posttoday

ปลูกฝังคนด้วยซีเอสอาร์ สร้างจิตสำนึกดีสู่สำเร็จ

01 กรกฎาคม 2560

คร่ำหวอดอยู่ในวงการยาและเวชภัณฑ์มายาวนานกว่า 30 ปี สำหรับ ปัญญา กิจเจริญการกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์ค ประเทศไทย

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

คร่ำหวอดอยู่ในวงการยาและเวชภัณฑ์มายาวนานกว่า 30 ปี สำหรับ ปัญญา กิจเจริญการกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์ค ประเทศไทย โดยได้เข้าร่วมงานกับบริษัทมาตั้งแต่ปี 2543 และเข้ารับตำแหน่งดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2555 ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะนำพาเมอร์คฯ ไปสู่การเป็นองค์กรที่เน้นการปฏิบัติงานที่ดี ที่ซึ่งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ลูกค้า ผู้ถือหุ้น ชุมชน และคนไทยสามารถที่จะแบ่งปันความสำเร็จร่วมกัน

เมอร์คฯ องค์กรยาและเวชภัณฑ์สัญชาติเยอรมันที่มีอายุยาวนานกว่า 350 ปีในโลก ซึ่งถือได้ว่าเป็นบริษัทที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและรูปแบบการบริหารงานเป็นแบบธุรกิจครอบครัว หรือแฟมิลี่บิซิเนสถือหุ้น 70% จึงเป็นบริษัทหนึ่งที่ให้ความมั่นคงกับพนักงานได้อย่างมั่นใจ

“องค์ประกอบสำคัญของบริษัทและการทำงานมาจากพนักงาน ดังนั้นการสร้างจิตสำนึกที่ดีให้พนักงานจะนำไปสู่การบริหารงานและองค์กรที่ประสบความสำเร็จ”

ดังนั้นเอง สิ่งหนึ่งที่เป็นแนวทางในการบริหารงานคือ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปลูกฝังแนวความคิดที่เปลี่ยนแปลงจากการมี “จิตอาสา” ให้เป็น “หน้าที่พลเมือง” สร้างจิตสำนึกในการมีส่วนร่วมต่อสังคม

การสร้างวัฒนธรรมองค์กรนี้ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาบุคลากร จากการให้พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม (ซีเอสอาร์) ที่สามารถนำเสนอโครงการ ติดต่อประสานงาน และลงมือปฏิบัติ โดยมีทีมให้คำปรึกษา ซึ่งจะมีการรายงานและประเมินผล โดยคณะผู้บริหารและฝ่ายพัฒนาบุคลากรต่อพัฒนาการลงมือปฏิบัติของพนักงาน

ทั้งนี้ เป็นการปลูกฝังให้พนักงานมาทำงาน ไม่ใช่แค่เพียงมีอาชีพ แต่เมื่อมีอาชีพแล้วยังเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอีกด้วย โดยจากการเก็บข้อมูลของบริษัทพบว่า การจัดอบรมสัมมนา หรือที่เรียกกันว่าการเทรนด์นิ่งระยะเวลาการจดจำสิ่งต่างๆ ที่ได้จะมีเพียง 24 ชั่วโมง จากนั้นก็จะลบเลือนไปเหลือ 80-90% และจำได้น้อยลงเรื่อยๆ จึงมองว่าการสร้างวิธีคิดของพนักงานให้เกิดการพัฒนาและจดจำคือการลงมือทำ

วิธีปฏิบัติทั่วไปของบริษัท เช่น ศึกษาดูงาน อบรม หรืออื่นๆ เหล่านี้ที่บริษัทก็มีทุกอย่าง แต่การได้ทำงานที่เป็นหน้าที่พลเมืองด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ บริษัทเชื่อว่าจะสามารถดึงศักยภาพของบุคลากรหรือพนักงานคนนั้นออกมาได้เป็นอย่างดี เพราะเวลาที่ต้องทำในเรื่องที่ตนเองไม่เคยทำแล้วจะเห็นความคิดที่แตกต่าง จึงเชื่อว่าเป็นการเสริมศักยภาพ เนื่องจากพนักงานคือตัวแทนองค์กรเมื่อต้องมีการติดต่อประสานงานหรือลงพื้นที่ ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรองค์กรต้องเป็นผู้รับผิดชอบเพราะเขาไปในนามของบริษัท

ผมจึงถือว่าเรื่องของการกล่อมเกลาจิตใจพนักงานเป็นเรื่องสำคัญ เสมือนหนึ่งพวกเขาเหล่านั้นเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของบริษัท จึงเป็นที่มาของแนวคิดการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดี

ส่วนตัวจึงใช้หลักนี้เป็นแนวทางในการบริหาร ซึ่งเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องและมีค่าต่อพนักงาน เพราะเราเชื่อว่าไม่ว่าพนักงานเราจะอยู่ที่ไหนก็ตามสิ่งเหล่านี้จะติดตัวเขาไปตลอด รวมถึงจะนำเรื่องดีๆ เหล่านี้ไปเผยแพร่ต่อ และที่สำคัญบริษัทเราโชคดีที่คณะผู้บริหารเห็นแนวทางดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดีและยึดถือนำมาปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม โครงการเพื่อสังคมที่เปิดให้พนักงานเป็นผู้มีส่วนร่วมทุกขั้นตอนในบริษัทมีโครงการเยอะมาก แต่โครงการของบริษัทแตกต่างจากที่อื่นคือ ไม่มีโครงการใดที่เทิร์นกลับมาเป็นผลประโยชน์ทางธุรกิจได้ และถ้ามีเราเลือกที่จะไม่ทำด้วยเพราะไม่ใช่แนวคิดของบริษัท ซึ่งบริษัทไม่ได้อยากได้ธุรกิจหรือผลประโยชน์ใดๆ จากการทำโครงการเพื่อสังคม ดังนั้นจึงไม่มีโครงการไหนเลยที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือการประกอบธุรกิจของบริษัท

ในโอกาสครบรอบ 26 ปีของบริษัทในประเทศไทย จึงได้จัดโครงการ “WE RUN WE FUND วิ่งเติมฝัน” เชิญชวนผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งระยะทาง 5 กม. วันที่ 30 ก.ค.ที่สวนลุมพินี เพื่อมอบรายได้หลักหักค่าใช้จ่ายนำไปจัดซื้อตู้หนังสือเสริมทักษะและอุปกรณ์กีฬา มอบให้โรงเรียนที่ขาดแคลนหรือยากจน 26 โรงเรียนทั่วประเทศ ให้ได้เข้าถึงหนังสือดีที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยและชุดอุปกรณ์กีฬา เพื่อสร้างเสริมพัฒนาทักษะและความคิดสร้างสรรค์ให้เติบโตเป็นบุคลากรที่ดีมีคุณภาพและช่วยพัฒนาสังคมไทย

เหล่านี้เป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้มี “จิตสำนึกที่ดี” เพื่อช่วยกันผลักดันสู่ความสำเร็จ

ข่าวล่าสุด

คดีพลิก สหรัฐฯปลดล็อกขายชิปให้จีน แต่รัฐบาลจีนอาจไม่อยากซื้อ