posttoday

เหตุแห่งการโกนผมไว้ทุกข์

22 ตุลาคม 2560

ในอัตตปวัตติของพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ สิริจันโท (จันทร์) บันทึกเรื่องราวในวัยเยาว์ของท่านเอาไว้ว่า

โดย กรกิจ ดิษฐาน

เหตุแห่งการโกนผมไว้ทุกข์

ในอัตตปวัตติของพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ สิริจันโท (จันทร์) บันทึกเรื่องราวในวัยเยาว์ของท่านเอาไว้ว่า

"... ครั้นย่างเข้าปีอายุ ๑๓ เป็นปีพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต เป็นธรรมเนียมต้องโกนผมไว้ทุกข์ทั่วพระราชอาณาจักร ประเทศลาวทั้งสิ้นบรรดาผู้หญิงไม่ว่าสาวหรือแก่ไว้ผมยาวทั้งสิ้น พอทราบประกาศว่าให้โกนผม พากันระงมไปด้วยเสียงร้องไห้ทั่วบ้านทั่วเมือง น่าสลดใจ เสียดายผมเท่านั้น พากันอายศีรษะโล้น ต้องคลุมผ้าไว้เสมอ ส่วนอัตตโนชอบใจเห็นศีรษะโล้นเป็นงามดี ..."

พระอุบาลีคุณูปมาจารย์เกิดที่เมืองอุบล ถิ่นวัฒนธรรมลาวล้านช้าง สตรีแถบนั้นแต่ไรมาไว้ผมยาวมัดเป็นมวยตบแต่งสวยงาม จู่ๆ จะมาให้โกนทั้งหมดเพื่อไว้ทุกข์ ทั้งสาวทั้งแก่จึงร้องไห้เสียดาย และอายที่ต้องหัวโล้น ส่วนผู้หญิงไทยแถบภาคกลางไว้ผมสั้น บางครั้งสั้นเกือบเกรียน ผมเดาว่าน่าจะเสียดายน้อยกว่าผู้หญิงลาว เคยคิดเล่นๆ ว่าที่ผู้หญิงสยามไว้ผมสั้น ชะรอยคงเพราะต้องหมั่นโกนไว้ทุกข์ถวายเจ้านายกระมัง?

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเห็นว่าการโกนศีรษะเป็นการเบียดเบียนราษฎร ทรงสั่งให้เลิกเสีย พวกเราจึงไม่ต้องโกนกันอีก ดังมีความใน "ประกาศยกเลิกการโกนผมแทนการไว้ทุกข์" พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ซึ่งขณะนั้นดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ซึ่งได้สำเร็จราชการแผ่นดิน ทรงประกาศเจตนารมณ์ของพระราชบิดาแก่ราษฎรว่า

"...อนึ่ง ตามโบราณราชประเพณี ในเวลาเมื่อพระเจ้าแผ่นดินเสด็จสวรรคต พระบรมวงษานุวงษ์แลข้าราชการ ราษฎรทั้งหลายต้องโกนผมแทนการไว้ทุกข์ทั่วทั้งพระราชอาณาจักร แต่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกนารถ ได้ทรงมีพระราชดำรัสสั่งไว้ว่า การไว้ทุกข์ดังเช่นที่กล่าวมาแล้วนั้น ย่อมเปนเครื่องเดือดร้อนอยู่เป็นอันมากให้ยกเลิกเสียทีเดียว..."

การโกนศีรษะให้ผู้ตายน่าจะมาจากอินเดีย ไทยน่าจะรับจากกัมพูชา บันทึกจีนสมัยราชวงศ์เหลียงระบุว่าชาว ฟูนันโกนผมไว้ทุกข์ แสดงว่าโกนกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 เป็นอย่างต่ำ ผ่านมา 1,200 ปีแล้ว ทุกวันนี้ที่กัมพูชายังรักษาธรรมเนียมโกนศีรษะในงานศพ (สามีหรือภรรยาและลูกๆ แล้วแต่งขาว)

โดยเฉพาะในงานพระศพพระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุ เมื่อปี 2555 ก็มีสตรีโกนศีรษะไว้ทุกข์หลายคน (อนึ่ง คำว่าโกนในภาษาไทยคล้ายกับภาษาเขมรว่า "โกร" (เขียนว่า เการ) โกนผมคือ "โกร ส็อก" ส่วนใครรับของใครมา ค่อยว่ากันทีหลัง)

อยากรู้ว่าทำไมไทยโกน เขมรโกน ต้องย้อนกลับไปที่อินเดีย แต่เดิมงานศพที่อินเดียจะโกนผม ทั้งหญิงชาย แต่งขาวไว้ทุกข์ (บันทึกของการะฟัด) ปัจจุบันผู้ชายบางพื้นที่ยังโกนผม ผู้หญิงที่โกนผมไปตลอดชีวิต คือพวกแม่หม้าย ที่โกนผมมีเหตุผล 2 ระดับ

1.เหตุผลระดับประเพณี เพื่อแสดงความเคารพผู้ตาย เรื่องนี้เป็นคำอธิบายที่คนส่วนใหญ่มักใช้กัน "แต่" ประเพณีย่อมมีนัยลึกซึ้งกว่านั้น

2.เหตุผลในระดับศาสนา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบพิธีศพรับพลังด้านลบรุนแรง (รชะ-ตะมะ) จากศพผู้ตาย โดยเฉพาะสีดำของเส้นผมจะรับพลังงานนี้ได้ง่าย (คำอธิบายจาก Hindu Janajagruti Samiti)

คำอธิบายนี้มาจากสมาคมฮินดูในอินเดีย แต่ผมยังไม่ปักใจเชื่อเพราะยังไม่ได้ตรวจคัมภีร์พระเวท-พระธรรมศาสตร์ ซึ่งน่าจะมีเหตุผลอย่างละเอียด n

ข่าวล่าสุด

คดีพลิก สหรัฐฯปลดล็อกขายชิปให้จีน แต่รัฐบาลจีนอาจไม่อยากซื้อ