'ภูพบฟ้า'ลุยเขาใหญ่

หลังรองนายกฯไฟเขียวเหตุโดนเจ้าหน้าที่รัฐกลั่นแกล้ง

ภูพบฟ้า พร้อมเดินหน้าโครงการ เดอะ เครสตัน ฮิลส์ เขาใหญ่ หลังได้หนังสือรับรองขอความเป็นธรรมจากรองนายกรัฐมนตรี ถูกกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ 

นายนิพนธ์ ปิ่นศรีศิริรัตน์ กรรมการ บริษัท ภูพบฟ้า ผู้พัฒนาโครงการที่พักอาศัยหรูโครงการเดอะ เครสตัน ฮิลส์ เขาใหญ่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ข้อยุติกรณีพิพาทระหว่างบริษัทกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเรื่องการสร้างแนวรั้วโครงการรุกล้ำเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และเขตป่าไม้ถาวรที่ยืดเยื้อมากว่า 1 ปี หลังจากได้ทำหนังสือร้องเรียนต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพื่อขอความเป็นธรรมเนื่องจากถูกกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ

ทั้งนี้ ได้มีการอนุมัติให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารงานจังหวัด เป็นผู้รับผิดชอบเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย กรมที่ดิน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กองบังคับการตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา กองทัพภาคที่ 2 และบริษัท เข้าร่วมตรวจสอบเขตที่ดินแนวรั้วโครงการพร้อมกันแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา และได้ทำรายงานผลการตรวจสอบให้ พล.อ.ประวิตร รับทราบเมื่อ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา จนได้รับหนังสือตอบกลับการตรวจสอบที่ดิน จากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า บริษัทไม่ได้รุกล้ำที่ดินเนื้อที่ 1.98 ไร่ เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 

“ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ต่อสู้เพื่อความชอบธรรมว่าไม่รุกล้ำพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และเขตป่าไม้ถาวร ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวทำให้บริษัทสูญเสียโอกาสทางรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท แล้วยังส่งผลกระทบกับชื่อเสียงโครงการเป็นอย่างมาก และต้องการทำให้เป็นตัวอย่างกับบริษัทพัฒนาอสังหาฯ รายอื่นเพื่อต่อสู้เพื่อสิทธิและความถูกต้อง”

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทได้โฉนดที่ดินมาจากการซื้อที่ บริษัทได้มีการตรวจสอบแล้วพบว่า ทุกแปลงมีเอกสารสิทธิที่ดินได้มาจาก สค.1 นับตั้งแต่ปี 2498 และที่ดินทั้งโครงการ 20 แปลง หรือ 200 ไร่ไม่ได้อยู่ในเขตป่าไม้ถาวร โดยบริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการในรูปแบบบ้านพักหรูร่วมสมัยแบบอเมริกันบนพื้นที่ 200 ไร่ โอบล้อมภูเขา มีบ้านทั้งหมด 57 หลัง โดยเป็นการขายที่ดินเปล่าและสร้างแบบบ้าน 4 แบบ ราคาขายเฉพาะที่ดินเริ่มต้น 6.5-8.5 หมื่นบาท/ตารางวา ซึ่งราคาขายเฉพาะที่ดินเปล่าเริ่มต้น 30 ล้านบาท/1 ไร่ ส่วนราคาบ้านจะอยู่ที่ 30-40 ล้านบาท

โครงการดังกล่าวจะพัฒนาออกเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกมีเนื้อที่ 99 ไร่ สามารถขายไปแล้ว 7 แปลง หรือคิดเป็น 10% ของจำนวนบ้านที่เปิดขาย ส่วนเฟส 2 จะพัฒนาเป็นโครงการทาวน์โฮม และเฟส 3 เนื้อที่ 31 ไร่ จะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ โดยในส่วนของเฟส 2 และ 3 นั้น อยู่ระหว่างการออกแบบ