posttoday

มั่นใจเที่ยวถนนข้าวสารโตต่อ บัดดี้กรุ๊ปลุยลงทุนใน-นอกพื้นที่

10 พฤศจิกายน 2559

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

บรรยากาศถนนข้าวสารในช่วงเวลาแห่งความเศร้าของคนไทยอาจดูไม่คึกคักนัก เพราะภาคธุรกิจต่างก็ยังงดกิจกรรมบันเทิง หรือเปิดเพลงรื่นเริงตามที่รัฐขอความร่วมมือ ทว่าระยะยาวแนวโน้มธุรกิจท่องเที่ยวบนถนนข้าวสารยังสดใสอยู่ในสายตาผู้ประกอบการ ทำให้กล้าเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง

สง่า เรืองวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัดดี้ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. ที่ผ่านมา ธุรกิจย่านถนนข้าวสารเติบโต 25% แม้ว่าหลังพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต วันที่ 13 ต.ค. ทำให้บรรยากาศเมืองไทยเศร้าโศก ธุรกิจงดจัดงานรื่นเริง สังสรรค์ต่างๆ สถานบันเทิงงดการเล่นดนตรีสดหรือเปิดเพลง คงไว้แต่บริการอาหารและเครื่องดื่ม ทำให้รายได้ธุรกิจย่านถนนข้าวสารในเดือน ต.ค. ลดลง 50-60%

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังวันที่ 14 พ.ย. ไปแล้วที่รัฐบาลให้กลับมามีงานรื่นเริง ความคึกคักของธุรกิจจะค่อยๆ กลับมา คนไทยจะเริ่มกลับมาย่านถนนข้าวสาร นักท่องเที่ยวต่างชาติที่พักย่านนี้จะใช้เวลาอยู่นานขึ้น ต่างจากเดือนที่ผ่านมาที่อยู่สั้นๆ แล้วไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านแทน ทำให้ภาพรวมทั้งปีนี้ยังโตได้ 15% ส่วนอัตราเข้าพักเฉลี่ยโรงแรมในเครือย่านนี้ทั้งปีน่าจะจบที่ 75% ต่ำกว่าปีก่อนที่มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 85% โดยหากไม่มีเหตุการณ์ใดๆ อัตราเข้าพักปีนี้อาจจบที่ 90%

“จุดขายของถนนข้าวสารคือเรื่องความบันเทิง ราคาห้องพักถูก มีให้เลือกตั้งแต่ 200-2,000 บาท อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง จึงเชื่อว่าการท่องเที่ยวถนนข้าวสารยังโตได้อีก โดยบัดดี้ กรุ๊ป ก็ยังเดินหน้าลงทุนในถนนข้าวสารอย่างต่อเนื่อง”

สง่า กล่าวว่า ได้เตรียมงบ 5 ล้านบาท สำหรับลงทุนในโรงแรม 3 แห่งในย่านถนนข้าวสาร จากที่มี 4 แห่งในย่านนี้ เพื่อเพิ่มเติมองค์ประกอบสำคัญรองรับการนำโรงแรมขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม ออกมาวันที่ 19 ส.ค. 2559 โดยให้เวลา 2 ปี ในการดัดแปลงปรับปรุงอาคารให้ถูกต้องตามเกณฑ์ก่อนขอใบอนุญาตให้ได้ภายใน 5 ปี ขณะที่โรงแรมอีกแห่งคือ โฮเทล เดอ ม็อค ไม่ได้ปรับปรุงเพราะได้รับใบอนุญาตถูกกฎหมายอยู่แล้ว

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างลงทุนร้านอาหารและเครื่องดื่มใหม่ย่านถนนข้าวสาร จากเดิมมีในย่านนี้ 8 ร้าน และมีอยู่ย่านสามเสน 1 ร้าน (กินลมชมสะพาน) โดยร้านใหม่ที่ลงทุนชื่อ วัน แอท ข้าวสาร คาดว่าเปิดให้บริการได้ทันเทศกาลคริสต์มาสนี้

ขณะเดียวกัน บริษัทจะเริ่มกระจายการลงทุนไปยังนอกพื้นที่ถนนข้าวสารชัดเจนขึ้น เช่น บริษัทย่อยของบัดดี้ กรุ๊ป ไปร่วมลงทุนกับกลุ่มวายจี ฟู้ดส์ บริษัทย่อยภายใต้ วายจี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ บริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่เกาหลีใต้ที่มีศิลปินชื่อดังอย่าง ไซ กังนัมสไตล์ และบิ๊กแบง รวมทั้งร่วมทุนบริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป เปิดบริษัท วายจี ฟู้ดส์ เอเชีย ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ภัตตาคาร ผับ บาร์ ไนต์คลับ เปิดตัว 6 ร้านแรกในพื้นที่วายจี รีพับบลิค รวม 5,000 ตารางเมตร อยู่ชั้นบนสุดเป็นพื้นที่เปิดโล่งในห้างโชว์ดีซี พระราม 9

