G = Good Governance ทำงานอย่างโปร่งใส

ก่อนหน้านี้ ผมเคยเล่าถึง Gold Value ที่ประกอบไปด้วย G = Good Governance, O = Open-Minded, L = Learning Organization และ D = Drive For Excellence ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการหล่อหลอมคนที่มาจากหลากหลายให้กลายเป็นทองแผ่นเดียวกัน ครั้งนี้ ผมขอลงลึกถึงความหมายของ Gold Value ตัวที่ 1 นั่นก็คือ G = Good Governance ซึ่งถ้าเอ่ยถึงคำว่าGood Governance ทุกคนก็คงทราบว่า หมายถึงอะไร

นิยามอย่างเป็นทางการจากหลายหน่วย Good Governance ก็คือ หลักธรรมาภิบาล ที่เป็นแนวทางจัดระเบียบให้ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชนและภาคประชาชน อยู่ร่วมกันได้ และตั้งอยู่ในความถูกต้องเป็นธรรม ตามหลักพื้นฐานการบริหารกิจการบ้านเมือง (ที่มา : Set.or.th)

ส่วนมุมของภาคเอกชน ในฐานะผู้ปฏิบัติ Good Governance ก็คือ การทำงานที่ตรวจสอบได้ มีจรรยาบรรณ มีมาตรฐาน ซึ่งผมถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่ผู้ประกอบการภาคเอกชนต้องมี แต่สิ่งที่ผมอยากเสริม คือ Good Governance คงไม่ได้หมายความถึงแค่หลักปฏิบัติที่เคร่งครัด เพื่อให้แค่เกิดความถูกต้องตามระเบียบ เช่น การจัดซื้อต้องมีการเปรียบเทียบราคา ต่อรองราคาที่ต่ำที่สุด เพราะการที่เรามีกฎระเบียบเข้มจนเกินไป การทำงานจริง ก็อาจจะไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีก็ได้

ฉะนั้น การที่บอกว่า Good Governance คือ การทำถูกต้องตามระเบียบราชการทั้งหมด แล้วก็จบ คงไม่ใช่ เพราะคำว่า Good Governance ของผม หมายถึง ตั้งใจทำงาน การที่จะทำให้ทุกคนในองค์กร และพนักงาน ตั้งใจทำงาน มีจรรยาบรรณ และมีความจริงใจกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ก่อสร้าง การทำงานที่มีคุณภาพ การที่เราไม่หลอกลวงลูกค้า

การที่เราจะทำอย่างนั้นได้ เราก็ต้องทำให้ถูกต้องตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ทำผิดให้ถูก หรือไม่ใช่การแก้ผ้าเอาหน้ารอด หรือลูบหน้าปะจมูก Good Governance ต้องจริงใจ ผิดก็ต้องแก้ไข ทำอย่างไรให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสินค้าและบริการ จริงใจกับผู้ถือหุ้น นั่นคือสิ่งที่เราปลูกฝังให้กับพนักงาน ไม่ใช่การทำตามกฎระเบียบแบบไม่คิด ทำแต่ตามตัวหนังสือ หรือดันทุรังยืนยันว่าได้ทำตามกฎแล้ว บางทีก็ไม่ตอบโจทย์

แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ผมว่า เราก็ควรต้องมี Good Governance ผมมีเรื่องเล่าที่อยากแบ่งปัน เมื่อไม่นานมานี้ โกลเด้นแลนด์ จัดกิจกรรมโกลเด้นแลนด์ วิ่งตามรอยพ่อระหว่างวันที่ 9 ม.ค.9 มี.ค.ที่ผ่านมา ให้พนักงานวิ่งสะสมระยะทางรวม 9,999 กม. แล้วบริษัทจะบริจาคเงิน 10 บาท ในทุก 1 กม.ให้การกุศล ซึ่งผมก็ให้พนักงานที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ตั้งเป้าเป็นของตัวเอง แล้ววิ่งตามเป้าให้ได้ภายใน 2 เดือน

พอผมประกาศออกไป หลายคนตั้งคำถามกับผมว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าพนักงานวิ่งได้ตามเป้าหมายที่ตัวเองประกาศไว้จริง วัดผลการวิ่งยังไง ผมก็บอกไปว่า ก็ใช้แอพพลิเคชั่นวิ่งที่มีให้บริการทั่วไป ไม่ได้มีแอพพลิเคชั่นพิเศษอะไรขององค์กรที่วัดผลแบบเอาเป็นเอาตาย แต่เขาจะวิ่งได้จริงๆ ตามนั้นหรือไม่ หรือ ให้ใครวิ่งแทน ก็ยากจะรู้

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมพูดกับพนักงานเสมอเมื่อมีโอกาสเจอเวลานัดกันไปวิ่งคือ เราต้องมี Good Governance แค่เรื่องตั้งเป้าวิ่ง และวิ่งให้ถึงตามเป้าหมายอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บางคนไม่มีเวลา บางคนวิ่งไม่ไหว อยากให้คนอื่นวิ่งแทน แล้วเก็บบันทึกระยะทางมาส่ง ผมก็บอกว่าถ้าเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ เรายังไม่สามารถมี Good Governance ได้ ก็ยากที่เรื่องใหญ่ๆ เราจะมี Good Governance ได้จริง

ดังนั้น Good Governance ในมุมมองของผม มันจึงเป็นเรื่องของความซื่อสัตย์และจริงใจ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเราเอง ซึ่งต้องมีในทุกเรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องการทำงาน แต่แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันก็ควรมี Good Governance เป็นแนวทางในการใช้ชีวิตด้วย ซึ่งผมเชื่อเหลือเกินว่า ถ้าทุกคนมี Good Governance เป็นหลักปฏิบัติ จะไม่ใช่แค่องค์กรเอกชนที่เขาทำงานอยู่จะดี แต่สังคมของเราก็จะดีด้วย