เฟรชเก็ตแจ้งเกิด สื่อกลางสินค้าเกษตร
การซื้อการขายสินค้าเกษตร อาหารสดในช่วงที่ผ่านมา ต้องผ่านหลายกลไกของตลาด แต่การเปิดตัวของเว็บไซต์เฟรชเก็ตอย่างเต็มระบบในเดือน ม.ค.นี้
โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย
การซื้อการขายสินค้าเกษตร อาหารสดในช่วงที่ผ่านมา ต้องผ่านหลายกลไกของตลาด แต่การเปิดตัวของเว็บไซต์เฟรชเก็ตอย่างเต็มระบบในเดือน ม.ค.นี้ คือการดำเนินธุรกิจเว็บไซต์ตลาดสดออนไลน์ เพื่อเป็นสื่อกลางดีลตรงการซื้อขายระหว่างเกษตรกรกับร้านอาหารในไทย และวางแผนในอีก 18 เดือนข้างหน้าจะก้าวสู่การเป็นตัวกลางซื้อขายในระดับอาเซียน
พงษ์ลดา พะเนียงเวทย์ ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มเฟรชเก็ต (FreshKet) เปิดเผยว่า แพลตฟอร์มเฟรชเก็ตหรือตลาดสดออนไลน์ เว็บไซต์สื่อกลางการซื้อขายระหว่างร้านอาหารและซัพพลายเออร์สินค้าเกษตรและโรงงานโดยตรงไม่ต้องผ่านพ่อค้าแม่ค้าคนกลาง หลังจากคว้ารางวัลสุดยอดสตาร์ทอัพไทย ปี 2016 จากเวที Demo Day Batch 4 จากการเป็นตัวกลางที่มาช่วยให้สินค้าเกษตรขายได้ในราคาดีขึ้นโดยเฉลี่ย 5-10% และขณะเดียวกันร้านอาหารก็ได้สินค้าราคาถูกลงด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเป็นการตัดตอนกลไกตลาดผ่านพ่อค้าคนกลางไปได้ในระดับหนึ่ง
นับตั้งแต่การเปิดตัวเว็บไซต์เมื่อต้นปี 2559 เฟรชเก็ตเติบโต 46% ทั้งทางด้านรายได้ที่ชัดเจน รวดเร็ว และเติบโตต่อเนื่องทุกเดือน และเดือน ม.ค.วางแผนเปิดเว็บไซต์ www.freshket.com อย่างเต็มระบบ เบื้องต้นมีซัพพลายเออร์ 20 ราย แบ่งเป็น ซัพพลายเออร์รายเล็กมีสินค้านิชมาร์เก็ตแปลกและใหม่สัดส่วน 50% เพื่อสร้างสีสันและทำให้เว็บไซต์ของเราดูแตกต่างจากคู่แข่ง ส่วนซัพพลายเออร์รายใหญ่ระดับโรงงานส่งสินค้าไปจำหน่ายต่างประเทศสัดส่วน 50%
สำหรับร้านอาหารเบื้องต้นมีราว 50 แห่ง เน้นกลุ่มอาหารญี่ปุ่นและตะวันตกเป็นหลัก ช่วงแรกเริ่มให้บริการ 4 โซน ได้แก่ ทองหล่อ เอกมัย สาทร และสีลม ในขั้นตอนแรกเริ่มทดลอง 60 วัน
“เฟรชเก็ตต้องการเป็นตลาดสดออนไลน์ที่มีชื่อเสียงทางด้านคุณภาพของสินค้า หลักการคัดเลือกซัพพลายเออร์ของเรา ต้องมีวัตถุดิบมีคุณภาพ สามารถบริการจัดส่งสินค้าในโซนกำหนดได้”
ซัพพลายเออร์จะแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.โลคัลฟู้ดส์เซอร์วิส หรือนำสินค้าจากตลาดค้าส่งมาคัดและส่ง 2.ผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ 3.โรงงาน และ 4.เกษตรกร โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ส่วนร้านอาหารการคัดเลือกระดับบีขึ้นไป หรือร้านที่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบอาหารที่มีคุณภาพ พร้อมลงทุนซื้อวัตถุดิบ โดยอัตราค่าใช้จ่ายภายในร้าน 500 บาท/คน/บิล
อย่างไรก็ดี เป้าหมายของตลาดสดออนไลน์ คือ ต้องการขยายซัพพลายเออร์ทั้งหมด 300 ราย และร้านอาหารให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมด 800 แห่ง หลังจากนั้นวางแผนขยายไปสู่หัวเมืองหลักในตลาดต่างจังหวัดต่อไป
ขณะที่ในเดือน มิ.ย.นี้ วางแผนลงทุนทางด้านคลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์เป็นของเฟรชเก็ต จากปัจจุบันซัพพลายเออร์เป็นผู้จัดส่งสินค้าเอง เนื่องจากมองว่าการมีคลังสินค้าและมีผู้ดูแลวัตถุดิบอาหารต้องใช้อุณหภูมิแตกต่างกัน ช่วยให้สินค้ามีคุณภาพสดใหม่ถึงมือร้านอาหารมากกว่า
นอกจากนี้ ยังวางแผนเปิดระบบเพย์เมนต์ เกตเวย์ หรือการทำระบบธุรกรรมทางออนไลน์ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ซื้อและขายสินค้าในโลกออนไลน์
