posttoday

ดัชมิลล์ลุยอี-คอมเมิร์ซ แตกธุรกิจอุปโภคบริโภค

05 มิถุนายน 2560

ถือเป็นการขับเคลื่อนดัชมิลล์ครั้งใหญ่รอบ 33 ปี สำหรับการปรับยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตนอกเหนือจากกลุ่มนม

โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย 

ถือเป็นการขับเคลื่อนดัชมิลล์ครั้งใหญ่รอบ 33 ปี สำหรับการปรับยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตนอกเหนือจากกลุ่มนม ด้วยการแตกบริษัทใหม่ “ทรัสตี้บาย” สร้างขาธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคในกลุ่มเฮลตี้ ไลฟ์สไตล์ ควบคู่กับช่องทางอี-คอมเมิร์ซ กลายมาเป็นคู่แข่งหน้าใหม่ในวงการสินค้าอุปโภคบริโภคที่เตรียมท้าชนยูนิลีเวอร์ พีแอนด์จี หรือกระทั่งโอสถสภาก็ตาม

รายงานข่าวจากบริษัท ดัชมิลล์ เปิดเผยว่า ยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของดัชมิลล์กรุ๊ปในยุคอุตสาหกรรม 4.0 คือเดินหน้าขยายกลุ่มธุรกิจใหม่นอกเหนือจากกลุ่มผลิตภัณฑ์นม โดยต่อยอดไปสู่การเป็นผู้ดำเนินธุรกิจเฮลตี้ ไลฟ์สไตล์ สินค้าเพื่อสุขภาพและไลฟ์สไตล์ครบวงจร เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการขยายฐานธุรกิจของบริษัทให้เติบโตอย่างยั่งยืน รองรับเทรนด์สุขภาพมาแรงทั่วโลก

ทั้งนี้ บริษัทได้จัดตั้งบริษัท ทรัสตี้บาย ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท เมื่อเดือน ส.ค. 2559 เพื่อดำเนินธุรกิจขายสินค้าอุปโภคบริโภคแบรนด์ทรัสตี้บาย (TrustyBuy) ผ่านทางช่องทางอี-คอมเมิร์ซ www.Trustybuy.com มีด้วยกันสินค้า 7 กลุ่มหลัก แบ่งเป็น 3 กลุ่มภายใต้แบรนด์ทรัสตี้บาย ได้แก่ 1.กลุ่มของใช้ในครัวเรือน 2.กลุ่มสินค้าแม่และเด็ก 3.กลุ่มเพื่อสุขภาพและความงาม 4.เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 5.สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 6.สินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ 7.กลุ่มกีฬาและการเดินทาง ส่วนใหญ่เป็นของซัพพลายเออร์ อาทิ ซัมซุง ฟิลิปส์ โซนี่

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์นมในรูปแบบยูเอชทีและพาสเจอไรซ์จำหน่าย 3 กลุ่ม ได้แก่ นมเปรี้ยวพร้อมดื่มดัชมิลล์ นมถั่วเหลืองดีน่า โยเกิร์ต หรือกระทั่งกาแฟพร้อมดื่มอาราบัส สำหรับกลุ่มสินค้าเฮลตี้ ไลฟ์สไตล์ บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาของดัชมิลล์นำร่องด้วยกัน 2 แบรนด์ คือ โปรบิแล็ค รองรับกับสังคมผู้สูงอายุที่เกิดขึ้นในไทย และเอ็นเนอร์จีเจล พาว์ดูแรนซ์ เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ออกกำลังกายและนักกีฬา

ทั้งนี้ ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมูลค่ารวมกว่า 2.4 แสนล้านบาท จะเป็นอีกขาหนึ่งของบริษัทในอนาคต จากปัจจุบันธุรกิจของบริษัทมีช่องทางการขายผ่านทางโมเดิร์นเทรด ร้านค้าปลีกรายย่อย และสาวดัชมิลล์กว่า 6,000 คนในสัดส่วนกว่า 30% สำหรับสินค้าแบรนด์ทรัสตี้บาย บริษัทจะเป็นผู้พัฒนาเองทั้งหมด แต่เป็นการจ้างผลิต ได้เริ่มเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการเมื่อปลายปีที่แล้ว ปัจจุบันมีสินค้าจำหน่ายอยู่ 40 รายการ และเตรียมเปิดตัวธุรกิจใหม่อย่างเป็นทางการในเดือน ก.ค.นี้

ในส่วนของกลุ่มธุรกิจนม ปัจจุบันสร้างรายได้หลักให้กับบริษัทมากกว่า 50% จะยังเดินหน้าพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค อาทิ นมสำหรับกลุ่มคนเมืองที่มีสารอาหารครบถ้วน

ปัจจุบันตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในช่องทางอี-คอมเมิร์ซไทย มีมูลค่า 2,500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.6% ของตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคโดยรวม จำนวนครัวเรือนที่ซื้อสินค้าออนไลน์เติบโตขึ้นทุกปี จากปี 2557 อัตราการเข้าถึงอยู่ที่ 1.4% และปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็น 4.4% ของครัวเรือนในไทย ในอีก 3 ปีข้างหน้าจะขยับขึ้นเป็น 15-20% ของจำนวนครัวเรือนในไทย ปัจจุบันมีบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคไทยหลากรายเริ่มสร้างช่องทางอี-คอมเมิร์ซบ้างแล้ว

สะท้อนได้ว่าอี-คอมเมิร์ซแรงจริงๆ

ข่าวล่าสุด

ครม. ทบทวน EV3 เพิ่มความยืดหยุ่น หนุนไทยสู่ฐานผลิต EV โลก