การตรวจสอบสาธารณูปโภค ก่อนตั้งนิติบุคคลบ้านจัดสรร (จบ)
โดย..กรมที่ดิน
โดย..กรมที่ดิน
จากฉบับที่แล้วเมื่อมีการแก้ไข พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 โดยการออก พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 ที่บัญญัติให้สาธารณูปโภคในโครงการจัดสรรที่ดินตกเป็นของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรทันที ที่จดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร อาจทำให้ลูกบ้านไม่ทันได้ตรวจสอบสาธารณูปโภคต่างๆ ก่อนรับโอน ที่ผ่านมาพบว่าเจ้าของโครงการและลูกบ้านมักจะมีข้อพิพาทเกี่ยวกับการบำรุงรักษาสาธารณูปโภคให้เห็นเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง
กรมที่ดินตระหนักถึงปัญหาในเรื่องดังกล่าว จึงได้กำหนดมาตรการเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ซื้อที่ดินจัดสรรในการใช้ประโยชน์จากสาธารณูปโภคในโครงการจัดสรร ฉบับใหม่ล่าสุด ได้แก่ ระเบียบคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง ว่าด้วยการโอนสาธารณูปโภคให้แก่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร หรือนิติบุคคลตามกฎหมายอื่น และการขออนุมัติดำเนินการเพื่อการบำรุงรักษาสาธารณูปโภค หรือดำเนินการจดทะเบียนโอนทรัพย์สินให้เป็นสาธารณประโยชน์ พ.ศ. 2559 ที่ประกาศใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2559 ได้แก่ การกำหนดให้เจ้าของโครงการหรือผู้จัดสรรที่ดินที่ประสงค์จะพ้นหน้าที่การดูแลบำรุงรักษาสาธารณูปโภค ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบสาธารณูปโภคว่ายังคงมีสภาพดังเช่นที่ได้จัดทำขึ้นและสามารถใช้ประโยชน์ได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักประกันว่าเจ้าของโครงการหรือผู้จัดสรรที่ดินจะต้องดูแลบำรุงรักษาสาธารณูปโภคให้อยู่ในสภาพที่ดีและสามารถใช้ประโยชน์ได้จนถึงวันที่จะพ้นหน้าที่การดูแลบำรุงรักษา หากปรากฏว่ามีสาธารณูปโภคที่ชำรุดหรือไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้
ผู้จัดสรรที่ดินมีหน้าที่ต้องบูรณะซ่อมแซมให้กลับคืนสู่สภาพดังเช่นที่ได้จัดทำขึ้น และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วจึงจะออกหนังสือรับรองการตรวจสอบให้แก่ผู้จัดสรรที่ดิน เพื่อใช้ในการดำเนินการตามกฎหมายจัดสรรที่ดินในการขอพ้นหน้าที่บำรุงรักษาสาธารณูปโภคต่อไป
กรณีตัวอย่าง บริษัท เพชรทวีสุข ต้องการพ้นจากหน้าที่บำรุงรักษาสาธารณูปโภคในโครงการเพชรทวีสุข คณะกรรมการจัดสรรที่ดินกรุงเทพมหานคร จึงได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบการจัดให้มีสาธารณูปโภคหรือบริการสาธารณะ หรือการปรับปรุงที่ดินกรุงเทพมหานคร คณะที่ 1 ออกไปตรวจสอบสาธารณูปโภคในโครงการดังกล่าว ซึ่งในการตรวจสอบผู้จัดสรรที่ดินได้แจ้งให้ลูกบ้านเข้าร่วมตรวจสอบตามข้อกำหนดของคณะกรรมการที่ต้องการให้ทำงานแบบบูรณาการร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย ประกอบด้วยผู้จัดสรรที่ดิน ลูกบ้าน และคณะกรรมการ จากการตรวจสอบสามารถออกหนังสือรับรองการตรวจสอบสาธารณูปโภคได้ จากนั้นผู้จัดสรรที่ดินสามารถนำหนังสือรับรองดังกล่าว ไปประกอบการขอพ้นหน้าที่บำรุงรักษาสาธารณูปโภค ตามมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 ได้ต่อไป
จากนี้ไปหากทุกฝ่ายได้ร่วมกันทำหน้าที่ด้วยคุณธรรม โครงการจัดสรรที่ดินจะเป็นชุมชนน่าอยู่ด้วยคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี


