posttoday

สยามกลการรุ่น3 กิจการต้องยิ่งเติบใหญ่

14 สิงหาคม 2560

อาณาจักรธุรกิจของตระกูลพรประภาที่อยู่คู่กับเศรษฐกิจไทยมาตั้งแต่ปี 2495 ปีที่ บริษัท สยามกลการ ก่อกำเนิดขึ้นมาและดำเนินธุรกิจ

โดย...ยินดี ฤตวิรุฬห์

อาณาจักรธุรกิจของตระกูลพรประภาที่อยู่คู่กับเศรษฐกิจไทยมาตั้งแต่ปี 2495 ปีที่ บริษัท สยามกลการ ก่อกำเนิดขึ้นมาและดำเนินธุรกิจ ผลิตรถยนต์ยี่ห้อนิสสันควบคู่ไปกับธุรกิจการนำเข้ารถฟอร์คลิฟท์ตรา “นิสสัน” จากบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น) ส่วนสยามกลการอุตสาหกรรม ก่อตั้งเมื่อปี 2537 เมื่อดูอย่างนี้ ก็จะเห็นว่าธุรกิจในตระกูลพรประภานั้นอยู่กันมายาวนานสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

“ธุรกิจของตระกูลพรประภาถูกสร้างขึ้นในรุ่นคุณปู่ ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นบุกเบิก  ถัดมาในรุ่นที่ 2 คือ รุ่นคุณพ่อ ที่มีหน้าที่ในการเข้ามาสานต่อให้กิจการเติบโตขึ้น และในรุ่นที่ 3 ซึ่งเป็นรุ่นหลาน หรือรุ่นของคนในวัยผม จะต้องยิ่งทำให้กิจการเติบโตขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่และเติบโตอย่างมั่นคง รวมถึงการกระจายความเสี่ยงของการทำธุรกิจออกไปทำธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งในรุ่น 3 จะต้องเป็นรุ่นที่จะต้องนำเรื่องใหม่ๆ เข้ามาสู่ธุรกิจ” นี้คือคำให้สัมภาษณ์ของ ประธานวงศ์ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการอุตสาหกรรม ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลพรประภา กล่าว 

ประธานวงศ์ กล่าวว่า การทำธุรกิจในยุคนี้จะต้องมีพันธมิตร เพราะการมีพันธมิตรจะทำให้การเติบโตสามารถเกิดขึ้นได้ในเวลาไม่นานนัก จากอดีตที่จะต้องลุย บุกทุกอย่างเองทั้งหมด ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 20-30 ปีกว่าจะโตขึ้นมาได้ แต่ถ้าหากเรามีพันธมิตรหรือร่วมพันธมิตร โอกาสที่ธุรกิจที่ทำจะเติบโตได้ดีใช้เวลาประมาณ 7-8 ปี ก็เห็นการเติบโตซึ่งเช่นเดียวกับธุรกิจในเครือของตระกูลผมที่มีมากว่า 65 ปี แล้วเรามีบริษัทในกลุ่มทั้งหมด 54 บริษัท แบ่งเป็น ธุรกิจรถยนต์ 12 บริษัท ธุรกิจอะไหล่ 16 บริษัท อุตสาหกรรมและการค้า 9 บริษัท ธุรกิจก่อสร้างและอุตสาหกรรมหนัก 7 บริษัท และไลฟ์สไตล์ 10 บริษัท ซึ่งอนาคตของตระกูลก็จะต้องเติบโตต่อไปอย่างมั่นคง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผมนั้นได้เข้ามารับผิดชอบบริหาร บริษัท สยามกลการอุตสาหกรรม ซึ่งดำเนินธุรกิจรถฟอร์คลิฟท์ (รถยก หรือ Forklift Truck) ภายใต้ตราสินค้า “นิสสัน ฟอร์คลิฟท์” (Nissan Forklift) และปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นยูนิแคริเออร์ ฟอร์คลิฟท์ (UniCarriers Forklift)  โดยเข้ามาบริหารนานกว่า 4 ปีแล้วจากก่อนหน้าผมดูในส่วนของธุรกิจโรงแรม ซึ่งการเข้ามาทำธุรกิจของครอบครับผมมองว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำและทำด้วยความชอบและความสุข ซึ่งเมื่อผมเข้ามาก็จะต้องนำการจัดการและแนวทางใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการทำธุรกิจด้วย ซึ่งครั้งแรกนั้นก็จะขายรถทั้ง 100% แต่เมื่อเข้ามาก็นำการทำธุรกิจแบบรถเช่าเข้ามาเพราะมองว่าน่าจะสามารถสร้างกระแสเงินสดและรายได้ประจำจากการเช่าเกิดขึ้นได้ และจนถึงทุกวันนี้บริษัทให้บริการรถเช่าในสัดส่วน 70% และขายเพียง 30% ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้สามารถบริหารจัดการและเน้นในเรื่องของการให้บริการหลังการขายเป็นสิ่งที่สำคัญมาก  ซึ่งบริษัทมีการบริการโครงการให้เช่ารถฟอร์คลิฟท์พร้อมคนขับและทรัพยากรต่างๆ และการอบรมการควบคุมเครนและการขับรถยก พร้อมตอบสนองทุกความต้องการในการเคลื่อนย้ายสินค้าในทุกอุตสาหกรรมและธุรกิจโลจิสติกส์อย่างสมบูรณ์แบบ

