเงินไปลงทุนรูปแบบอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
ด้านข้อเสียสำหรับสถาบันการเงิน การที่เรามีบัญชีเงินฝากทอดทิ้งจำนวนมากอยู่ในระบบ ทำให้ธนาคารมีต้นทุนทางด้านการขยายพื้นที่ของระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเก็บข้อมูลบัญชีที่ไม่เคลื่อนไหวเหล่านี้ ทำให้ระบบอืดทำงานช้า จำเป็นต้องขยายระบบไอทีแบกรับข้อมูลเก็บไว้เพราะเงินของลูกค้าจะหายไปไหนไม่ได้ เมื่อต้องลงทุนเพิ่มมากๆ ธนาคารจึงต้องเก็บค่ารักษาบัญชีเพราะมีค่าใช้จ่าย
แหล่งข่าวจากสมาคมธนาคารไทย ระบุว่า บางธนาคารมีบัญชีทอดทิ้งเดือนละ 1 แสนบัญชี เพราะมีลูกค้ามาเปิดบัญชีใหม่ ส่วนใหญ่เป็นเพราะเปลี่ยนงานและที่ทำงานใหม่ให้เปิดบัญชีธนาคารที่บริษัทใช้บริการเพื่อจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชีให้ และเมื่อเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ก็ไม่ได้ปิดบัญชีที่ทำงานเก่า
แต่กว่าลูกค้าจะถูกเรียกเก็บค่ารักษาบัญชี และจะถูกจัดให้เป็นบัญชีเงินฝาก ไม่เคลื่อนไหวนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ออกหนังสือแจ้งต่อลูกค้า กรณีที่จะเก็บค่ารักษาบัญชีก็ให้ส่งหนังสือเตือนว่ามีเงินในบัญชีต่ำกว่าเงื่อนไขและธนาคารจะเก็บ ค่ารักษาบัญชีล่วงหน้า 1 ครั้ง ส่วนกรณีจะเป็นบัญชีทอดทิ้ง ธปท.ให้ธนาคารส่งหนังสือแจ้งลูกค้า 3 ครั้ง เป็นการส่งจดหมายลงทะเบียน ส่งครั้งแรกแล้วหากไม่มีการตอบรับใดๆ ก็จะต้องออกจดหมายครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรกเป็นระยะเวลา 1 ปี
ไม่ว่าจดหมายที่ส่งไปจะได้รับการ ตอบกลับหรือตีกลับมา หากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์มียอดเงินลดลงตามเงื่อนไข ธนาคารก็จะเริ่มหักค่ารักษาบัญชีออกจากบัญชีเงินฝากไปเรื่อยๆ หากเงินหมดบัญชีก็ถือว่าบัญชีเงินฝากนั้นปิดไปโดยปริยาย หากเจ้าของบัญชีเพิ่งนึกออก นำสมุดบัญชีมาอัพเดทกับธนาคาร ก็จะได้รับแจ้งข่าวร้ายว่าบัญชีได้ถูกปิดไปแล้วและเงินที่คิดว่าจะได้ก็ไม่ได้เสียแล้ว
ปัญหาบัญชีเงินฝากไม่เคลื่อนไหว ยังมีมากกว่าที่คิด เพียงแค่หลงลืมและบัญชีสูญหายอาจจะแก้ไขปัญหาได้ง่ายกว่า กรณีที่เจ้าของบัญชีป่วย ไม่สามารถติดต่อกับธนาคารได้ หรือเสียชีวิต แต่ไม่มีใครทราบว่าผู้เสียชีวิตมีบัญชีเงินฝาก จะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากกว่า ดังนั้นจะต้องแยกปัญหาและวิธีการจัดการออกเป็นกรณีไป
บัญชีเงินฝากหาย : หากบัญชีเงินฝากสูญหาย หาเท่าไรก็ไม่พบ สิ่งที่จะต้องดำเนินการคือ ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ และคัดใบแจ้งความนำมาที่ธนาคารพร้อมกับนำเอาหลักฐานสำแดงตัวตน คือ บัตรประชาชน ไปที่สาขาของธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อกรอกข้อมูลในเอกสารขอออกบัญชีเงินฝากเล่มใหม่
