posttoday

ทช.แจงเหตุสะพานถล่มชัยนาทคาดตอม่อนั่งร้านอ่อนแรงจากกระแสน้ำ

04 ตุลาคม 2560

กรมทางหลวงชนบทแจงยิบเหตุสะพานถล่ม คาดสาเหตุมาจากตอม่อนั่งร้านอ่อนแรงจากกระแสน้ำ เล็งเพิ่มวิศวกรความปลอดภัยในทีโออาร์เริ่มเลยปีหน้า

กรมทางหลวงชนบทแจงยิบเหตุสะพานถล่ม คาดสาเหตุมาจากตอม่อนั่งร้านอ่อนแรงจากกระแสน้ำ เล็งเพิ่มวิศวกรความปลอดภัยในทีโออาร์เริ่มเลยปีหน้า

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท(ทช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบ สาหตุของสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จ.ชัยนาท ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างได้พังถล่มลงมาทับคนงานได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 คน ว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้มีการเร่งดำเนินการตรวจสอบสาเหตุอย่างเร่งด่วน โดยล่าสุดหลังจากที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ลงพื้นที่และประเมินเบื้องต้นนั้นพบว่าสาเหตุอาจมาจากสองประเด็น 1.เกิดจากตอหม้อนั่งร้านอยู่บริเวณคุ้งน้ำทีมีกระแสน้ำกัดเซาะนั่งร้านจนรับน้ำหนักไม่ไหวทำให้พังลงมาเนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมีฝนตกหนักทำให้กระแสน้ำแรงขึ้นอีกด้วยเพราะนั่งร้านบางส่วนตั้งอยู่ในแม่น้ำ 2.เกิดจากแรงสั่นสะเทือนของสะพานจนรับน้ำหนักไม่ไหวเนื่องจากช่วงเกิดเหตุนั้นมีการนำรถโม่ปูนขนาดใหญ่ขึ้นไปวิ่งบนสะพานเพื่อเทปูน จนอาจทำให้แรงสั่นสะเทือนบวกกับกระแสน้ำกัดเซาะทำให้สะพานพังลงมา ทั้งนี้ข้อสังเกตุดังกล่างเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่ทช.จะต้องเร่งสรุปสาเหตุที่ชัดเจนให้แล้วเสร็จภายในเดือนพ.ย.นี้เพื่อชี้แจงกระทรวงคมนาคมต่อไป อย่างไรก็ตามในช่วงปลายเดือนนี้ วสท.จะจัดสัมมนาวิชาการโดยนำเหตุการณ์ดังกล่าวมาเป็น Case Study ให้นักวิชาการและผู้มีความรู้ได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นและแนวทางแก้ไขเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำรายละเอียดต่อไป ส่วนประเด็นเรื่องครั้งนี้จะเป็นความผิดของเอกชนหรือไม่นั้นยังต้องรอการตรวจสอบว่าหากเหตุเกิดจากนั่งร้านไม่แข็งแรงจริงต้องดูว่าเกิดจากความผิดพลาดของผู้รับเหมาหรือปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งนี้ได้สั่งการให้หยุดงานก่อสร้างภาพรวมทั้งหมดเพื่อให้วสท.เป็นคนพิจารณาอนุมัติร่วมกับทช.ว่าจุดไหนปลอดภัยแล้วจึงสามารถกลับเข้าพื้นที่หน้างานได้

สำหรับแนวทางการป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ในอนาคตนั้น ทช.ได้สั่งการให้กำหนดเงื่อนไขความปลอดภัยไว้ในทีโออาร์งานก่อสร้างและทีโออาร์ที่ปรึกษาคุมงาน ว่าทุกสัญญาต้องเพิ่มตำแหน่งวิศวะกรความปลอดภัยเข้าไปเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นโดยจะเริ่มบังคับใช้ในทีโออาร์ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาทช.ได้มีขั้นตอนการตรวจรับงานและสุ่มตรวจโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอย่างเข้มงวดเสมอมาดังนั้นจึงมั่นใจว่ายังไม่มีจุดใดน่าห่วงนอกจากนี้

ส่วนประเด็นด้านการกำหนดบทลงโทษเอกชนในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุระหว่างก่อสร้างในอนาคตนั้น ทช.ต้องดำเนินการหารือกับปฝกรมบัญชีกลางถึงความเป็นไปได้ในการกำหนดบทลงโทษเอกชนไว้ในทีโออาร์ อาทิ การตัดแต้มเมื่อทำผิดเป็นต้น เนื่องจากทช.ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจดังกล่าว แต่ทั้งนี้โดยส่วนตัวมองว่าหากสามารถกำหนดแนวทางตัดแต้มเอกชนได้ จะทำให้คุณภาพโครงการที่ก่อสร้างนั้นดีมากขึ้นและปลอดภัยต่อประชาชนที่สัญจรมากขึ้นทั้งระหว่างการก่อสร้างและเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ สำหรับการก่อสร้างสะพานดังกล่าวขณะนี้คืบหน้าไปประมาณ 80% แล้ว เดิมคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในเดือนพ.ย. นี้ แต่ขณะนี้ต้องหยุดก่อสร้างไปก่อนอาจทำให้การดำเนินการล่าช้าบ้างแต่ไม่น่าจะเกินสิ้นปีนี้แน่นอน

นายพิศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการสะพานทั้ง 17 แห่ง ที่ รมว.คมนาคมได้สั่งการให้ไปตรวจสอบนั้นเป็นของทช.ทั้งหมด ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานทางเร่งรวบรวมข้อมูลให้แล้วเสร็จในสัปดาห์นี้ว่ามีที่ใดบ้างก่อนเสนอกระทรวงคมนาคมต่อไป เบื้องต้นมีสองที่ได้แก่ สะพานข้ามแม้น้ำในจังหวัดสระบุรีและสะพานข้ามแม่น้ำในพื้นที่เขตลาดกระบัง ซึ่งเป็นสะพานขนาดใหญ่มีเทคนิคการก่อสร้างขั้นสูงจึงต้องตรวจสอบความปลอดภัยให้รอบคอบตามที่รมว.เป็นห่วง

สำหรับประเด็นที่ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตุว่าการก่อสร้างสะพานที่ชัยนาทดังกล่าวเป็นโครงการทับซ้อนกับสะพานข้ามแม่น้ำทางหลวง 340 ที่อยู่ห่างกันไม่มากจนอาจทำให้ไม่เกิดความคุ้มค่านั้น ขอชี้แจงว่าโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแห่งนี้เป็นไปตามแผนพัฒนาผังเมืองของกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นผู้กำหนดแผนพัฒนาผังเมืองรวมและก่อสร้างสะพานเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรช่วงเทศกาลตลอดจนเป็นเส้นทางเลี่ยงเมืองชัยนาทแห่งใหม่ที่ผ่านการทำประชาพิจารณ์จากประชาชนในพื้นที่มาแล้วอย่างรอบคอบอีกด้วย เป็นโครงการที่ทุกฝ่ายมองว่าเหมาะสมแล้วไม่ใช่อำนาจตัดสินใจของทช.ว่าจะสร้างหรือไม่สร้างสะพานดังกล่าว

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี