posttoday

ควบ 2 คลังข้อมูล รับเปิดเสรีเบี้ยประกัน

17 เมษายน 2560

เหตุผลที่ต้องควบรวมกิจการของ 2 หน่วยงาน เพื่อรวมข้อมูลด้านประกันวินาศภัยทั้งระบบเข้าด้วยกัน

โดย...วารุณี อินวันนา

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อนุมัติให้สมาคมประกันวินาศภัยไทยเดินหน้าควบรวม สำนักงานอัตราเบี้ยประกันวินาศภัย (ไอพีอาร์บี) กับบริษัท ไทยอินชัวเรอส์ดาต้าเนท (ทีไอดี) เมื่อเร็วๆ นี้ ให้ตั้งเป็นองค์กรอิสระภายใน 1 ปี

สำหรับสำนักงานอัตราเบี้ยประกันวินาศภัย จัดตั้งโดยสมาคมประกันวินาศภัยไทยเมื่อ พ.ศ. 2546 โดยได้รับความเห็นชอบจากกรมการประกันภัยสมัยนั้น ปัจจุบัน คือ คปภ. เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูล สารสนเทศ สถิติที่สำคัญๆ เกี่ยวกับการประกันวินาศภัยทุกประเภท รวมถึงวิเคราะห์และนำเสนอต้นทุนความเสียหายแก่ธุรกิจ

ขณะที่บริษัท ไทยอินชัวเรอส์ดาต้าเนท จัดตั้งเมื่อ พ.ศ. 2535 ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท ถือหุ้นโดยบริษัทประกันวินาศภัย เพื่อเก็บข้อมูลกลางของธุรกิจประกันวินาศภัยรถยนต์ทั้งภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และภาคสมัครใจ ปัจจุบันมีข้อมูลทั้งหมดประมาณ 1.5 เทระไบต์ หรือ ราวๆ 1.5 ล้านล้านไบต์ หรือกว่า 1,500 กิกะไบต์ โดยสนับสนุนข้อมูลให้กับ คปภ.และกลุ่มธุรกิจ

ทั้งนี้ หลังจากควบรวมกิจการเสร็จ จะเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไทยแลนด์อินชัวรันซ์รีเสริชแอนด์ดีเวลล็อปเม้นท์ (ทีไออาร์ดี) ซึ่งการควบรวมกิจการมีความคืบหน้าไปได้ประมาณ 20% มีสถานะเป็นองค์กรอิสระหรือหน่วยงานกลาง ทำหน้าที่เตรียมความพร้อมด้านสถิติ การคำนวณต้นทุน และอัตราเบี้ยประกันภัย ให้คำปรึกษาแก่ภาคธุรกิจ ในการรับมือกับการเปิดเสรีอัตราเบี้ยประกันภัย โดยจะมีรายได้จากการให้บริการข้อมูลแก่ภาคเอกชน

จุฑาทอง จารุมิลินท เลขาธิการสำนักงานอัตราเบี้ยประกันวินาศภัย กล่าวว่า สำหรับเหตุผลที่ต้องควบรวมกิจการของ 2 หน่วยงาน เพื่อรวมข้อมูลด้านประกันวินาศภัยทั้งระบบเข้าด้วยกัน ให้มีขนาดใหญ่เพียงพอในการนำไปทำการวิเคราะห์ต้นทุนความเสียหายให้เกิดความแม่นยำ กำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสมกับภาคธุรกิจและนำเสนอข้อมูลให้กับภาครัฐได้อย่างรอบด้าน

รวมทั้งยังทำให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน เพราะทั้งสองหน่วยงานทำงานในลักษณะที่คล้ายกัน โดยทางบริษัท ไทยอินชัวเรอส์ดาต้าเนท ทำการเก็บข้อมูล และทางสำนักงานอัตราเบี้ยประกันวินาศภัย จะนำข้อมูลไปวิเคราะห์ เพื่อให้ภาคธุรกิจมีข้อมูลที่มีความสมบูรณ์ในการนำไปให้ใช้เกิดความรวดเร็ว

“เป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศอื่นๆ ที่องค์กรด้านสถิติประกันภัย จะเป็นหน่วยงานอิสระ ทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชน ซึ่งทางภาครัฐ อย่าง คปภ. การนำข้อมูลจาก อินชัวรันส์บูโร ไปใช้ วัตถุประสงค์เพื่อกำกับดูแล แตกต่างจากภาคเอกชนที่จะนำข้อมูลไปใช้ในเชิงธุรกิจ การจัดทำรายงานจึงต้องให้เหมาะสมกับการใช้งาน”จุฑาทอง กล่าว

กี่เดช อนันต์ศิริประภา ผู้อำนวยการสมาคมประกันวินาศภัยไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการควบรวม กล่าวว่า ต้องทำอย่างระมัดระวังเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยพนักงานจาก 2 บริษัท จะถูกโอนย้ายมาอยู่ที่บริษัทใหม่ และทำการพิจารณาฐานเงินเดือนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงการจัดกำลังคนให้เหมาะกับงานใหม่ การกำหนดทุนจดทะเบียนเริ่มต้น การวางโครงสร้างผู้บริหาร และกำหนดคุณสมบัติผู้บริหารระดับสูง มีอิสระในการทำงานภายใต้ข้อมูลที่เป็นจริงและมีประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

“การเปิดเสรีเบี้ยประกันภัย จะต้องใช้ข้อมูลสถิติที่เป็นจริง ไม่สามารถมโน หรือประมาณการได้เหมือนที่ผ่านมา เพราะอาจทำให้บริษัทมีปัญหาทางการเงินได้ และกระทบหมดทั้งอุตสาหกรรม การมีองค์กรข้อมูลที่ ครบถ้วนจะทำให้การทำธุรกิจอิงอยู่บนความเป็นจริง”กี่เดช กล่าว 

สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า จากการศึกษารูปแบบหน่วยงานที่ให้คำแนะนำ และปรึกษา ด้านข้อมูล สถิติ และการทำวิจัยประเทศอื่นๆ พบว่าส่วนใหญ่จะเป็นองค์กรอิสระ ซึ่งทาง คปภ.ก็พร้อมสนับสนุน และเป็นการสนับสนุนให้ภาคธุรกิจกำกับดูแลกันเองมากขึ้น เพื่อรองรับการเปิดเสรี

ทั้งนี้ การกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยภายใต้องค์กรอิสระที่จะถูกจัดตั้งขึ้นใหม่นี้ จะต้องให้มีความเป็นธรรมกับประชาชน เมื่อเกิดเหตุประชาชนจะต้องได้รับการชดใช้อย่างรวดเร็ว และทางบริษัทประกันภัยสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ซันเดอร์แลนด์ พบ นิวคาสเซิ่ล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68