สยามกลการรุ่น3 กิจการต้องยิ่งเติบใหญ่ ประธานวงศ์ พรประภา

“การทำธุรกิจนี้กำไรอยู่ที่ความสามารถในการบริหารต้นทุนในทุกๆ ด้าน ซึ่งถ้าหากสามารถทำได้ดีก็จะได้รับผลตอบกลับที่ดีและเป็นธุรกิจที่จะต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก เพราะจะต้องมีการลงทุนล่วงหน้าไปไม่น้อยกว่า 3 ปีและจะมีกำไรเกิดขึ้นหลังปีที่ 3 ไปแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นมากที่เราจะต้องใช้ในทุกๆ เรื่องเข้ามาเป็นองค์ประกอบหลักในการทำงาน ทั้งในเรื่องของการวิเคราะห์ลูกค้า การมองภาพรวมของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศด้วยเพราะทุกอย่างล้วนมีผลทั้งสิ้นต่อการทำธุรกิจ” ประธานวงศ์ กล่าว

นอกจากนี้ ในยุคเขานั้นจะมุ่งเป็นพันธมิตรมากกว่าที่จะเป็นคู่แข่งและคู่ต่อสู้เพราะไม่ได้ทำให้เกิดผลดีแต่ถ้าเราเป็นพันธมิตรกัน เมื่อกิจการโตเราก็จะโตไปพร้อมๆ กัน เพราะถ้าหากไม่มีพันธมิตรก็จะเหนื่อยอนาคตการเข้ามาลงทุนในไทยของต่างชาติก็จะมีเกิดขึ้นอย่างมากมาย และหากมีพันธมิตรโดยเฉพาะหากเจอคู่ที่ทุนหนาก็จะทำให้สายป่านในการทำธุรกิจและเติบโตต่อไปข้างหน้า

สำหรับโอกาสในการทำธุรกิจนั้นเชื่อว่าจะมีทิศทางที่เติบโตเพราะการลงทุนของภาครัฐในทุกๆ ด้าน เฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี ก็จะสนับสนุนให้กิจการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งเกิดขึ้นอย่างมาก และการที่ธุรกิจรถยกของบริษัทถือเป็นความจำเป็นมากของเกือบทุกๆ ธุรกิจ จึงเชื่อว่าจะเติบโตได้อีก ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ทั้งในส่วนของการเช่าและขายที่ 900 คัน โดย 70% เป็นการให้เช่า

ทั้งนี้ ยูนิแคริเออร์ (UniCarriers) เป็นตราสินค้าชั้นนำระดับโลก ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่น และนิสสัน ฟอร์คลิฟท์ มีเป้าหมายในการพัฒนารถฟอร์คลิฟท์ที่ดีที่สุด โดยวิจัยและพัฒนาต่อยอดจากพื้นฐานของนิสสัน ฟอร์คลิฟท์ มีความเชี่ยวชาญ มีประวัติการพัฒนารถฟอร์คลิฟท์ระดับโลกมายาวกว่า 50 ปี ผนึกความแข็งแกร่งเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันระดับโลก มุ่งพัฒนานวัตกรรมที่ดียิ่งขึ้นตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศไทยและตลาดโลก

ข่าวล่าสุด

จ่อตั้ง 1 จังหวัด 1 คลินิก 'การแพทย์แม่นยำ' ถอดรหัสพันธุกรรมโรคมะเร็ง-โรคหายาก