คำแถลงการณ์ต่อศาล
สมผล ตระกูลรุ่ง สัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์แห่งประวัติศาสตร์ เป็นสัปดาห์ที่คอการเมืองห้ามกะพริบตาเป็นอันขาด อันเนื่องมาจากวันศุกร์ที่ 25 ส.ค.นี้ จะเป็นวันนัดตัดสินคดีการเมืองสำคัญ 2 คดี ในวันเดียวกัน คือคดีทุจริตการขายข้าวในโครงการจีทูจี ซึ่งมีอดีตรัฐมนตรี บุญทรง เตริยาภิรมย์ และอดีตนักการเมือง-ข้าราชการ รวมถึงเอกชนที่เกี่ยวข้องรวม 28 ราย และอีกคดีหนึ่งที่สำคัญที่สุด คือ คดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ระงับยับยั้งการทุจริตอย่างมโหฬารทุกขั้นตอนในโครงการรับจำนำข้าวที่เกิดความเสียหายหลายแสนล้านบาท ซึ่งจำเลยเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี (หุ่นเชิด) ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คดีนี้คำพิพากษาของศาลจะเป็นบรรทัดฐานสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของนักการเมือง โดยเฉพาะในระดับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่าแค่ไหนเพียงใดจึงจะถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
สมผล ตระกูลรุ่ง
สัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์แห่งประวัติศาสตร์ เป็นสัปดาห์ที่คอการเมืองห้ามกะพริบตาเป็นอันขาด อันเนื่องมาจากวันศุกร์ที่ 25 ส.ค.นี้ จะเป็นวันนัดตัดสินคดีการเมืองสำคัญ 2 คดี ในวันเดียวกัน คือคดีทุจริตการขายข้าวในโครงการจีทูจี ซึ่งมีอดีตรัฐมนตรี บุญทรง เตริยาภิรมย์ และอดีตนักการเมือง-ข้าราชการ รวมถึงเอกชนที่เกี่ยวข้องรวม 28 ราย และอีกคดีหนึ่งที่สำคัญที่สุด คือ คดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ระงับยับยั้งการทุจริตอย่างมโหฬารทุกขั้นตอนในโครงการรับจำนำข้าวที่เกิดความเสียหายหลายแสนล้านบาท ซึ่งจำเลยเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี (หุ่นเชิด) ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คดีนี้คำพิพากษาของศาลจะเป็นบรรทัดฐานสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของนักการเมือง โดยเฉพาะในระดับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่าแค่ไหนเพียงใดจึงจะถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งสองคดีเป็นการพิจารณาพิพากษาโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ประกอบไปด้วย ผู้พิพากษาในศาลฎีกาเป็นคณะพิจารณา คดีละ 9 ท่าน แต่ละท่านล้วนเป็นผู้ทรงภูมิทรงความรู้ มีประสบการณ์ด้านการพิจารณาคดี การวินิจฉัยตัดสินคดีมาไม่น่าจะน้อยกว่า 30 ปี เชื่อขนมกินได้ว่า แต่ละท่านผ่านการสืบพยานมาเป็นร้อยๆ ปาก มีความสามารถในการพินิจพิเคราะห์ได้ว่า ถ้อยคำที่พยานเบิกความต่อศาลนั้น เป็นความจริงหรือเท็จ โอกาสที่จะใช้ลวดลายบิดเบือนข้อเท็จจริงให้ศาลเชื่อ จึงเป็นไปได้ยาก ส่วนข้อกฎหมายนั้นไม่ต้องพูดถึง กว่าจะขึ้นเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาได้ ต้องพิจารณาคดีมาแล้วนับไม่ถ้วน นอก จากนี้ ศาลฎีกาเองยังมีข้อกฎหมายที่รวบรวมไว้อย่างครบถ้วนทุกประด็น
ความร้อนแรงทางการเมืองเริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือนที่มีมวลชนมาให้กำลังใจจำเลยปูแดงในการแถลงการณ์ปิดคดีด้วยวาจา เป็นการแถลงที่นักกฎหมายหลายคนวิจารณ์ว่า เป็นการพูดให้มวลชนที่สนับสนุนตนเองฟังเพื่อเรียกความสนใจ เรียกร้องความสงสาร มากกว่าจะเป็นการแถลงการณ์ปิดคดี
การแถลงการณ์ปิดคดีคืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร?
