รายได้ไม่แน่นอน...กู้ยาก
ชีวิต “ฟรีแลนซ์” ที่แสนจะอิสระไม่ต้องตื่นเช้า ฝ่ารถติด ไปตอกบัตรให้ทันเวลา สบายกว่า “มนุษย์เงินเดือน” เยอะเลย แต่ความสบายก็ต้องแลกมาด้วยความเสียเปรียบบางอย่าง
ชีวิต “ฟรีแลนซ์” ที่แสนจะอิสระไม่ต้องตื่นเช้า ฝ่ารถติด ไปตอกบัตรให้ทันเวลา สบายกว่า “มนุษย์เงินเดือน” เยอะเลย แต่ความสบายก็ต้องแลกมาด้วยความเสียเปรียบบางอย่าง
หนึ่งในนั้น คือ การขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นกู้ซื้อรถ กู้ซื้อบ้าน กู้สินเชื่อบุคคล หรือแม้แต่จะมีบัตรเครดิตสักใบ ก็ดูจะวุ่นวายและยุ่งยากไปหมด เพราะขาดหลักฐานสำคัญที่เจ้าหนี้รายไหนๆ ก็อยากได้ นั่นคือ “หลักฐานแสดงรายได้” และโดยมากก็มักจะเรียกหา “สลิปเงินเดือน”
อยู่เสมอ
เหมือนกับที่ ฉัตรพงศ์ วัฒนจิรัฏฐ์ ผู้บริหาร K-Expert ธนาคารกสิกรไทย บอกว่า ปัญหาเฉพาะของกลุ่มฟรีแลนซ์ คือ การสมัครผลิตภัณฑ์การเงิน บัตรเครดิต บ้าน รถ สินเชื่อบุคคล ที่จะได้รับอนุมัติยาก เพราะไม่มีสลิปเงินเดือน
“ธนาคารจะดูรายได้ที่เข้ามาเป็นประจำ ซึ่งฟรีแลนซ์มักจะมีรายได้ไม่สม่ำเสมอ และพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีเงินเข้ามาต่อเนื่องจึงอนุมัติสินเชื่อยาก และถึงแม้จะได้รับการอนุมัติ แต่ก็จะได้วงเงินน้อย”ฉัตรพงศ์ กล่าว
นอกจากจะขอสินเชื่อได้ยาก ฉัตรพงศ์ บอกว่า การขอสินเชื่อได้ยากยังกระทบเรื่องการบรรลุเป้าหมายอื่นๆ ในชีวิตอีกด้วย เช่น ไม่สามารถกู้ซื้อบ้านหรือซื้อรถได้ด้วยตัวเอง ก็ต้องหาคนมากู้ร่วม หรือต้องใช้ชื่อคนที่ไว้ใจได้มาสวมรอยเป็นคนซื้อแทน
“ทำให้ฟรีแลนซ์ไม่สามารถดูแลการเงินของตัวเองได้เต็มที่เหมือนคนที่มีรายได้ประจำ”ฉัตรพงศ์ กล่าว
เพื่อให้เห็นภาพเพิ่มขึ้นอีกหน่อยก็ต้องเข้าไปเจาะในสินเชื่อบางประเภทจากสถาบันการเงินบางแห่งว่ามีข้อกำหนด หรือเงื่อนไขการกู้เงินระหว่างคนมีรายได้ประจำกับคนที่มีรายได้ไม่แน่นอนอย่างไรบ้าง
เริ่มจากสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทย หรือ K-Express Cash ของธนาคารกสิกรไทย ที่ระบุคุณสมบัติผู้สมัครเอาไว้ว่า
ผู้มีรายได้ประจำ ต้องมีอายุ 22-60 ปี แต่ถ้าเป็นผู้ประกอบการ (ซึ่งขอจัดให้อยู่ในกลุ่มคนที่มีรายได้ไม่แน่นอน) จะกู้ได้ตั้งแต่อายุ 22-65 ปี
ขณะที่กำหนดรายได้ขั้นต่ำที่สามารถขอสินเชื่อประเภทนี้เอาไว้ต่างกัน โดยผู้มีรายได้ประจำขอเพียงมีรายได้ขั้นต่ำเดือนละ 1.5 หมื่นบาทขึ้นไป แต่ถ้าเป็นผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว จะต้องมีรายได้สุทธิ
(แปลว่า รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย) ต่อเดือนตั้งแต่ 2 หมื่นบาทขึ้นไป
มาดูที่สินเชื่อกรุงไทย Super Easy แม้จะกำหนดเงินเดือนขั้นต่ำไว้ 2 หมื่นบาท เท่ากับรายได้สุทธิของผู้ประกอบการรายย่อย แต่ถ้าเป็น “พนักงานที่มีเงินเดือนประจำ” กำหนดอายุงานไม่น้อยกว่า 1 ปี ขณะที่ “ผู้ประกอบการรายย่อย” ต้องประกอบกิจการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
สำหรับวงเงินให้กู้ จะให้พนักงานที่มีเงินเดือนประจำกู้ได้ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ปัจจุบัน สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท แต่ผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยทั่วไปให้วงเงินกู้ได้ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้สุทธิ (เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 6 เดือน) สูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาท
อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินหลายแห่งไม่ได้กำหนดคุณสมบัติแตกต่างกันมาก แต่ขอเพียงอย่างเดียว คือ หลักฐานแสดงรายได้ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย สำเนาใบยื่นเสียภาษีประจำปี (ภ.ง.ด.) สำเนาใบแจ้งยอดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
เพราะฉะนั้น แม้ว่าจะไม่มีรายได้ประจำ ไม่มีเงินเดือน ก็ต้องเก็บหลักฐานแสดงรายได้ที่ชัดเจน ดังนั้นทุกครั้งที่มีรายได้เข้ามาควรนำไปเข้าบัญชีเงินฝาก และถ้าจะให้ดีต้องนำสมุดเงินฝากไปปรับยอดบ่อยๆ ไว้ใช้เป็นหลักฐานประกอบการขอสินเชื่อ


