ซีแอลพี ประกาศบุกธุรกิจพลังงานทดแทนในไทย ผุดโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในโลกที่ลพบุรี
โพสต์ทูเดย์ – ซีแอลพี ประกาศบุกธุรกิจพลังงานทดแทนในไทยผุดโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในโลกที่จ.ลพบุรีขนาด 73 เมกะวัตต์มูลค่าลงทุน 9,000 ล้านบาท
โพสต์ทูเดย์ – ซีแอลพี ประกาศบุกธุรกิจพลังงานทดแทนในไทยผุดโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในโลกที่จ.ลพบุรีขนาด 73 เมกะวัตต์มูลค่าลงทุน 9,000 ล้านบาท
นายวรมน ขำขนิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแอลพี เพาวเวอร์ (ประเทศไทย) เป็นบริษัทในเครือซีแอลพี กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายชัดเจนในการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศไทยเพื่อสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทแม่ที่ต้องการสร้างโรงไฟฟ้าที่ไม่ปล่อยาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยโครงการแรกที่จะมีการลงทุนคือการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาด 73 เมกะวัตต์ ที่จ.ลพบุรีใช้เงินลงทุน 9,000 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2554
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ดังดล่าวจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก รองลงมาจากประเทศสเปนที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 60 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาตกลงราคาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ(กฟผ.) และการจัดซื้อเทคโนโลยีอุปกรณ์ ซึ่งยอมรับว่ามีต้นทุนในการก่อสร้างค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าชนิดอื่น โดยโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์จะบริหารภายใต้บริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่ คือ บริษัท พัฒนาพลังงานธรรมชาติ มีพันธมิตรร่วมทุนอีก 2 รายคือ บริษัท ผลิตไฟฟ้า หรือ เอ็คโก้ และบริษัท มิตซูบิชิ
นอกจากนี้ยังมีแผนลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม อีก 1-2 แห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่ศึกษาความเป็นไปได้ โดยสนใจพื้นที่ตั้งในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะต้องมีการทดสอบเส้นทางของลมให้ชัดเจนก่อน
“รายละเอียดโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์จะพยายามสรุปให้ได้ในเดือนม.ค.2553 เพื่อให้ทันกับแผนการก่อสร้างที่จะเสร็จในปี 2554 ซึ่งโครงการดังกล่าวได้จัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และผ่านความเห็นชอบแล้ว ยังเหลือขั้นตอนการตกลงราคาซื้อขายไฟฟ้าและการเลือกเทคโนโลยี ยอมรับว่ามีต้นทุนที่สูง แต่ถ้าทำได้ก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะเป็นโรงไฟฟ้าที่ไม่สร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม”นายวรมนกล่าว
อย่างไรก็ตามซีแอลพีมีกรุ๊ป ดำเนินธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ฮ่องกง มีการลงทุนในประเทศจีน ออสเตรเลีย อินเดีย ไทย และไต้หวัน มีกำลังการผลิตรวม 2 หมื่นเมกะวัตต์ มีสัดส่วนผลิตเป็นพลังงานทดแทนในสัดส่วน 10% หรือ 2,000 เมกะวัตต์ ตามโนโยบายการลดการปล่อยสารเรือนกระจกจากโรงไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทในเครือให้ได้ 75% ภายในปี พ.ศ.2593 โดยไทยถือเป็นประเทศทีมีนโยบายส่งเสริมพลังงานทดแทนอย่างชัดเจน ทำให้ซีแอลพีสนใจที่จะเข้ามาลงทุนมากขึ้น