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 186 บัญญัติว่า
"เมื่อสืบพยานเสร็จแล้ว ให้ศาลอนุญาตให้โจทก์แถลงการณ์ด้วยวาจาก่อน แล้วจึงให้จำเลยแถลงการณ์ด้วยวาจา ทบทวนข้อเถียง แสดงผลแห่งพยานหลักฐานในประเด็นที่พิพาท ต่อจากนี้ให้ศาลอนุญาตให้โจทก์แถลงตอบจำเลยได้อีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ห้ามไม่ให้คู่ความแถลงการณ์ด้วยวาจาอย่างใดอีก เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
ก่อนพิพากษาคดี ไม่ว่าคู่ความฝ่ายใดจะได้แถลงการณ์ด้วยวาจาแล้วหรือไม่ คู่ความฝ่ายนั้นจะยื่นคำแถลงการณ์เป็นหนังสือต่อศาลก็ได้ แต่ต้องส่ง สำเนานั้นๆ ไปยังคู่ความอื่นๆ"
การแถลงการณ์ปิดคดีจึงเป็นการสรุปพยานหลักฐานที่ได้นำสืบต่อสู้กันมาในศาล ด้วยการอธิบายให้เหตุผลว่า คดีฝ่ายตนควรจะชนะคดีเพราะเหตุผลใด พยานหลักฐานของอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่น่าเชื่อถืออย่างไร การแถลงการณ์ปิดคดีเป็นการโน้มน้าวศาลให้เห็นคล้อยตามเหตุผลที่นำเสนอ
ในทางปฏิบัติคดีโดยทั่วไป เกือบจะไม่มีการขอแถลงปิดคดีด้วยวาจาเลย เหตุผลน่าจะเป็นเพราะศาลชั้นต้นเองไม่มีเวลาที่จะมารับฟังการแถลงปิดคดีด้วยวาจาได้ ในทางปฏิบัติจึงให้คู่ความทำคำแถลงการณ์ปิดคดีเป็นหนังสือยื่นต่อศาลภายในเวลาที่กำหนด
บทบัญญัติในเรื่องการแถลงการณ์ปิดคดีนี้ ได้นำไปใช้ในคดีอาญาด้วย สำหรับคดีทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเป็นคดีใหญ่ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เมื่อคู่ความร้องขอ ศาลจึงให้มีการแถลงปิดคดีตามที่เป็นข่าวมาแล้ว
ในความเห็นส่วนตัว คำแถลงปิดคดีส่วนใหญ่ ไม่น่าจะมีผลกับการวินิจฉัยคดี เพราะการทบทวนหรือสรุปพยานหลักฐานนั้น เป็นหน้าที่ของผู้พิพากษาอยู่แล้ว ยกเว้นในบางคดีที่ ยุ่งยากซับซ้อน หลักฐานก้ำกึ่งกันมาก ก็อาจมีผลกับการตัดสินของศาล
นอกจากมีการแถลงปิดคดีแล้ว ในคดีอาญายังมีบทบัญญัติให้มีการแถลงเปิดคดีด้วย ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 174 ว่า
"ก่อนนำพยานเข้าสืบ โจทก์มีอำนาจเปิดคดีเพื่อให้ศาลทราบคดีโจทก์ คือ แถลงถึงลักษณะของฟ้อง อีกทั้งพยานหลักฐานที่จะนำสืบเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลย เสร็จแล้วให้โจทก์นำพยานเข้าสืบ
เมื่อสืบพยานโจทก์แล้ว จำเลยมีอำนาจเปิดคดีเพื่อให้ศาลทราบคดีจำเลย โดยแถลงข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายซึ่งตั้งใจอ้างอิง ทั้งแสดงพยานหลักฐานที่จะนำสืบ เสร็จแล้วให้จำเลยนำพยานเข้าสืบ
เมื่อสืบพยานจำเลยเสร็จแล้ว โจทก์และจำเลยมีอำนาจแถลงปิดคดีของตนด้วยปากหรือหนังสือหรือทั้งสองอย่าง"
การแถลงเปิดคดี มักจะทำกันในคดีที่มีความยุ่งยาก ข้อเท็จจริงซับซ้อนเข้าใจยาก เป็นการอธิบายปูพื้นให้ศาลเข้าใจข้อเท็จจริงตามฟ้องว่า มีการ กระทำความผิดอย่างใด มีพยานหลักฐานใดบ้างที่จะนำสืบสนับสนุน แต่การที่โจทก์แถลงเปิดคดีก็มีข้อเสีย คือ ทำให้จำเลยรู้ว่า โจทก์มีพยานหลักฐานอะไรบ้าง ทำให้มีโอกาสหาพยานหลักฐานมาหักล้างได้ตรงประเด็น
การแถลงเปิดคดีในคดีอาญาก็เช่นกัน ในทางปฏิบัติคดีทั่วๆ ไป มีน้อยมากที่จะให้มีการแถลงเปิดคดี และโจทก์เองก็คงไม่อยากจะเปิดแนวทางการดำเนินคดีให้จำเลยทราบก่อน
สำหรับคดีแพ่ง ไม่มีบทบัญญัติให้มีการแถลงเปิดคดี ซึ่งน่าจะเป็นเพราะมีบทบัญญัติเรื่องการชี้สองสถานไว้ ซึ่งศาลมีอำนาจที่จะสอบถามคู่ความในประเด็นต่างๆ ได้อยู่แล้ว จึงไม่ค่อยจะมีความจำเป็นที่จะต้องมีการแถลงเปิดคดีต่อศาล แต่ถ้าโจทก์เห็นว่าคดีมีความยุ่งยากซับซ้อนและประสงค์จะแถลงเปิดคดี ศาลก็น่าจะมีอำนาจให้แถลงเปิดคดีได้
การชี้สองสถานในคดีแพ่ง คือ การที่ศาลตรวจดูคำฟ้อง คำให้การ และคำแถลงต่างๆ ของคู่ความ แล้วสรุปเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ว่า คู่ความเถียงกันด้วยเรื่องอะไร เพื่อเป็นแนวทางให้คู่ความนำสืบพยานตามประเด็นที่ศาลกำหนดไว้
คดีการเมืองทั้งสองคดี ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาตามกฎหมายครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการวินิจฉัยและจัดทำคำพิพากษาจากองค์คณะผู้พิพากษาคดีละ 9 ท่านเท่านั้น
ส่วนความร้อนแรงนอกศาลอันเกี่ยวกับการขนมวลชนมาให้กำลังใจจำเลยนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ศาลจะต้องนำมาประกอบการพิจารณาตัดสินคดี และไม่ใช่หน้าที่ของศาลที่จะห้ามปรามหรือสนับสนุน แต่เป็นเรื่องทางการเมือง อันเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองให้ได้
ความสงบต้องเกิดขึ้นได้ในบ้านเมือง เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า คสช. n


