posttoday

หุ้น 60 ตัวในพอร์ต ‘โจ ลูกอีสาน’

02 สิงหาคม 2560

พูลศรี เจริญปีนี้ใครลงทุนในตลาดหุ้นไทยคงอึดอัดกับภาวะตลาดที่ซบเซา ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ หรือไซด์เวย์ ทำกำไรได้ยาก

พูลศรี เจริญ

ปีนี้ใครลงทุนในตลาดหุ้นไทยคงอึดอัดกับภาวะตลาดที่ซบเซา ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ หรือไซด์เวย์ ทำกำไรได้ยาก

ทั้งนี้ เมื่อวัดจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 2-3%

ตลาดหุ้นยามนี้ทำให้นึกถึง "นักลงทุนเน้นหุ้นคุณค่า" หรือวีไอชื่อดัง อันดับต้นๆ ของวงการหุ้น เขาคือ "อนุรักษ์ บุญแสวง" หรือโจ ลูกอีสาน ที่ลงทุนในตลาดหุ้นมาร่วม 17 ปี

ขณะที่ "โพสต์ทูเดย์" โทรศัพท์ไปสัมภาษณ์ อนุรักษ์ ยังอาศัยอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

เจ้าตัวบอกว่าคงปักหลักอยู่ ต่างจังหวัดเพราะทำให้มีสมาธิดี มีเวลาในการศึกษาหาความรู้เพื่อเฟ้นหุ้นที่จะลงทุนและหุ้นที่จะขายออก

พร้อมอ้างถึงนักลงทุนหุ้นคุณค่าชื่อก้องโลก "วอร์เรน บัฟเฟตต์" ซึ่งเป็นไอดอลของนักลงทุนวีไอหลายคนว่า แม้แต่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหรา หรือมีนิวาสสถานอยู่มหานครนิวยอร์ก หากเลือกอยู่เมืองเล็กๆ เงียบๆ

อนุรักษ์ บอกว่าตัวเขาเองก็เช่นกัน ขออยู่อย่างเงียบๆ และเรียบง่ายในต่างจังหวัด เพราะถ้าอยู่กรุงเทพฯ อาจทำให้มีกิเลสและตบะแตกได้ทำให้ไม่มีสมาธิ

เข้าเรื่องสถานะของพอร์ตลงทุนอนุรักษ์ อัพเดทว่าปัจจุบันมูลค่าของพอร์ตอยู่ที่ระดับหลักร้อยล้านบาท

"พอร์ตผมไม่มากไม่มาย แต่ทำให้อยู่ได้อย่างสบาย และขออยู่แบบเรียบง่าย"

เจ้าตัวบอกอีกว่า สไตล์การลงทุนในหุ้นของเขายังเหมือนเดิม คือ ชอบหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ทั้งหุ้นไทยและหุ้นเวียดนาม

สาเหตุที่ชอบหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก เนื่องจากมีโอกาสทำกำไรได้สูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่ นอกจากนี้ จะเน้นลงทุนระยะยาว 2-3 ปีขึ้นไป หากหุ้นตัวไหนลงทุนผิดทางก็พร้อมขายออกทันทีเช่นกัน

พอร์ตการลงทุนที่เบ่งบานมากๆ นี้ เซียนหุ้นวีไอ บอกว่า มาเพิ่มปีหลังๆ นี่เอง

หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่นำมาใช้กับการบริหารพอร์ต คือการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็ก และการใช้ หลักการลงทุนแบบ "สมการทบต้น" นั่นก็คือ ทำให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น ปีละ 15-20%

ปัจจุบัน อนุรักษ์ มีหุ้นในพอร์ต 60 ตัว เป็นหุ้นไทย 40 ตัว หุ้นต่างประเทศ 20 ตัว ซึ่งหุ้นต่างประเทศนั้นปัจจุบันลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามทั้งหมด

นอกจากนี้ มีลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกงหนึ่งบริษัท ซึ่งเป็นในเครือของบริษัทยักษ์ใหญ่ในไทย แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ เพราะถ้าเอ่ยออกมาก็จะ รู้ทันทีว่าเป็นบริษัทอะไร

เช่นเดียวกับหุ้นไทย 40 ตัวที่ลงทุน ขอสงวนรายชื่อ บอกแต่เพียงกว้างๆ เป็นรายกลุ่ม เช่น หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า สินเชื่อเช่าซื้อหรือลีสซิ่ง โดยมีทั้งบริษัทที่ทำธุรกิจรับจำนำป้ายทะเบียนรถ และให้เช่ารถระยะยาว

นอกจากนี้ มีหุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นบริษัทที่มีอัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (พี/อี เรโช) ยังอยู่ในอัตราที่ต่ำ นอกจากนี้มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (แบ็กล็อก) จำนวนมาก

ส่วนหุ้นต่างประเทศที่ลงทุน อนุรักษ์บอกแบบไม่อายว่า หุ้น 20 ตัวที่เวียดนาม ซึ่งลงทุนมา 2 แล้วนั้น พบว่าขาดทุนกำไร 15%

นั่นหมายความว่า มีกำไรทั้งพอร์ต (หุ้นเวียดนาม) เพียง 5% เพราะที่ขาดทุนนั้นเกิดจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินด่องผันผวน

เมื่อถามว่าจะจัดการอย่างไรกับหุ้นเวียดนามที่ถืออยู่ เจ้าตัวบอกอย่าง เด็ดเดี่ยวว่า "ผมถือต่อ เพราะแค่ขาดทุนทางบัญชี"

อนุรักษ์ บอกว่า เขาเห็นโอกาสอีกมากกับการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม จากที่คาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศดังกล่าวยังเติบโตอีกมาก

ปิดท้ายที่คาดการณ์ผลตอบแทนของพอร์ตลงทุนปี 2560 นี้ อนุรักษ์ กล่าวว่า ยังคงเชื่อมั่นว่าสามารถทำ กำไรได้ชนะตลาด หรือเลข 2 หลัก ส่วนปีที่แล้วพอร์ตเขามีกำไร 33%

ขณะที่คาดว่าปีนี้หุ้นไทยให้ผลตอบแทนรวมประมาณ 6-7% โดยเป็นกำไรจากส่วนต่างราคา (แคปปิตอลเกน) ประมาณ 3-4% และอีก 3% เป็นอัตราเงินปันผล n

ข่าวล่าสุด

จากดราม่า ‘น้องหมากินข้าวร่วมโต๊ะในร้าน’ สู่การส่องกฎหมาย Pet Friendly ของ ‘เกาหลีใต้’