พงษ์ลดา กล่าวว่า ความโดดเด่นของเฟรชเก็ตไม่ใช่เป็นเพียงเว็บไซต์เชื่อมโยงระหว่างซัพพลายเออร์กับผู้ซื้อสินค้าเท่านั้น แต่ด้วยระบบวางไว้ทำให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบราคาสินค้าได้อย่างแท้จริง เพราะราคาสินค้าเกษตร เนื้อสัตว์ มีการแปรผันในแต่ละวันไม่เหมือนกัน
ขณะเดียวกัน ระบบยังจัดเก็บข้อมูลการซื้อ เพื่อทำให้ทางร้านอาหารสามารถคำนวณปริมาณการใช้ได้อย่างถูกต้อง ช่วยลดต้นทุนสอดรับกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว พฤติกรรมผู้บริโภคชะลอการกินอาหารนอกบ้าน การสต๊อกวัตถุดิบจำนวนมากเพราะนอกจากสินค้าไม่สดใหม่แล้ว ยังเสี่ยงต่อการเน่าเสียได้อีก
“ต้นทุนของสินค้าถือว่าเป็นกลไกสำคัญในการบริหารจัดการทางร้านอาหาร ซึ่งสามารถเช็กราคาได้วันต่อวัน โดยเฟรชเก็ตเป็นผู้ควบคุมระบบทั้งหมด อีกทั้งยังดูแลคุณภาพสินค้าให้สด ใหม่ ด้วยการนำความเชี่ยวชาญการดูแลรักษาอุณหภูมิของสินค้าแต่ละชนิดมาเสริมบริการต่อไปในอนาคต”
ด้านการแข่งขันธุรกิจมาร์เก็ตเพลส ตลาดสดออนไลน์ ปัจจุบันมีคู่แข่งอย่างน้อย 3 ราย ได้แก่ แฮปปี้เฟรช, เทสโก้ โลตัส ออนไลน์ และบิ๊กซี ออนไลน์ ส่วนใหญ่เป็นการทำลักษณะบีทูซี หรือการจำหน่ายอาหารสดให้กับผู้บริโภค ทำให้ธุรกิจไม่ได้แข่งขันอย่างรุนแรง เพราะไม่ใช่คู่แข่งทางตรงเสียทีเดียว ทำให้เฟรชเก็ตมีช่องว่างเข้ามาทำตลาดได้และเติบโตอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ เฟรชเก็ตมีการวางโพสิชั่นนิ่งชัดเจนว่า เป็นตลาดสดซื้อขายโดยตรงระหว่างซัพพลายเออร์กับร้านอาหาร หรือบีทูบี มีการจัดเก็บข้อมูลเพื่อให้ร้านค้าสามารถเช็กการสั่งซื้อสินค้า จึงมั่นใจว่าลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการ สำหรับรายได้เฟรชเก็ตคิดเป็นสัดส่วน 2% ของการขายซัพพลายเออร์ ถือว่าไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับกลไกตลาดแบบเดิมๆ
คีย์ซัคเซสในการทำตลาดดออนไลน์ของพงษ์ลดา เริ่มต้นจากความหลงใหลจากครอบครัวเป็นผู้ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตรมาก่อน และรับรู้ถึงปัญหาของเกษตรกร การจำหน่ายสินค้าได้ราคาต่ำ เพราะด้วยกลไกตลาดผ่านหลายขั้นตอน เฟรชเก็ตจึงเข้ามาช่วยแก้ปัญหา
“หัวใจสำคัญของเฟรชเก็ต กลุ่มสตาร์ทอัพที่ก้าวมาถึงทุกวันนี้ได้ มาจากคำว่า ทีมเวิร์ก พวกเรามีทีมงานทั้งหมด 17 คน มีความมุ่งมั่นทำงานตั้งแต่เริ่มไม่มีวันหยุด และทำงานมากกว่าเวลางานเสียอีก”
ปัจจุบันเว็บไซต์มีผู้เข้าเยี่ยมชม 3,000 คน การซื้อสินค้าระหว่างซัพพลายเออร์ 5,000 บาท/วัน และความถี่การซื้อสินค้าต่อเนื่องถึง 20 วัน ใน 1 เดือน เชื่อว่าไม่นานเกินรอ เฟรชเก็ต สตาร์ทอัพไทย จะเป็นหนึ่งในกลไกที่ช่วยนำพาสินค้าเกษตร อาหารสดของไทยส่งข้ามแดนบุกตลาดอาเซียนได้อย่างแน่นอน เพราะนั่นคือเป้าหมายต่อไป
ในอนาคตเป้าหมายของเฟรชเก็ตนั้น ไม่ได้หยุดที่อาเซียน แต่วางเป้าหมายว่าต้องการเป็นศูนย์กลางการส่งออกสินค้าเกษตรของโลก จากการเป็นตัวกลางระหว่างซัพพลายเออร์กับร้านอาหาร โดยมีจุดที่ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มและร้านอาหารได้สินค้าในราคาถูกลง เป็นตัวขับเคลื่อนให้ทั้งร้านอาหารและซัพพลายเออร์เข้ามาใช้บริการเพิิ่มขึ้น
“ยิ่งอาหารไทยติดอันดับต้นๆ ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกแล้ว จึงมีความต้องการวัตถุดิบจากไทยอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่จุดพลุให้เฟรชเก็ตแจ้งเกิดตลาดโลกได้อย่างแน่นอน”


