สบู่สมุนไพรขมิ้นทองคำ ‘ป้านุช’ ดังไกลถึงออสเตรเลีย
ไชยวัฒน์ สาดแย้มหากจะกล่าวกันถึงเรื่องสมุนไพรแล้วในประเทศไทยเรานั้นต้องถือได้ว่ามีพืชสมุนไพรไม้เป็นยาอยู่เป็นจำนวนมาก ติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว ที่สำคัญยังมีการใช้กันมาอย่างแพร่หลายมาอย่างยาวนานนับร้อยนับพันปี แต่ในขณะที่วงการแพทย์ของไทยยังมีความตื่นตัวน้อยมาก จนกลายเป็นช่องทางให้วงการแพทย์และนักวิจัยในต่างประเทศหลากหลายประเทศทำการฉกฉวยโอกาสหยิบจับเอาไปจดสิทธิบัตรเป็นของตัวเองไปแล้วจำนวนมาก
ไชยวัฒน์ สาดแย้ม
หากจะกล่าวกันถึงเรื่องสมุนไพรแล้วในประเทศไทยเรานั้นต้องถือได้ว่ามีพืชสมุนไพรไม้เป็นยาอยู่เป็นจำนวนมาก ติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว ที่สำคัญยังมีการใช้กันมาอย่างแพร่หลายมาอย่างยาวนานนับร้อยนับพันปี แต่ในขณะที่วงการแพทย์ของไทยยังมีความตื่นตัวน้อยมาก จนกลายเป็นช่องทางให้วงการแพทย์และนักวิจัยในต่างประเทศหลากหลายประเทศทำการฉกฉวยโอกาสหยิบจับเอาไปจดสิทธิบัตรเป็นของตัวเองไปแล้วจำนวนมาก
วันนี้จะพาไปรู้จักถึงสรรพคุณของเจ้าขมิ้นชัน ที่ใช้เป็นทั้งอาหาร เป็นทั้งยา และยังทำเป็นเครื่องประทินผิวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งคนไทยโดยเฉพาะทางภาคใต้นั้นมักจะใช้ใส่ในเครื่องแกงทำเป็นอาหารรับประทานในชีวิตประจำวันกันอย่างแพร่หลายมาอย่างยาวนาน
นงนุช อยู่เย็น เจ้าของผลิตภัณฑ์ สบู่สมุนไพรขมิ้นทองคำ และน้ำมันขัดผิวขมิ้นทองคำ แบรนด์ "ป้านุช" สินค้าท้องถิ่นชื่อดังแห่ง ต.บ้านกุ่ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี ป้านุช บอกว่า ผลิตภัณฑ์สมุนไพรป้านุชนั้นแรกเริ่มเดิมทีจะเป็นการผลิตประเภทลูกประคบสมุนไพร ยาหม่องสมุนไพร และน้ำมันนวดต่างๆ ต่อมาในปี 2558 ได้นำเข้าจดทะเบียนเป็นสินค้าโอท็อป พร้อมกับได้ทำการต่อยอดผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเป็นสบู่มะหาด สบู่มะเฟือง และสบู่ขมิ้นทองคำ ซึ่งก็ได้รับความนิยมจากการซื้อหาของลูกค้ามากขึ้น และเป็นลูกค้าประจำไป โดยเฉพาะสบู่ขมิ้นทองคำนั้นจะขายดีมากเป็นพิเศษ และได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวออสเตรเลีย
ป้านุช บอกว่า สำหรับสบู่ขมิ้นทองคำ นอกจากจะมีส่วนผสมของทองคำแล้วยังมีส่วนผสมของน้ำซาวข้าว และสมุนไพรอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากขมิ้นชันลงไปด้วย ซึ่งน้ำซาวข้าวนั้นเป็นสูตรที่คนไทยมีการใช้กันมาอย่างยาวนานแต่ครั้งโบราณ นับหลายร้อยปีมาแล้ว เนื่องจากน้ำซาวข้าวนั้นสามารถขจัดคราบความมันและสิ่งสกปรกอุดตันบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี อีกทั้งในน้ำซาวข้าวนั้นยังมีวิตามินต่างๆ อยู่ตามธรรมชาติอีกด้วย
สำหรับการต่อยอดการตลาด ล่าสุดนั้นได้ผลิตน้ำมันมะพร้าวหีบเย็นออกมาจำหน่าย พร้อมกับการผลิตน้ำมันขัดผิวสมุนไพรขมิ้นทองคำขึ้นมาด้วย โดยเฉพาะน้ำมันขัดผิวขมิ้นทองคำนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องผิวพรรณ ที่มีอาการแพ้ง่าย ผิวคล้ำ โดยมีส่วนผสมของน้ำมันงา น้ำนม พร้อมด้วยสมุนไพรจำพวกขมิ้นและสมุนไพรอื่น และที่สำคัญในน้ำมันขัดผิวนี้เรายังผสมผงทองคำลงไปด้วย สำหรับการขัดผิวนั้นจะต้องขัดในช่วงที่ผิวยังแห้งๆ เพื่อขจัดเซลล์ของผิวหนังที่ตายแล้วออกไป
ป้านุช บอกอีกว่า การทำผลิตภัณฑ์นั้นส่วนใหญ่จะนำเอาสมุนไพรต่างๆ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในพื้นที่ จ.เพชรบุรี เข้ามาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต ซึ่งขณะนี้เตรียมการสร้างโรงเรือนที่ใช้ในการผลิตเพิ่มเติมขึ้นมาอีกเพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า พร้อมกับขยายจุดวางจำหน่ายไปตามร้านขายของฝากต่างๆ ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี
ในเรื่องของการตลาดนั้น ส่วนใหญ่จะได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเพชรบุรี นำไปออกร้านจำหน่ายสินค้าตามงานจำหน่ายสินค้าโอท็อปต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่เมืองทองธานี ทำให้มีลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และเมื่อได้ทดลองซื้อผลิตภัณฑ์ของป้านุชไปใช้แล้วก็มักจะได้เป็นลูกค้าประจำอย่าง ต่อเนื่อง นอกจากนำออกไปวางขายในงานจำหน่ายสินค้าโอท็อปต่างๆ แล้วยังมีวางขายประจำอยู่ในพื้นที่ของโครงการหลวง แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี และยังจำหน่ายทางออนไลน์อีกช่องทางหนึ่งด้วย รวมทั้งส่งออกไปขายยังตลาดออสเตรเลียด้วย ซึ่งกระแสตอบรับดี
ปัจจุบันกำลังวางแผนการผลิตสินค้าเพิ่มเติมจากที่มีอยู่อีก คือ การผลิตครีมอาบน้ำ ครีมถนอมผิวจากว่านนางคำ ให้เป็นสินค้าทางเลือกเพิ่มเติมขึ้นมาอีก เนื่องจากว่านนางคำนั้น มีสรรพคุณในการบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อใช้แล้วจะทำให้ผิวพรรณดูผ่องใสเรียบเนียนสวยงาม โดยว่านนางคำนั้นเป็นสมุนไพรที่คนไทยในสมัยโบราณใช้กันมาอย่างยาวนาน ซึ่งหากจะเปรียบกัน ระหว่างสมุนไพร ทานาคาของเมียนมา กับว่านนางคำของไทยแล้ว ทานาคาสู้ว่านนางคำของไทยไม่ได้เลย
ใครที่สนใจในผลิตภัณฑ์สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 08-3376-4966 09-3323-2366