ทั้งนี้ บริษัทย่อยของบัดดี้ กรุ๊ป ร่วมลงทุนในบริษัท วายจี ฟู้ดส์ เอเชีย 25% และจะมีบริษัทย่อยอีกแห่งของบัดดี้ กรุ๊ป บริหารพื้นที่นี้ คาดว่าจะเริ่มเปิดตัวเป็นทางการได้เดือน ก.พ. 2560 สำหรับร้านที่เปิด ได้แก่ 1.บุชเชอร์ บาร์บีคิว 2.เค ผับ เป็นผับบาร์สไตล์เกาหลีใต้ 3.สตรีท บาร์ ซึ่งเป็นบาร์ที่จำหน่ายโซจูแบบเกาหลีใต้ 4.บิ๊กแบง คาเฟ่ เป็นร้านเครื่องดื่มและเบเกอรี่ แบรนด์ของศิลปินบิ๊กแบง 5.วายจี
คลับ และ 6.วายจี เซอร์วิเนียร์ จำหน่ายสินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับศิลปินค่ายวายจี เอ็นเตอร์เทนเมนต์

สง่า กล่าวว่า ตั้งเป้าหมายผลักดันวายจี รีพับบลิค ให้เป็นแหล่งบันเทิงแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ โดยบัดดี้ กรุ๊ป มีประสบการณ์บริหารจัดการร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งสถานบันเทิงย่านถนนข้าวสารมานาน จึงมั่นใจว่าจะผลักดันให้ธุรกิจบริษัท วายจี ฟู้ดส์ เอเชีย ขยายตัวทั้งในไทยและในอาเซียน หลังจากเปิด 6 ร้านในวายจี รีพับบลิค ที่โชว์ดีซีแล้ว ก็วางแผนว่าจะนำร้านที่มีศักยภาพในกลุ่ม 6 ร้านนี้ไปขยายสาขาอีก ในลักษณะการแยกขยายตามพื้นที่ที่เหมาะสมกับรูปแบบแต่ละร้าน คาดว่าจะได้เห็นการขยายสาขาร้านเหล่านี้นอกโชว์ดีซีตั้งแต่ปี 2561

“หากโชว์ดีซีไปลงทุนสร้างห้างที่ภูเก็ต เชียงใหม่ หรือประเทศอื่นในอาเซียนก็คงตามไปเปิดร้านด้วย หากมีทำเลอื่นที่น่าสนใจในอาเซียน แม้โชว์ดีซีไม่ได้ไปขยายก็พร้อมไปขยายร้าน”

นอกจากการมุ่งขยายธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มผ่านบริษัทร่วมทุนอย่าง วายจี ฟู้ดส์ เอเชียแล้ว บัดดี้ กรุ๊ป ยังมีแผนขยายโรงแรมบัดดี้ โอเรียนทอล ริเวอร์ไซด์ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ด้วย โดยปัจจุบันโรงแรมนี้มี 83 ห้อง ยังใช้พื้นที่ไปเพียง 30% ของพื้นที่ทั้งหมด จึงวางแผนขยายเพิ่มอีก 80 ห้อง โดยสร้างอาคารใหม่ขึ้นมา ซึ่งห้องพักใหม่จะเป็นระดับราคาที่ต่ำกว่าห้องเดิมที่มีอยู่และขนาดเล็กกว่า รวมทั้งจะลงทุนห้องสัมมนา จัดเลี้ยงเพิ่มเติม

การลงทุนครั้งนี้ทำเพื่อรองรับตลาดการประชุม สัมมนาราชการ ซึ่งกระแสตอบรับดี เพราะโรงแรมนี้อยู่ติดริมแม่น้ำ บรรยากาศต่างจากโรงแรมอื่นย่านเดียวกัน ทำให้กลุ่มประชุม สัมมนานิยม แต่ยังรองรับกลุ่มสัมมนาขนาดใหญ่ไม่ได้ เพราะจำนวนห้องพักน้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบและประเมินเงินลงทุน คาดว่าเริ่มก่อสร้างได้ปี 2561

หลังแผนขยายลงทุนเหล่านี้ บัดดี้ กรุ๊ป คาดว่ารายได้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจะขยับเป็น 75% โรงแรม 25% จากปัจจุบันอาหารและเครื่องดื่ม 70% โรงแรม 30% เป้าหมายต่อไปของบัดดี้ กรุ๊ป คือการผลักดันธุรกิจในกลุ่มที่มีศักยภาพเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

เรียกว่ารุกหนักลงทุนทั้งในและนอกพื้นที่ถนนข้าวสารจริงๆ

ข่าวล่าสุด

SCB WEALTH กวาด 6 รางวัลระดับโลก สะท้อนความเป็นเลิศในทุกมิติการบริหารความมั่งคั่ง