เจ้าของบัญชีเงินฝากป่วย : กรณีของเจ้าของบัญชีเงินฝากป่วย ไม่สามารถเดินทางมาธนาคารได้ มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากและมีความรุนแรงในระดับที่ต่างกันตามอาการป่วยและการจัดการปัญหาก็แตกต่างกัน และมีกฎระเบียบที่ ธปท.กำหนดไว้ คือ ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ธนาคารให้บริการนอกสถานที่กับบุคคลธรรมดา
หากเจ้าของบัญชีป่วย แต่ไม่สามารถเดินทางไปที่ธนาคารเพื่อติดต่อถอนเงินจากบัญชีได้ สามารถเขียนใบมอบอำนาจและมอบบัตรประชาชนตัวจริงให้ผู้รับมอบอำนาจมาทำการแทนได้ แต่ก็มีกรณีที่ลายเซ็นเจ้าของบัญชีไม่เหมือนลายเซ็นที่ให้ไว้กับธนาคาร กรณีนี้ธนาคารจะไม่ยินยอมให้ถอนเงินออก เพราะไม่แน่ใจว่าผู้มอบอำนาจเป็นผู้กระทำการจริงหรือไม่ จะต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งจะต้องไปยื่นร้องต่อศาลและแสดงหลักฐานค่ารักษาพยาบาลและใบรับรองแพทย์ ว่าจำเป็นจะต้องนำเงินออกไป ธนาคารก็จะบรรเทาเหตุให้ด้วยการโอนเงินออกจากบัญชีจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้โดยตรงกับโรงพยาบาล จนกว่าศาลจะมีคำสั่งให้ดำเนินการอย่างไร
หากเจ้าของบัญชีป่วยติดเตียง ป่วยเรื้อรัง หรือทุพพลภาพถาวร ไม่สามารถเดินทางได้ กรณีนี้ทางธนาคารจะแนะนำให้ทายาทหรือผู้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย ขอ คำสั่งศาลเพื่อเป็นผู้อภิบาล ผู้ป่วย และเป็นผู้พิทักษ์ทรัพย์ จึงจะมาถอนเงินออกไปได้ ซึ่งจะต้องมีกฎหมายรับรองที่ชัดเจน ธนาคารจะไม่เสี่ยงกระทำการให้โดยไม่มีคำสั่งศาล เนื่องจากจะถูกฟ้องร้องได้ หากผู้ป่วยฟื้น หรือมีทายาทหลายคนและทายาททุกคนไม่ยินยอม
กรณีที่เจ้าของบัญชีเสียชีวิตและทายาทไม่รู้ว่ามีบัญชีเงินฝาก การดำเนินการ คือ ให้ทายาททั้งหมดร่วมกันตั้งผู้จัดการมรดก และให้ผู้จัดการมรดกแสดงใบมรณบัตรและหลักฐานต่างๆ ยื่นหนังสือต่อธนาคารทุกแห่งที่สงสัยว่าผู้ตายจะมีบัญชีเงินฝากให้ธนาคารตรวจสอบ แต่ละธนาคารจะทำหนังสือแจ้งกลับมาที่ผู้ร้องขอเพื่อบอกว่ามีหรือไม่
แหล่งข่าวจากสมาคมธนาคารไทย ระบุว่า ในแต่ละปีมีปัญหาเรื่องทางบัญชีเงินฝากมากมาย เพราะแต่ละธนาคารมีผู้มาเปิดบัญชีเงินฝากหลายสิบล้านบัญชี ธนาคารก็จะต้องจัดการจัดระบบระเบียบข้อมูลและคอยแก้ปัญหาให้ลูกค้า ซึ่งธนาคารไม่สามารถห้ามลูกค้าไม่ให้เปิดบัญชีเงินฝากมากได้ หากลูกค้าเปิดบัญชีโดยสุจริต และต้องการใช้บัญชีสำหรับบริหารเงินโดยวัตถุประสงค์ต่างๆ
"มีลูกค้าธนาคารที่เปิดให้เช่ารถ หรือให้เช่าห้องพัก ก็จะแตกบัญชีออกมาเป็นแต่ละคัน แต่ละห้อง เพื่อดูว่ามีเงินเข้ามาตามกำหนดหรือไม่ กรณีนี้เป็นสิทธิของลูกค้าหากเปิดบัญชีโดยสุจริต ก็ห้ามลูกค้าไม่ได้ แต่ก็อยากให้ลูกค้าของธนาคารที่เป็นบุคคลทั่วไป การมีบัญชีเงินฝากมากก็จะทำให้เกิดการสูญเปล่าทางเศรษฐกิจทั้งของตัวลูกค้าและธนาคารเอง" แหล่งข่าวเปิดเผย
คำแนะนำในเรื่องนี้ คือ ควรมีบัญชีเงินฝากให้พอเหมาะและพอดีกับการบริหารเงินของแต่ละคน และควรจะนำบัญชีไปอัพเดทอยู่เสมอ ซึ่งแค่ไปปรับสมุดบัญชีก็จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพราะถือว่าไม่ใช่บัญชีที่ไม่เคลื่อนไหว ให้ต้องมีปัญหาปวดหัวตามมาในที่สุด


