posttoday

ไฟเขียวนำเข้านม

15 กันยายน 2560

ครม.เห็นชอบเพิ่มโควตานำเข้านมให้ออสเตรเลีย 3 ชนิดตามข้อตกลงเอฟทีเอยันระยะสั้นไม่กระทบแต่ต้องเร่งหามาตรการรับ

ครม.เห็นชอบเพิ่มโควตานำเข้านมให้ออสเตรเลีย 3 ชนิดตามข้อตกลงเอฟทีเอยันระยะสั้นไม่กระทบแต่ต้องเร่งหามาตรการรับ

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอเป็นวาระจรให้ ครม.รับทราบการทบทวนความตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-ออสเตรเลีย ที่กำหนดให้ทบทวนทุกๆ 3 ปี ในประเด็นการใช้มาตรการโควตาภาษี และมาตรการปกป้องพิเศษ โดยมาตรการปกป้องพิเศษ ไทยจะปรับเพิ่มปริมาณโควตานำเข้านมผงขาดมันเนยอีก 10% จากปัจจุบัน โดยมีอัตราภาษีนำเข้าเป็น 0% ซึ่งจะไม่กระทบอุตสาหกรรมโคนมของไทย เพราะปัจจุบันไทยนำเข้าสูงเกินโควตาอยู่แล้ว

นอกจากนี้ ไทยจะเพิ่มปริมาณ เพดานการนำเข้าผลิตภัณฑ์นม 3 รายการ ได้แก่ หางนม ไขมันเนย และเนยแข็ง โดยหางนมได้เพิ่มปริมาณเพดาน นำเข้าอีก 20% จากปัจจุบัน ส่วน ไขมันเนยและเนยแข็งจะปรับเพิ่มอีก 10% เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการนำเข้าที่นำเข้าสูงกว่าปริมาณเพดานที่กำหนด เช่น หางนมกำหนดเพดานนำเข้าที่ 17 ตัน แต่ปี 2559 นำเข้าถึง 2,800 ตัน

สำหรับการปรับเพิ่มปริมาณการนำเข้าสินค้าทั้ง 4 รายการ คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์มีมติให้ปรับเพิ่มได้ตามพันธกรณีภายใต้เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย ซึ่งหลังจากเสนอให้ ครม.รับทราบแล้ว กระทรวงพาณิชย์จะจัดทำพิธีสารแก้ไขภาคผนวกของความตกลงดังกล่าว จากนั้นจะเสนอให้ ครม.เห็นชอบ และเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบต่อไป ก่อนที่ทั้งสองประเทศจะลงนาม เพื่อให้มี ผลบังคับใช้ในปี 2560

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ปัจจุบันไทย ใช้มาตรการโควตาภาษีกับสินค้านำเข้า ภายใต้เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย 8 รายการ แต่ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2562 ระบบโควตาภาษีจะสิ้นสุดลงสำหรับ สินค้า 6 รายการ ได้แก่ มันฝรั่งสด และแช่แข็ง กาแฟสำเร็จรูป ชา ข้าวโพด น้ำตาลและเมล็ดกาแฟ ส่งผลให้ วันที่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นไป ไทยนำเข้าสินค้า 6 รายการนี้ได้โดยไม่จำกัดปริมาณ อัตราภาษี 0% ส่วนอีก 2 รายการ ได้แก่ นมและครีมและเครื่องดื่มประเภทนมปรุงแต่งและนมผง ขาดมันเนย โควตาภาษีจะสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2567 หรือตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 จะนำเข้าโดยไม่จำกัดปริมาณ อัตราภาษี 0%

อย่างไรก็ตาม มีสินค้าที่ไทยใช้มาตรการปกป้องพิเศษ 23 รายการ แต่ปี 2559 ได้ยกเลิกการใช้มาตรการแล้ว 6 รายการ ยังเหลืออีก 17 รายการ เช่น หางนม ไขมันเนย เนยแข็ง เนื้อวัวและเครื่องใน เนื้อหมูและเครื่องใน ฯลฯ แต่มาตรการจะสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2563 หรือตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 เป็นต้นไป จะนำเข้าได้ไม่จำกัดปริมาณ อัตราภาษี 0%

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า แม้การปรับเพิ่มปริมาณนำเข้าครั้งนี้ไม่กระทบอุตสาหกรรมโคนม และการเลี้ยงของไทย เพราะไทย นำเข้าเกินปริมาณที่นำเข้าอยู่แล้ว แต่ตั้งแต่สิ้นปี 2562 และสิ้นปี 2567 ที่มาตรการโควตาภาษีและปกป้องพิเศษภายใต้เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย และเอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์สิ้นสุดลง อุตสาหกรรมโคนมและการเลี้ยง รวมถึงอุตสาหกรรมโคเนื้อและหมูของไทยจะได้รับผลกระทบจากการนำเข้าสินค้าเหล่านี้แน่นอน ขณะที่ผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะมีแนวโน้มว่าผู้ผลิตอาจนำเข้านมผงขาดมันเนยราคาต่ำมาผสมน้ำแล้วผลิตเป็นนมสดขายให้ผู้บริโภค ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งหามาตรการเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ก่อนที่เอฟทีเอทั้งสองฉบับจะเปิดเสรีสินค้าเกษตรอย่างสมบูรณ์แบบ

ข่าวล่าสุด

กกต. เห็นชอบร่างแผนเลือกตั้ง – กำหนดวันใช้สิทธิ์ 8 ก.พ. 69